(VOVWorld) – ท่านNguyễn Phú Trọng เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามกำลังเยือนสาธารณรัฐอิตาลีอย่างเป็นทางการซึ่งประจวบเหมาะกับโอกาสฉลองครบรอบ๔๐ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศโดยในการเยือนนี้ ผู้นำทั้งสองประเทศจะลงนามแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ พันธกรณีทางการเมืองที่เข้มแข็งของผู้นำทั้งสองประเทศจะสร้างเงื่อนไขล่วงหน้าเพื่อส่งเสริมให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในอนาคต

ตัวแทนรัฐบาลอิตาลี สำนักวาติกันและเจ้าหน้าที่สถานทูตเวียดนามและชาวเวียดนามที่อาศัยในอิตาลีไปต้อนรับท่านNguyễn Phú Trọng เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม(Photo:Internet)

 เหมือนประเทศอื่นๆในยุโรป ในการทำสงครามต่อต้านสหรัฐอเมริกาเพื่อช่วงชิงเอกราช เอกภาพและสันติภาพ ประชาชนเวียดนามได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนมิตรอิตาลีอย่างเข้มแข็ง รวมทั้ง ชาวอิตาลีรุ่นหนึ่งที่ได้เดินขบวนแสดงการสนับสนุนเวียดามเพื่อมโนธรรมและความยุติธรรม   ๔๐ปี นับตั้งแต่ทั้งสองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต โดยเฉพาะ นับตั้งแต่เวียดนามฟื้นฟูบูรณะประเทศหลังสงคราม และปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้พัฒนาอย่างเข้มแข็งในทุกด้าน อิตาลีเป็นประเทศยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือประเทศแรกที่ได้ให้การสนับสนุนการขยายความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรป ในฟอรั่มระหว่างประเทศ และการปรับปรุงความสัมพันธ์ให้เป็นปกติระหว่างเวียดนามกับองค์กรการเงินและการค้าระหว่างประเทศต่างๆ ทั้งสองประเทศให้ความสำคัญต่อสถานะและบทบาทของกัน การแลกเปลี่ยนด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนทวิภาคีได้พัฒนาอย่างมีเสถียรภาพ ผู้นำของอิตาลียืนยันถึงความตั้งใจที่จะผลักดันความร่วมมือในหลายด้านกับเวียดนามและถือเวียดนามเป็นประเทศที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในการพัฒนาความสัมพันธ์กับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นจุดนัดพบของบรรดานักธุรกิจอิตาลีตั้งแต่บัดนี้ถึงปี๒๐๒๐ โดยเฉพาะ ในหลายปีที่ติดต่อกัน อิตาลีเป็นหุ้นส่วนการค้าชั้นนำของเวียดนมในสหภาพยุโรปหรือEU ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่กำลังประสบความยากลำบากนานัปการ มูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศยังขยายตัวเป็นที่น่ายินดีโดยในปี๒๐๑๑อยู่ที่๒พัน๕ร้อย๓สิบล้านเหรียญสหรัฐ  เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ๓๘ และในปี๒๐๑๒อยู่ที่๒พัน๘ร้อยล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ๑๐ นายLê Hải Bình อธิบดีกรมนโยบายต่างประเทศแห่งกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้กล่าวว่า“ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับอิตาลีกำลังพัฒนาอย่างเข้มแข็ง โดยอิตาลีได้รับรองเศรษฐกิจเชิงตลาดของเวียดนามเมื่อปี๒๐๑๒และมีความประสงค์ที่จะสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับเวียดนาม ส่วนในการเยือนอิตาลีครั้งนี้ของเลขาธิการใหญ่Nguyễn Phú Trọngก็เพื่อฉลองครบรอบ๔๐ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตซึ่งเป็นนิมิตรหมายสำคัญในกระบวนการพัฒนาความสัมพันธ์ในตลอด๔๐ปีที่ผ่านมา”

นิทรรศการ“สามัคคีอิตาลีเวียดนาม” ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลี (Photo:Internet)

เพื่อปฏิบัติความตั้งใจของผู้นำทั้งสองประเทศคือผลักดันความสัมพันธ์ให้พัฒนาเข้าสู่ระยะใหม่ กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายกำลังเตรียมจัดกิจกรรมหลายอย่างซึ่งหนึ่งในกิจกรรมต่างๆในปีนี้เพื่อฉลองครบรอบ๔๐ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตก็คือ“วันวัฒนธรรมเวียดนามในอิตาลี” ที่กำลังมีขึ้น ณ กรุงโรม เพื่อขยายความสามัคคี สัมพันธไมตรีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ  มีส่วนร่วมขยายกิจกรรมพบปะสังสรรค์ เผยแพร่วัฒนธรรม ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ ประเทศ และคนเวียดนามในอิตาลี นายTrần Thanh Hải อดีตอัครราชทูตฝ่ายการพาณิชย์ สถานทูตเวียดนามประจำอิตาลีได้กล่าวว่า“อาจกล่าวได้ว่า จนถึงปัจจุบัน ชาวอิตาลียังไม่ทราบเกี่ยวกับประเทศเวียดนามที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวมากนัก โดยเฉพาะโบราณสถาน และทิวทัศน์ที่สวยงาม เช่น อ่าวฮาลอง พวกเราได้ประสานกับกระทรวงท่องเที่ยวอิตาลีและสมาคมท่องเที่ยวตามนครใหญ่ๆเพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเวียดนามเพราะ มีความจำเป็นอย่างยิ่งโดยผ่านการสัมมนา การประสานกับองค์การท่องเที่ยวของอิตาลีเพื่อวางแผนพานักท่องเที่ยวชาวอิตาลีมาท่องเที่ยวเวียดนาม”   นอกจากด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวแล้ว ทั้งสองฝ่ายยังขยายความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศและการกีฬาที่มีศักยภาพ ส่วนความร่วมมือทางด้านการศึกษาฝึกอบรมและการวิจัยวิทยาศาสตร์ก็ได้รับความสนใจจากทั้งสองฝ่าย เวียดนามและอิตาลียังเตรียมลงนามเอกสารร่วมมือจำนวนหนึ่งเพื่อปฏิบัติโครงการช่วยเหลือนักศึกษาเวียดนามที่ไปศึกษาในอิตาลีและโครงการร่วมมือในการวิจัยวิทยาศาสตร์ในอิตาลีในอนาคต  ส่วนสำหรับความร่วมมือระหว่างท้องถิ่น เช่นกรุงฮานอย กับกรุงโรม นครโฮจิมินห์กับนครมีลาน เมืองท่าไฮฟองกับนครGenoa กรุงเก่าเว้กับนครVenice จะได้รับการขยายกว้างในอนาคต บนพื้นฐานดังกล่าว การเยือนอิตาลีครั้งแรกของเลขาธิการใหญ่ Nguyễn Phú Trọng จะสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และการพบปะเจรจราต่างๆจะมีส่วนร่วมส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการเมือง การทูต เศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรม การศึกษา การป้องกันประเทศและความมั่นคงให้พัฒนายิ่งขึ้น และพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างยั่งยืนในอนาคต./.