นาย วลาดีเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย และ ท่าน เหงวียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม (RIA)

การเยือนรัสเซียครั้งนี้ของท่าน เหงวียนฟู้จ่องมีขึ้นท่ามกลางความสัมพันธ์ทวิภาคีที่กำลังพัฒนาอย่างดีงาม โดยเฉพาะมีขึ้นในช่วงก่อนที่ทั้งสองประเทศจัดกิจกรรมรำลึกครบรอบ 25ปีการลงนามสนธิสัญญาว่าด้วยหลักการขั้นพื้นฐานของความสัมพันธ์มิตรภาพเวียดนาม-รัสเซียในปี 2019และครบรอบ 70ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2020

ความสัมพันธ์ที่ยาวนาน

เมื่อหวนมองประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหภาพโซเวียดในอดีตและระหว่างเวียดนามกับรัสเซียในปัจจุบัน จะเห็นได้ว่า นี่คือความสัมพันธ์ที่อบอุ่น มีความไว้วางใจกัน พยายามฟันฝ่าอุปสรรคและความผันผวนของยุคสมัย  โดยสหภาพโซเวียดคือหนึ่งในประเทศแรกๆที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับเวียดนามเมื่อวันที่ 30มกราคมปี 1950ซึ่งสร้างพื้นฐานให้แก่การกระชับความสัมพันธ์มิตรภาพให้แน่นแฟ้นและความสัมพันธ์ร่วมมือที่ดีงามระหว่างสองประเทศและนับตั้งแต่ช่วงหลังเดือนธันวาคมปี 1991ความสัมพันธ์ร่วมมือในหลายด้านเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างเวียดนามกับสหพันธรัฐรัสเซียก็ได้รับการพัฒนาอย่างเข้มแข็งในทุกด้าน โดยการลงนามสนธิสัญญาว่าด้วยหลักการขั้นพื้นฐานของความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างเวียดนามกับสหพันธรัฐรัสเซียเมื่อวันที่ 16มิถุนายน ปี 1994ในโอกาสการเยือนรัสเซียของนายกรัฐมนตรีหวอวันเกียตได้ช่วยเปิดระยะการพัฒนาใหม่ของความสัมพันธ์ทวิภาคี

หลังจากนั้น การยกระดับความสัมพันธ์ให้เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านเมื่อปี 2012 ได้ช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจทางการเมืองระหว่างสองประเทศให้อยู่ในระดับสูง นาย ฝ่ามบิ่งมิง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ประเมินว่า“จากความไว้วางใจระดับสูงผ่านการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูง กลไกความร่วมมือในทุกด้านและการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดในฟอรั่มระหว่างประเทศถือเป็นพื้นฐานที่มั่นคงให้แก่การกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับสหพันธรัฐรัสเซียให้พัฒนาอย่างยั่งยืนและคล่องตัว”

ส่วนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศก็พัฒนาอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะหลังจากที่ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับสหภาพเศรษฐกิจเอเชียยุโรปมีผลบังคับใช้เมื่อเดือนตุลาคมปี 2016 ซึ่งในการเยือนเวียดนามเมื่อเดือนมีนาคมปี 2018 นาย เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียได้ให้ข้อสังเกตว่า“มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่าง 2 ประเทศเมื่อปี 2017 ได้เพิ่มขึ้นค่อนข้างสูงคือร้อยละ 30 ซึ่งผลสำเร็จดังกล่าวมาจากการปฏิบัติข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับสหภาพเศรษฐกิจเอเชีย-ยุโรป เวียดนามและรัสเซียได้เห็นพ้องกันว่า จะไม่เพียงแต่ให้ความสนใจส่งเสริมการค้าเท่านั้น หากยังขยายการลงทุนอีกด้วย และเชื่อมั่นว่า กลุ่มปฏิบัติงานระดับสูงด้านการลงทุนจะมีกิจกรรมต่างๆเพื่อผลักดันความร่วมมือในด้านนี้ให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ”

ปัจจุบัน รัสเซียอยู่อันดับที่ 22 จากจำนวนทั้งหมด 117 ประเทศและดินแดนที่ลงทุนในเวียดนามโดยมี 116 โครงการที่ยังดำเนินการอยู่ รวมยอดเงินลงทุนจดทะเบียน 990 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงโครงการของบริษัทร่วมทุน  Vietsovpetro และ Vietgazprom ซึ่งส่วนใหญ่เน้นลงทุนด้านปิโตรเลี่ยม อุตสหกรรม การผลิต พลังงาน การทำเหมืองแร่ คมนาคม การเพาะปลูกและการประมง ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวรัสเซียที่เดินทางมาเที่ยวเวียดนามเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 30ต่อปี และอยู่ที่เกือบ 6 แสนคนในปี 2017

นาย เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย  ( Iranianpresident)

ร่วมกันสร้างสรรค์อนาคต

การเยือนรัสเซียครั้งนี้ของเลขาธิการใหญ่พรรคฯ เหงวียนฟู้จ่องมีวัตถุประสงค์เพื่อปฏิบัติแนวทางการต่างประเทศที่อิสระ เป็นตัวของตัวเอง สันติภาพ ความร่วมมือและการพัฒนา มีความสัมพันธ์หลายรูปแบบหลายฝ่าย เป็นฝ่ายรุกในการผสมผสานอย่างพร้อมเพรียงและสมบูรณ์ สร้างบรรยากาศระหว่างประเทศที่เอื้อให้แก่การปฏิบัติภารกิจการสร้างสรรค์ พิทักษ์รักษาและพัฒนาประเทศ

ในกรอบการเยือนนี้ เลขาธิการใหญ่พรรคฯ เหงวียนฟู้จ่องและผู้นำรัสเซียจะหารือถึงแนวทางและมาตรการกระชับความสัมพันธ์ในทุกด้าน อีกทั้งหารือถึงปัญหาต่างๆในภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วมกัน ซึ่งจะมีส่วนร่วมแปรเนื้อหาความร่วมมือในด้านต่างๆให้เป็นรูปธรรมและสร้างก้าวกระโดดในโครงการร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ

ทั้งนี้ อาจกล่าวได้ว่า ความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานระหว่าง 2 ประเทศได้ฟันฝ่าอุปสรรค์และความผันผวนของกาลเวลาเนื่องจากได้รับการทำนุบำรุงจากผู้นำและประชาชนทั้ง 2 ประเทศ การเยือนรัสเซียครั้งนี้ของเลขาธิการใหญ่พรรคฯเหงวียนฟู้จ่องจะเป็นนิมิตรหมายที่สำคัญ สร้างแรงกระตุ้นเพื่อกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านให้พัฒนาตามส่วนลึกอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพมากขึ้น.