นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกกับเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ (กลาง) (Photo: vietnamplus.vn)

ความร่วมมือในด้านต่างๆระหว่างเวียดนามกับสหประชาชาติในตลอด 40ปีที่ผ่านมา ได้เกิดประสิทธิผล ซึ่งตอบสนองความต้องการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของเวียดนามในแต่ละระยะ โดยในการกล่าวปราศรัยในกรอบการเยือนประเทศสหรัฐในระหว่างวันที่ 29 – 31 พฤษภาคม นาย เหงวียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ยํ้าว่า ประชาชนเวียดนามจดจำการให้ความช่วยเหลือที่ลํ้าค่าของสหประชาชาติและประชาคมระหว่างประเทศทั้งในการฟื้นฟูประเทศหลังสงครามและการพัฒนาประเทศในปัจจุบัน

นิมิตรหมายแห่งความร่วมมือ

หลังจากเข้าเป็นสมาชิกของสหประชาชาติเมื่อปี 1977 เวียดนามได้แสวงหาการสนับสนุนจากประเทศสมาชิกสหประชาชาติเพื่อเรียกร้องให้ประเทศและองค์กรระหว่างประเทศช่วยเหลือเวียดนามฟื้นฟูประเทศหลังสงคราม ซึ่งในระยะปี 1977 – 1986 องค์กรต่างๆของสหประชาชาติได้ช่วยเหลือเวียดนามลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการศึกษา สาธารณสุข รวมทั้งการดูแลสุขภาพแม่และเด็ก ตลอดจนปัญหาประชากรและการวางแผนครอบครัว  ความร่วมมือกับสหประชาชาติได้มีส่วนช่วยยกระดับทักษะการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการผลิต อีกทั้งช่วยฟื้นฟูและก่อสร้างโรงงานต่างๆเพื่อการพัฒนาประเทศเวียดนาม นอกจากนี้ นี่ยังเป็นช่องทางเพื่อให้เวียดนามสามารถเข้าถึงเงินสนับสนุนจากประเทศตะวันตกในช่วงที่กำลังถูกโดดเดี่ยวจากสหรัฐ

ในการปฏิบัติภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ เงินช่วยเหลือในรูปให้เปล่าของสหประชาชาติได้ช่วยรัฐบาลเวียดนามจัดทำนโยบายพัฒนาประเทศ  ซึ่งตามข้อเสนอของรัฐบาลเวียดนาม สหประชาชาติได้เปลี่ยนจากการสนับสนุนด้านเทคนิกมาเป็นการสนับสนุนการปฏิบัติมาตรการปฏิรูปนโยบายและกลไกด้านเศรษฐกิจ รวมถึงสถานประกอบการภาครัฐ ระเบียบราชการ กฎหมาย การวางแผนการลงทุนสาธารณะ การพัฒนาระบบธนาคาร พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือในด้านอื่นๆ เช่น การป้องกันและปราบปรามเชื้อ HIV และโรคเอดส์ การพัฒนาประชาธิปไตยในหน่วยงานต่างๆและการส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ

ถึงแม้ สหประชาชาติสนับสนุนเงินประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่เวียดนามในเวลาที่ผ่านมาเท่านั้น แต่ก็มีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่งเพราะเงินจำนวนนี้สามารถช่วยเหลือเวียดนามในด้านที่สำคัญๆ เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจ การจัดทำนโยบาย กฎหมายและแก้ไขปัญหาสังคมที่เร่งด่วน

เวียดนามคือสมาชิกที่มีความรับผิดชอบของสหประชาชาติ

จากแนวทางการต่างประเทศที่มีความสัมพันธ์หลายรูปแบบหลายฝ่าย พร้อมเป็นเพื่อนมิตรกับทุกประเทศและในฐานะประเทศสมาชิกสหประชาชาติ เวียดนามได้กระชับความสัมพันธ์กับองค์กรต่างๆของสหประชาชาติ อีกทั้งขยายความสัมพันธ์ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคีกับประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ โดยได้ปฏิบัติหน้าที่สมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2008 – 2009 อย่างลุล่วงไปด้วยดี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เวียดนามเข้าร่วมกิจกรรมขององค์กรที่สำคัญที่สุดของสหประชาชาติ นอกจากนี้ เวียดนามยังเข้าร่วมอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี หรือ CWC เมื่อปี 1998 เป็นหนึ่งในประเทศแรกๆที่ลงนามในสนธิสัญญาห้ามการทดลองนิวเคลียร์หรือCTBT เมื่อปี 1996 และในปีเดียวกันก็เข้าร่วมการประชุมว่าด้วยการปลดอาวุธ และเป็นสมาชิกสภาสิทธิมนุษยชนวาระปี 2014 – 2016 นาย เหงวียนจุงแถ่ง อดีตสมาชิกกลุ่มปฏิบัติงานของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติได้เผยว่า

“เวียดนามได้รับการสนับสนุนให้มีบทบาทที่สำคัญในสภาสิทธิมนุษยชน ซึ่งถือเป็นการยกย่องส่วนร่วมของเวียดนามจากประชาคมระหว่างประเทศและช่วยเวียดนามสามารถถอดประสบการณ์ต่างๆเพื่อมีส่วนร่วมเปลี่ยนแปลงใหม่และพัฒนาประเทศ อีกทั้งผลักดันการปกป้องสิทธิมนุษยชนภายในประเทศและร่วมมือกับประเทศต่างๆในเรื่องนี้”

นอกเหนือจากการดึงดูดเงินสนับสนุนจากองค์กรต่างๆของสหประชาชาติแล้ว เวียดนามยังได้สร้างสรรค์รูปแบบความร่วมมือและเข้าร่วมองค์กรต่างๆของสหประชาชาติอีกด้วย  เช่น รูปแบบความร่วมมือไตรภาคีถือเป็นตัวอย่างที่ดีของความร่วมมือใต้-ใต้ ประสานงานกับองค์กรต่างๆของสหประชาชาติอย่างเข้มแข็งในการปฏิบัติความคิดริเริ่ม “ความเป็นเอกภาพในการปฏิบัติ” ของสหประชาชาติ ซึ่งได้รับการชื่นชมเป็นอย่างมากจากบรรดานักอุปถัมภ์  ปัจจุบัน เวียดนามกำลังแสวงหาการสนับสนุนเพื่อเข้าเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2020-2021 นาง Pratibha Mehta ผู้ประสานงานของสหประชาชาติประจำเวียดนามช่วงปี 2012-2016 ได้ประเมินว่า

“เวียดนามได้เข้าร่วมกิจกรรมของสหประชาชาติอย่างเข้มแข็ง เช่น เข้าร่วมสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เป็นสมาชิกของสภาเศรษฐกิจ-สังคมแห่งสหประชาชาติ ตลอดจนเข้าร่วมกองกำลังรักษาสันติภาพ ณ ประเทศซูดานและจัดตั้งศูนย์รักษาสันติภาพ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสหประชาชาติกับเวียดนาม”

จากผลความร่วมมือในตลอด 40ปีที่ผ่านมา ในอีกรอบ 5 ปีข้างหน้า สหประชาชาติจะให้ความช่วยเหลือรัฐบาลเวียดนามในการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเน้นการช่วยเหลือคนจน ผู้ด้อยโอกาส การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การผลักดันความเจริญรุ่งเรืองและความสัมพันธ์หุ้นส่วน

ทั้งนี้และทั้งนั้น แสดงให้เห็นว่า ผลความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับสหประชาชาติในตลอด 40ปีที่ผ่านมาถือเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นเกี่ยวกับความร่วมมือในการพัฒนาระหว่างประเทศสมาชิกของสหประชาชาติ อำนวยความสะดวกให้แก่ความพยายามของทั้ง 2 ฝ่ายในการยกระดับประสิทธิภาพความร่วมมือ สนับสนุนการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยของเวียดนามและมีส่วนร่วมยกระดับบทบาทของสหประชาชาติในยุคใหม่.