(VOVWORLD) - วันที่ 15 ธันวาคม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน - ญี่ปุ่น ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และเข้าร่วมกิจกรรมทวิภาคีในญี่ปุ่น การปฏิบัติภารกิจในระหว่างวันที่ 15-18 ธันวาคมไม่เพียงแต่ยืนยันถึงบทบาทและการมีส่วนร่วมที่สำคัญของเวียดนามต่อความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่นเท่านั้น หากยังเป็นโอกาสเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์เวียดนาม-ญี่ปุ่นในกรอบความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านอาเซียน-ญี่ปุ่นที่เพิ่งได้รับการจัดตั้งอีกด้วย
นาย ยามาดะ ทาคิโอะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำเวียดนาม ส่งนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ณ สนามบินนานาชาติโหน่ยบ่าย (VNA) |
การประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่นเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายมีขึ้นในระหว่างวันที่ 16-18 ธันวาคม ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในระยะแห่งความร่วมมือยุทธศาสตร์ที่นับวันเข้าสู่ส่วนลึกระหว่างสองฝ่ายในหลายปีที่ผ่านมา เวียดนามได้มีส่วนร่วมที่สำคัญ ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่พัฒนาอย่างดีงามระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่น
การมีส่วนร่วมที่สำคัญของเวียดนามต่อความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น
เมื่อกล่าวถึงสถานะและบทบาทของเวียดนามในความร่วมมืออาเซียน-ญี่ปุ่น นาย ยามาดะ ทาคิโอะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำเวียดนามได้ย้ำว่า สำหรับญี่ปุ่น เวียดนามเป็นประเทศที่ “สำคัญเป็นอย่างมาก” ในอาเซียน โดยมีบทบาทเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาคและกำหนดพลังขับเคลื่อนในภูมิภาค ยกตัวอย่างเช่น ในด้านการลงทุน ตามผลสำรวจความคิดเห็นขององค์การส่งเสริมการค้าญี่ปุ่นหรือ JETRO เมื่อต้นปีนี้ปรากฎว่า เวียดนามเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งในกลุ่มอาเซียนที่บริษัทญี่ปุ่นต้องการเข้าไปลงทุนเช่นเดียวกับความเห็นดังกล่าว นาย คิยะ มาซาฮิโกะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำอาเซียนได้ประเมินว่า ความสัมพันธ์ร่วมมือเวียดนาม-ญี่ปุ่นมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่นและธำรงบรรยากาศความร่วมมือที่เข้มแข็งในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
“เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่สำคัญของอาเซียนซึ่งตั้งอยู่บนเส้นทางทะเลที่สำคัญในการเชื่อมระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกกับมหาสมุทรอินเดีย มีบทบาทที่สำคัญในการธำรงความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือในภูมิภาค สำหรับญี่ปุ่น เวียดนามเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญมาก โดยไม่เพียงแต่ในด้านความมั่นคงเท่านั้น หากยังรวมถึงเศรษฐกิจและในทุกด้านอีกด้วย ความสัมพันธ์นี้กำลังพัฒนามากขึ้น และไม่เพียงแต่มีความสำคัญต่อเวียดนามและญี่ปุ่นเท่านั้น หากยังมีความสำคัญต่ออาเซียน ภูมิภาคอินโดแปซิฟิก และรวมถึงการธำรงสันติภาพและความมั่นคงและเสถียรภาพอีกด้วย”
นาย ฝ่ามกวางเหียว เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำญี่ปุ่นได้กล่าวถึงการมีส่วนร่วมของเวียดนามต่อความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่นว่า เมื่อญี่ปุ่นเสนอให้จัดการประชุมสุดยอดเพื่อรำลึกและสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านอาเซียน-ญี่ปุ่นในปีนี้ เวียดนามได้ให้การสนับสนุนและมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งเพื่อแปรข้อเสนอนี้ให้เป็นรูปธรรม ค้ำประกันกระบวนการที่อาเซียนและญี่ปุ่นได้วางไว้ตั้งแต่ต้นปีนี้ให้ดำเนินไปตามกำหนดการ
นอกจากนี้ หนึ่งในส่วนร่วมที่โดดเด่นที่สุดของเวียดนามในการส่งเสริมความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่นในหลายปีที่ผ่านมาคือการที่เวียดนามประสบความสำเร็จในการดำรงตำแหน่งผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่นในช่วงปี 2018-2021 ท่ามกลางความยากลำบากและความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การประสานงานของเวียดนามได้นำผลประโยชน์อย่างจริงจังมาให้แก่ทั้งสองฝ่าย โดยญี่ปุ่นได้สนับสนุนเงิน 50 ล้านดอลลาร์เพื่อจัดตั้งศูนย์อาเซียนว่าด้วยสาธารณสุขฉุกเฉินและโรคอุบัติใหม่หรือ ACPHEED ที่ได้รับการประกาศเมื่อปี 2020 ซึ่งตรงกับปีที่เวียดนามดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน
นาย ฝ่ามกวางเหียว เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำญี่ปุ่น (baoquocte.vn) |
ส่งเสริมความร่วมมือเวียดนาม-ญี่ปุ่นในกรอบความสัมพันธ์ใหม่
นอกจากการส่งเสริมความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่นแล้ว การปฏิบัติภารกิจของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ยังเป็นนิมิตหมายใหม่ของความสัมพันธ์เวียดนาม-ญี่ปุ่น การปฏิบัติภารกิจนี้มีขึ้นไม่ถึงหนึ่งเดือนหลังจากที่ทั้งสองประเทศยกระดับความสัมพันธ์เป็น “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในเอเชียและโลก” ในโอกาสการเยือนญี่ปุ่นของนาย หวอวันเถือง ประธานประเทศเวียดนามในระหว่างวันที่ 27-30 พฤศจิกายน นาย ฝ่ามกวางเหียว เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศญี่ปุ่นได้แสดงความเห็นว่า การเยือนญี่ปุ่นของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ในครั้งนี้ ได้รับการคาดหวังว่า จะสร้างแรงผลักดันที่เข้มแข็งมากขึ้น ช่วยให้ทั้งสองประเทศแปรเนื้อหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในความร่วมมือยุทธศาสตร์ใหม่อย่างเป็นรูปธรรม
“การเยือนญี่ปุ่นของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง และการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน – ญี่ปุ่นจะมีส่วนที่สำคัญต่อความสำเร็จของการประชุม อีกทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์เวียดนาม – ญี่ปุ่นในกรอบความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านที่เพิ่งได้รับการจัดตั้งขึ้น อีกทั้ง ได้รับการคาดหวังว่า จะสร้างพลังขับเคลื่อนที่เข้มแข็งให้แก่การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสองประเทศในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน แรงงานและนำความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองประเทศพัฒนาเข้าสู่ส่วนลึก จริงจังและมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
นาย ยามาดะ ทาคิโอะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำเวียดนามเผยว่า ในกรอบการเยือนครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ทั้งสองประเทศจะจัดการเจรจาระดับนายกรัฐมนตรีครั้งแรกภายหลังการยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคี โดยผู้นำของทั้งสองประเทศจะหารือเกี่ยวกับแนวทางที่เป็นรูปธรรมเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในทุกด้านในกรอบความสัมพันธ์ใหม่
ท่านเอกอัครราชทูต ยามาดะ ทาคิโอะ ประเมินว่า ความร่วมมือหุ้นส่วนใหม่ครอบคลุมในทุกด้านของความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่น เช่น การค้า การลงทุน นวัตกรรม ประชาคมปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์แห่งเอเชียหรือ AZEC ความมั่นคงและกลาโหม การเชื่อมโยงในยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้างหรือ FOIP การแลกเปลี่ยนระดับประชาชน การแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมและการประสานงานในเวทีระดับภูมิภาคและโลก เอกอัครราชทูต ยามาดะ ทาคิโอะ ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ในปัจจุบันระหว่างทั้งสองประเทศไม่เพียงแต่อยู่ในระดับทวิภาคีเท่านั้น หากยังพัฒนาอย่างเข้มแข็ง มีส่วนร่วมต่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคและโลกอีกด้วย.