ท่าน เออร์นา โซลเบิร์ก  นายกรัฐมนตรีนอรเวย์

ในกรอบการเยือนเวียดนามครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านจะหารือเกี่ยวกับแนวทางที่เป็นรูปธรรมเพื่อผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและด้านที่สำคัญอื่นๆ การเยือนมีบทบาทสำคัญในการขยายความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ยกระดับจิตสำนึกที่เกี่ยวข้องถึงโครงการปฏิบัติเป้าหมายแห่งสหัสวรรษและเป้าหมายพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ
สัมพันธไมตรีและความร่วมมือที่ดีงาม
เวียดนามและนอรเวย์สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนปี 1971 ซึ่งในตลอด 40 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้พัฒนาอย่างเข้มแข็งและเข้าสู่ส่วนลึกในหลายด้าน เช่นการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและสังคม ทั้งสองประเทศได้แลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับโดยล่าสุดคือการพบปะระหว่างนายกรัฐมนตรี เหงียนเติ๊นหยุงกับนายกรัฐมนตรีนอรเวย์ เออร์นาโซลเบิร์ก นอกรอบการประชุมสุดยอดความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ครั้งที่ 3 ที่เนเธอร์แลนด์เมื่อเดือนมีนาคมปี 2014และนอกรอบการประชุมสุดยอดอาเซมครั้งที่ 10 ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลีเมื่อเดือนตุลาคมปี 2014 ทั้งสองฝ่ายยังมีกลไกความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพ เช่นการจัดการทาบทามทางการเมืองระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 7 ครั้งและการสนทนาเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนระดับอธิบดีกรมของกระทรวงการต่างประเทศ 11 ครั้งเพื่อขยายความเข้าใจและความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม
ในด้านเศรษฐกิจ การแลกเปลี่ยนการค้าระหว่างเวียดนามกับนอรเวย์ในปี 2014 บรรลุกว่า 307 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 27 เมื่อเทียบกับปี 2013 สินค้าส่งออกหลักของเวียดนามไปยังนอรเวย์ ประกอบด้วย สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้า ไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์จากไม้และมะม่วงหิมพานต์ เวียดนามนำเข้าสินค้าหลักคือ สัตว์น้ำ เครื่องจักรกลและอุปกรณ์ เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2012 เวียดนามและกลุ่มการค้าเสรียุโรป EFTA ประกอบด้วยนอรเวย์ สวิสเซอร์แลนด์ ไอซ์แลนด์และลิกเตนสไตน์ได้เริ่มการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีหรือเอฟทีเอโดยทุกฝ่ายได้เสร็จสิ้นการเจรจารอบที่ 11 ที่นครโฮจิมินห์เมื่อเดือนมกราคมปี 2015 จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ปี 2015 นอรเวย์มีโครงการลงทุน 30 โครงการที่ยังมีผลบังคับใช้ รวมยอดเงินจดทะเบียนกว่า 120 ล้านเหรียญสหรัฐ อยู่อันดับ 37 จากจำนวน 101 ประเทศและดินแดนที่ลงทุนในเวียดนาม ปัจจุบัน มีสถานประกอบการนอรเวย์ 40 แห่งที่กำลังประกอบธุรกิจในเวียดนามโดยเน้นลงทุนในนคร  โฮจิมินห์ หวุงเต่า กรุงฮานอย แค้งหว่า บิ่งเยืองและไฮฟองซึ่งส่วนใหญ่ประกอบธุรกิจในด้านการแปรรูป วัสดุก่อสร้าง เครื่องเฟอร์นิเจอร์ เกษตร ป่าไม้ สัตว์น้ำ การสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ สำหรับเงินลงทุนของนอรเวย์ส่วนใหญ่เป็นรูปแบบเงินลงทุนจากต่างประเทศ 100% ซึ่งกำลังประกอบธุรกิจในท้องถิ่น 7 แห่งของเวียดนาม
สำหรับความสัมพันธ์ด้านการทูตเวียดนาม-นอรเวย์ในตลอด 40 ปีที่ผ่านมา นาง Siren Gjerme Eriksen เอกอัครราชทูตนอรเวย์ประจำเวียดนามได้แสดงความเห็นว่า“นอรเวย์และเวียดนามได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตที่ลึกซึ้งและพัฒนาในหลายด้านมาเป็นเวลา 44 ปี เวียดนามได้ประสบความก้าวหน้าที่น่ายินดีในการแก้ปัญหาความยากจน การพัฒนาและผสมผสานเข้ากับกระแสภูมิภาคและโลก ในหลายปีมานี้ นอรเวย์ได้ให้ความสนใจถึงการสร้างสรรค์ทักษะด้านเทคนิค พวกเราได้ประชุมกับเวียดนามในด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนร่วมมือกับสถาบันวิจัยและมหาวิทยาลัยต่างๆของเวียดนาม”
เสริมสร้างความสัมพันธ์ร่วมมือพัฒนาเวียดนาม-นอรเวย์
ความสัมพันธ์ร่วมมือเวียดนาม-นอรเวย์ได้รับการฟื้นฟูนับตั้งแต่ทั้งสองฝ่ายลงนามกรอบข้อตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือพัฒนาเมื่อเดือนตุลาคมปี 1996 ซึ่งยอดเงินที่นอรเวย์สนับสนุนให้แก่เวียดนามอยู่ที่กว่า 320 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนั้น นอรเวย์ยังปฏิบัติโครงการสนับสนุนสินเชื่อด้วยดอกเบี้ยพิเศษสำหรับโครงการจัดสรรน้ำประปา การบำบัดน้ำเสียและขยะมูลฝอยในจังหวัดต่างๆของเวียดนาม ในหลายปีที่ผ่านมา นอรเวย์ยังคงให้การช่วยเหลือและสนับสนุนเวียดนามในภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ การแก้ปัญหาความยากจนและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกและเป็นหนึ่งในประเทศที่เสร็จสิ้นการเจรจาในการขอเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลกของเวียดนามอย่างรวดเร็วและทั้งสองฝ่ายยังคงประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพในฟอรั่มและองค์การระหว่างประเทศ เช่นสหประชาชาติและองค์การการค้าโลก

ปี 2015 เป็นปีสุดท้ายของกระบวนการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษของสหประชาชาติและเป็นช่วงที่ประเทศสมาชิกของสหประชาชาติทำการเจรจาเพื่อจัดทำโครงการพัฒนาหลังปี 2015 และร่างเป้าหมายพัฒนาอย่างยั่งยืน นี่ก็คือเนื้อหาสำคัญที่นายกรัฐมนตรีนอรเวย์ เออร์นา โซลเบิร์ก เสนอในกรอบการเยือนเวียดนามครั้งนี้ นาง Siren Gjerme Eriksen ได้เผยว่า“ท่าน เออร์นา โซลเบิร์ก นายกรัฐมนตรีนอรเวย์เดินทางมาเยือนเวียดนามเพื่อร่วมเป็นประธานกลุ่มที่ปรึกษาเกี่ยวกับเป้าหมายสหสวรรษของเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ ท่าน เออร์นา โซลเบิร์ก เลือกมาเยือนเวียดนามในช่วงนี้เพราะเวียดนามได้บรรลุผลงานสำคัญในการปฏิบัติเป้าหมายแห่งสหัสวรรษ นายกรัฐมนตรีนอรเวย์จะส่งเสริมให้เวียดนามปฏิบัติงานของตนต่อไปเพื่อแก้ไขความท้าทายที่เหลือ”

ในเวลาที่ผ่านมา นอรเวย์เป็นหนึ่งในประเทศที่สนับสนุนและช่วยเหลือเวียดนามในการปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของเวียดนามอยู่เสมอ สนับสนุนเวียดนามปฏิบัติข้อคิดริเริ่ม “มีความเป็นเอกภาพในการปฏิบัติของสหประชาชาติหรือองค์การสหประชาชาติองค์การเดียว” ในโอกาสนายกรัฐมนตรีนอรเวย์มาเยือนเวียดนาม เอกอัครราชทูตนอรเวย์และผู้ประสานงานของสหประชาชาติประจำกรุงฮานอยจะลงนามข้อตกลงให้การช่วยเหลือโครงการสหประชาชาติองค์การเดียวในเวียดนามมูลค่า 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐ./.