เอพีพีเอฟ 27 ยกระดับสถานะของสภาแห่งชาติเวียดนาม
HongVan/VOV5 -  
(VOVWORLD) - ประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม เหงียนถิกิมเงิน ได้นำคณะผู้แทนสภาแห่งชาติเข้าร่วมการประชุมฟอรั่มรัฐสภาเอเชียแปซิฟิกหรือเอพีพีเอฟครั้งที่ 27 ณ ประเทศกัมพูชา การที่ผู้นำสูงสุดของสภาแห่งชาติเวียดนามเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของเวียดนามต่อความร่วมมือกับรัฐสภาในภูมิภาค อีกทั้งเป็นโอกาสเพื่อให้เวียดนามมีส่วนร่วมต่อกระบวนการพัฒนาของเอพีพีเอฟต่อไป
การประชุมเอพีพีเอฟครั้งที่ 26 |
เอพีพีเอฟได้รับการก่อตั้งเมื่อปี 1993 เป็นฟอรั่มสำหรับบรรดาส.สและสภาแห่งชาติของประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปัจจุบัน เอพีพีเอฟมีสมาชิกรัฐสภา 27 ประเทศ เช่นออสเตรเลีย กัมพูชา แคนาดา ชิลี โคลัมเบีย จีน เอกวาดอร์ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี ลาว มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ รัสเซีย สิงคโปร์ ไทย สหรัฐ ส่วนเวียดนามที่เข้าเป็นสมาชิกของเอพีพีเอฟเมื่อเดือนมกราคมปี 1995
นิมิตหมายของเวียดนามในเอพีพีเอฟ
สภาแห่งชาติเวียดนามกำหนดว่า การเข้าร่วมการประชุมประจำปีของเอพีพีเอฟคือกิจกรรมการต่างประเทศพหุภาคีที่สำคัญในโครงการการปฏิบัติงานด้านการต่างประเทศประจำปี นับตั้งแต่เป็นสมาชิกของเอพีพีเอฟเมื่อเดือนมกราคมปี 1995 สภาแห่งชาติเวียดนามได้เข้าร่วมกิจกรรมของฟอรั่มอย่างเข้มแข็ง ส่วนร่วมและข้อคิดริเริ่มของเวียดนามสะท้อนให้เห็นในทุกด้าน ตั้งแต่การผลักดันการประสานงานระหว่างรัฐสภากับรัฐบาลของประเทศต่างๆในเอเชีย แปซิฟิก ไปจนถึงการผลักดันการอนุมัติมติเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การจัดตั้งกลไกร่วมมือของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในการประเมินเกี่ยวกับความสำคัญของความร่วมมือของเอพีพีเอฟกับเวียดนาม นาง เหงียนถิกิมเงิน ประธานสภาแห่งชาติเวียดนามได้แสดงความเห็นว่า “เวียดนามชื่นชมและสนับสนุนเป้าหมายต่างๆของฟอรั่มเอพีพีเอฟ ซึ่งถือเป็นฟอรั่มสำคัญ มีส่วนร่วมผลักดันการสนทนาเกี่ยวกับปัญหาการเมือง ความมั่นคงและผลประโยชน์ร่วมกันในเอเชียแปซิฟิก ผลักดันการสร้างความไว้วางใจ ความร่วมมือเพื่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค สภาแห่งชาติเวียดนามจะร่วมมืออย่างเข้มแข็งต่อไป ร่วมกับเอพีพีเอฟและรัฐสภาของประเทศต่างๆแปรวิสัยทัศน์ที่พวกเราได้วางไว้ให้กลายเป็นความจริงและปฏิบัติข้อเสนอและมติของเอพีพีเอฟให้กลายเป็นรูปธรรม”
ประธานสภาแห่งชาติ เหงียนถิกิมเงิน |
ในฐานะเป็นสมาชิกของเอพีพีเอฟ เวียดนามได้สร้างนิมิตหมายพิเศษในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับสูงสุดของความร่วมมือรัฐสภาภูมิภาค 2 ครั้งคือเอพีพีเอฟครั้งที่ 13 ปี 2005 และเอพีพีเอฟครั้งที่ 26 ปี 2018 โดยในการประชุมเอพีพีเอฟครั้งที่ 13 เวียดนามได้เสนอเกี่ยวกับความร่วมมือผ่านวิกฤตเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิ ซึ่งเป็นปฏิบัติการที่ทันการณ์ สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจ การแลกเปลี่ยนของประเทศสมาชิกเอพีพีเอฟต่อประเทศที่ได้รับความเสียหาย
การประชุมเอพีพีเอฟครั้งที่ 26 พร้อมการออก “แถงการณ์ฮานอย” ได้เปิดวิสัยทัศน์ใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนรัฐสภาเอเชียแปซิฟิกจนถึงปี 2030 และเป็นครั้งแรกที่การประชุมส.ส สตรีเอพีพีเอฟได้รับการจัดขึ้นอย่างเป็นทางการและได้กลายเป็นการประชุมประจำของฟอรั่ม เอพีพีเอฟ 26 ยังประสบความสำเร็จในการผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนระหว่างเอพีพีเอฟกับฟอรั่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกหรือเอเปก สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของการทูตรัฐสภาในระยะพัฒนาใหม่ของมนุษยชาติ รองประธานวุฒิสภากัมพูชา เทพ งอน หัวหน้าคณะผู้แทนของกัมพูชาในเอพีพีเอฟครั้งที่ 26 ประเมินว่า “ความสำเร็จของการประชุมได้สร้างนิมิตหมายใหม่ให้แก่เอพีพีเอฟภายใต้อำนวยการของประธานสภาแห่งชาติ เหงียนถิกิมเงิน พร้อมกับส่วนร่วมและการแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์จากประเทศสมาชิก ความสำเร็จใหม่นี้สะท้อนให้เห็นถึงจิตใจแห่งความรับผิดชอบ ตลอดจนคำมั่นทางการเมืองที่ได้แปรการปฏิบัติวิสัยทัศน์และผลักดันความร่วมมือในภูมิภาคให้กลายเป็นความจริง กัมพูชารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดเอพีพีเอฟ 27 และพวกเราพร้อมค้ำประกันทุกเงื่อนไขเพื่อให้กิจกรรมนี้ประสบความสำเร็จ”
มีส่วนร่วมในฟอรั่มรัฐสภาพหุภาคีต่อไป
จากการสานต่อคำมั่นที่ได้รับการยืนยันในแถลงการณ์ฮานอย หัวข้อของการประชุมเอพีพีเอฟครั้งที่ 27 ณ เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชาคือ “ผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนรัฐสภาเพื่อสันติภาพ ความมั่นคงและการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ประธานสภาแห่งชาติ เหงียนถิกิมเงินได้กล่าวปราศรัยในพิธีเปิดการประชุมในฐานะประธานเอพีพีเอฟครั้งที่ 26 ส่วนสมาชิกของคณะฯจะเข้าร่วมและกล่าวในการหารือเกี่ยวกับปัญหาการเมืองและความมั่นคง ปัญหาเศรษฐกิจและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเข้าร่วมคณะกรรมการจัดทำมติ ประกาศร่วมและแถลงการณ์เสียมราฐ
ในตลอดกว่า 20 ปีที่เป็นสมาชิกของฟอรั่มรัฐสภาเอเชียแปซิฟิก สภาแห่งชาติเวียดนามนับวันมีส่วนร่วมที่เป็นรูปธรรมเพื่อให้ความร่วมมือในเอพีพีเอฟมีความเข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งความพยายามนี้ก็มีส่วนร่วมต่อบรรยากาศที่สันติภาพและเสถียรภาพเพื่อให้เวียดนามและประเทศต่างๆร่วมกันพัฒนา.
HongVan/VOV5