แชงกรีลา 2018: เชิดชูความรับผิดชอบของประเทศต่างๆในการรักษาสันติภาพของภูมิภาค
Anh Huyen/VOV5 -  
(VOVWORLD) - การสนทนาแชงกรีลาครั้งที่ 17 ซึ่งเป็นฟอรั่มความมั่นคงที่สำคัญอันดับต้นๆของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้เสร็จสิ้นลงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ณ ประเทศสิงคโปร์ ในการสนทนาครั้งนี้ ประเทศต่างๆมีความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับวิธีการเข้าถึงการแก้ไขความท้าทายด้านความมั่นคงในปัจจุบัน นั่นคือการเชิดชูความรับผิดชอบ ผลักดันการสนทนาเพื่อแก้ไขและรับมือกับแนวโน้มเปลี่ยนแปลงระเบียบในเอเชียและย่านเอเชียแปซิฟิก
รัฐมนตรีกลาโหมเวียดนาม โงซวนหลีกและบรรดารัฐมนตรีประเทศสมาชิกอาเซียน (vietnamplus) |
การสนทนาแชงกรีลาปีนี้กล่าวถึงปัญหาด้านความมั่นคงที่ร้อนระอุที่สุดของภูมิภาค โดยมีผู้แทนกว่า 500 คนซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านกลาโหม นักวิชการจาก 50 ประเทศและดินแดน รัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยกว่า 40 คนเข้าร่วม
นี่คือการสนทนาแชงกรีลาที่มีรัฐมนตรีกลาโหมเข้าร่วมมากที่สุด ซึ่งเป็นโอกาสเพื่อให้ประเทศต่างๆกล่าวถึงภัยคุกคามด้านความมั่นคงใหม่ที่ภูมิภาคกำลังต้องเผชิญ เพื่อเสนอวิธีการร่วมมือสามารถค้ำประกันภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่เสถียรภาพ สันติภาพและพัฒนาเจริญรุ่งเรือง
แสวงหาเสียงพูดเดียวกัน
ในฟอรั่มนี้ อินเดียได้มีเสียงพูดเดียวกันกับอาเซียนในคำมั่นมุ่งสู่ภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย แปซิฟิกที่เสรี เปิดกว้างและโปร่งใสตามกฎหมาย สันติภาพ ความเจริญรุ่งเรืองและมีการเข้าร่วมของหลายฝ่าย ในบทปราศรัยในฟอรั่มแชงกรีลา นายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี ได้กล่าวถึงวิสัยเกี่ยวกับภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย แปซิฟิกที่เปิดกว้าง มีหลายฝ่ายเข้าร่วมและไม่มีข้อจำกัดต่อสมาชิก นายกรัฐมนตรีอินเดียยังย้ำถึงบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในการกำหนดภูมิภาคและนโยบายปฏิบัติการมุ่งสู่ตะวันออกเพื่อเสร็จสิ้นวิสัยทัศน์นี้ อีกทั้งยืนยันว่า อาเซียนจะเป็นศูนย์กลางในอนาคตและอินเดียมีความประสงค์ร่วมมือเพื่อสร้างสรรค์โครงสร้างที่มีสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค
คำประกาศนี้ได้สะท้อนอีกครั้งว่า อาเซียนจะมีบทบาทสำคัญในยุทธศาสตร์ความมั่นคง มหาสมุทรอินเดีย-แปซิฟิก ที่อินเดียกำลังปฏิบัติอย่างเข้มแข็งกับ 3 ประเทศคือสหรัฐ ออสเตรเลียและญี่ปุ่น ภายหลังการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของภูมิภาคเมื่อเร็วๆนี้ได้สร้างภัยคุกคามให้แก่อินเดีย โดยนิวเดลีกำลังมีความประสงค์แสดงให้เห็นถึงบทบาทเป็นหุ้นส่วนที่มีอิทธิพลและมีความรับผิดชอบในการค้ำประกันสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค เพื่อยืนยันถึงสถานะของประเทศมหาอำนาจในเอเชียแปซิฟิก ในทางเป็นจริง ความร่วมมืออาเซียน-อินเดียไม่เพียงแต่นำผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจเท่านั้น หากยังมุ่งสู่ผลประโยชน์ทางการเมืองและความมั่นคง เพื่อสร้างความสมดุลในโครงสร้างความมั่นคงของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ให้ความสำคัญต่อความรับผิดชอบในการรักษาสันติภาพและความมั่นคงภูมิภาค
การเคลื่อนไหวในภูมิภาคและการเปลี่ยนแปลงความสมดุลด้านอำนาจของประเทศใหญ่ๆกำลังทำให้ระเบียบของย่านเอเชียแปซิฟิกเปลี่ยนแปลง ที่น่าสนใจคือ ปฏิบัติการแต่เพียงฝ่ายเดียวของจีนที่ติดตั้งอุปกรณ์ด้านการทหารในทะเลตะวันออกนั้นกำลังเดินสวนกับหลักการในปัจจุบันและเพิ่มความท้าทายด้านความมั่นคงในภูมิภาค ภัยคุกคามด้านความมั่นคงในภูมิภาคนี้กำลังทำให้ความต้องการทำการสนทนาเพื่อสร้างความไว้วางใจและยกระดับคุณภาพความร่วมมือด้านความมั่นคงภูมิภาคต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเร่งด่วน ในสภาวการณ์ดังกล่าว การสนทนาแชงกรีลาครั้งที่ 17 ณ สิงคโปร์ถือเป็นโอกาสเพื่อให้ทุกฝ่ายร่วมกันหารือ แสวงหามาตรการผลักดันและธำรงสันติภาพ เสถียรภาพเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค
ในทางเป็นจริง ในฟอรั่มครั้งนี้ ถึงแม้ยังคงมีความขัดแย้ง แต่ประเทศต่างๆยังเปิดโอกาสให้แก่การสนทนาและร่วมมือเพื่อผลักดันความเข้าใจและสร้างสรรค์ความไว้วางใจกัน ตามการประเมินของบรรดาผู้เชี่ยวชาญ ผลงานที่ได้บรรลุในการสนทนาครั้งนี้คือสิ่งที่จริงจังและมีประสิทธิภาพ สหรัฐเผยว่า พร้อมร่วมมืออย่างสร้างสรรค์กับจีนโดยอาศัยความสัมพันธ์ “มุ่งสู่ผลงาน” พร้อมทั้งยืนยันผลักดันความร่วมมือด้านความมั่นคงกับประเทศสมาชิกอาเซียน ส่วนสาธารณรัฐเกาหลีให้ความสำคัญต่อบทบาทของการสนทนาและการทูตในการแก้ไขปัญหานิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี ในขณะเดียวกัน สิงคโปร์กำลังพยายามประสานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างสรรค์กรอบแนะนำการปฏิบัติเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าโดยไม่ได้ตั้งใจระหว่างเครื่องบินทหารในภูมิภาค ซึ่งได้รับการคาดหวังว่า จะได้รับการอนุมัติในการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนหรือเอดีเอ็มเอ็มในเดือนตุลาคมนี้
อาจเห็นได้ว่า วิธีการเข้าถึงของทุกฝ่ายในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า พยายามไม่ปล่ยอให้ความตึงเครียดยืดเยื้อและประสานงานในเชิงสร้างสรรค์เพื่อความมั่นคงและความเป็นระเบียบได้ทำให้ฟอรั่มปีนี้บรรลุผลงานในเบื้องต้น การปฏิบัติตามกฎระเบียบ ให้ความเคารพกฎหมายสากลและค้ำประกันความเสมอภาคให้แก่ทุกประเทศ ไม่เลือกปฏิบัติต่อประเทศขนาดใหญ่หรือขนาดเล็กคือสาส์นในฟอรั่มครั้งนี้ แต่คำพูดและคำประกาศจะเดินพร้อมกับปฏิบัติการในสถานการณ์ที่เป็นจริงได้เช่นไรก็ต้องให้เวลาพิสูจน์เพราะหนทางข้างหน้ายังคงเต็มไปด้วยความท้าทาย.
Anh Huyen/VOV5