(VOVworld) – นับตั้งแต่ Koh Samui Hut – ร้านขายของกินเล่นของไทยเปิดให้บริการเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2014 ที่นี่ได้กลายเป็นร้านที่คุ้นเคยสำหรับผู้ที่รักรสชาติแบบไทยๆ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น ถ้าผ่านไปผ่านมาแถวๆบ้านเลขที่ 40 หย่าจูง ก็จะเห็นลูกค้าจำนวนมากซึ่งส่วนใหญ่คือวัยรุ่นกำลังเข้าคิวเพื่อซื้อของกินเล่น อะไรคือสิ่งที่ดึงดูดลูกค้าให้มาอุดหนุนร้านนี้อย่างเนื่องแน่น ขอเชิญท่านผู้ฟังพร้อมกับนักข่าวของวีโอวีมาเยือนร้านนี้ผ่านบทความเรื่อง “Koh Samui Hut- จุดลิ้มลองของกินเล่นของไทยที่น่าสนใจในกรุงฮานอย”
“นี่คือร้านชื่อดังที่กรุงฮานอย เพื่อนๆแนะนำร้านนี้ให้ดิฉันทราบ ดังนั้น วันนี้ ดิฉันและเพื่อนๆจึงมาลองกินดู ดิฉันสั่งไอศครีมกะทิซึ่งเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมจากลูกค้า ไอศครีมไม่หวานจนเกินไป น่ากิน ลูกค้ามาอุดหนุนร้านนี้เยอะมากเพราะให้บริการดี ชาวเวียดนามก็ชอบร้านอาหารริมฟุตบาทจึงดึงดูดใจลูกค้าให้มาที่นี่มากขึ้น”
“ของกินเล่นอร่อยมากๆ โดยเฉพาะไอศครีมกะทิ การให้บริการแบบมืออาชีพและดูทะมัดทะแมง” ไม่ใช่แค่ความคิดเห็นของคุณ เฟืองแอง ลูกค้าคนหนึ่งเท่านั้น หากยังเป็นความคิดเห็นของลูกค้าหลายคนที่มาลิ้มลองของกินเล่นที่ Koh Samui Hut อีกด้วย เมื่อกล่าวถึงเหตุผลที่เปิดร้านนี้ นาย ฮวี อายุ 30 ปี หนึ่งในเจ้าของร้าน Koh Samui Hut ได้เผยว่า“ปัจจุบัน ผู้บริโภคนิยมอาหารไทยมาก ร้านไอศครีมในกรุงฮานอยมีไม่มากนัก ดังนั้น พวกเราอยากเน้นถึงไอศครีมกะทิของไทย ไอศครีมก็เป็นของกินเล่นที่อร่อยและถึงฤดูร้อน ลูกค้าก็จะนิยมมากขึ้น  พวกเราตั้งชื่อร้านคือ Koh Samui Hut เพราะนี่คือชื่อเกาะที่มีชื่อเสียงของไทยเนื่องจากมีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากมะพร้าวที่อร่อยมาก โดยเฉพาะไอศครีมกะทิ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ Koh Samui Hut คือวัยรุ่นและพนักงานบริษัทเพราะพวกเขานิยมทานไอศครีมหลังทานอาหารกลางวันหรืออาหารมื้อค่ำ”

ไอศครีมกะทิได้รับความนิยมเป็นพิเศษจากลูกค้า

แม้ Koh Samui Hut จะมีพื้นที่เพียง 30 ตารางเมตร แต่ทุกวันจะมีลูกค้ามาอุดหนุนประมาณ 200-300 คน Koh Samui Hut ให้บริการแบบ Takeaway แต่ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะสั่งของกินและทานเลยซึ่งลูกค้าสามารถนั่งทานของกินเล่นที่บริเวณด้านหน้าร้านและฟุตบาทตรงข้ามร้านได้ ร้านมีเมนูที่หลากหลายเพื่อให้ลูกค้าเลือก“นี่คือข้าวเหนียวไอศครีมกะทิ ข้าวเหนียวค่อนข้างนิ่มเหมาะทานกับไอศครีมที่ไม่หวานจนเกินไป ดิฉันเคยทานไอศครีมหลายร้าน แต่นี่คือร้านที่ดิฉันเห็นว่า อร่อยที่สุด”

เจ้าของร้าน Koh Samui Hut ให้ความสำคัญต่อมาตรฐาน “ไม่ใช้กลิ่นสังเคราะห์ วัตถุกันเสียและรักษาความสะอาด” ดังนั้น ลูกค้าจึงมาร้านนี้นับวันเพิ่มมากขึ้น เมื่อกล่าวถึงเคล็ดลับในการทำไอศครีมกะทิและของกินเล่น นาย ฮวีได้เผยว่า ไม่มีคนไทยแนะนำวิธีการทำไอศครีมกะทิและของกินเล่นต่างๆ หากบรรดาผู้ถือหุ้นของร้านซึ่งหลังจากเดินทางไปเมืองไทยและได้มีโอกาสลิ้มลองของกินเล่นแบบนี้จึงเลียนแบบทำตาม“สำหรับไอศครีมกะทิกับข้าวเหนียว พวกเรานำเข้าข้าวเหนียวจากไทยซึ่งเป็นข้าวเหนียวหอม นิ่มและนึ่งพร้อมกับใบเตยและงาขาว ไอศครีมกะทิและไอศครีมทุเรียน นี่คือของกินเล่นสองอย่างที่เป็นเมนูหลักของร้าน อร่อยและหอมมาก ไอศครีมโรยด้วยมะพร้าวอ่อน มะพร้าวแห้งและถั่วลิสง นอกจากนั้น ทางร้านยังมีชาไทยไว้ให้บริการลูกค้าด้วย”

ในทางเป็นจริง ถึงแม้เจ้าของ Koh Samui Hut เรียนรู้วิธีการทำไอศครีมและของกินเล่นด้วยตนเอง แต่ร้านยังคงได้รับความนิยมจากทั้งลูกค้าภายในประเทศและลูกค้าชาวไทยอีกด้วย“ก็ได้ลองกินไอศครีมกะทิของร้าน Koh Samui Hut ก็รู้สึกว่า รสชาติจะเหมือนที่เมืองไทย ทั้งกลิ่นและความเป็นกะทิ ความมัน ก็รู้สึกว่า รสชาติอร่อยมากๆ โดยเฉพาะในหน้าร้อนนี้ ถ้าทานไอศครีมกะทิตอนช่วงอากาศร้อนๆก็ถือว่า ช่วยคลายร้อนได้เยอะ วิธีการทำน่าจะเหมือนกันเมืองไทย เพราะว่า รู้สึกว่า รสชาติและกลิ่นนี้คล้ายๆกับไอศครีมกะทิที่เมืองไทย”

ลิ้มลองไอศครีมกะทิ ดื่มน้ำชาที่มีรสชาติแบบไทยแท้ๆก็จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า กำลังทานของกินเล่นในประเทศไทยและเมื่อคุณหลงไหลอาหารไทยก็หมายความว่า คุณมีความรักประเทศไทยมากขึ้น./.