ดร. เหงียนห่งทาว (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม)

การได้เป็นสมาชิกของคณะกรรมาธิการกฎหมายระหว่างประเทศของสหประชาชาติหรือ ILC และดำรงตำแหน่งรองประธาน ILC ไม่เพียงแต่มีความหมายที่ยิ่งใหญ่ต่อดร. เหงียนห่งทาว เท่านั้น หากยังมีความหมายต่อเวียดนามด้วย เพราะ ILC คือหนึ่งในสำนักงานสำคัญอันดับต้นๆของสหประชาชาติในด้านกฎหมาย นี่คือการรับทราบและให้ความสำคัญต่อส่วนร่วมของดร. เหงียนห่งทาวและเวียดนามในการเป็นสมาชิกของ ILC นับตั้งแต่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนี้ ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อหน้าที่นี้ ดร. เหงียนห่งทาว ได้เผยว่า “ผมมีความประสงค์นำประสบการณ์ของผม ของประเทศ รวบรวมเป็นข้อเสนอเพื่อร่วมจัดทำหลักการทางนิตินัย แก้ไขปัญหาที่เพิ่งเกิดขึ้นในกรอบของกฎหมายสากล ตลอดจนรวบรวมประสบการณ์ที่ได้รับเพื่อเผยแพร่ แลกเปลี่ยนกับประเทศอื่นๆในกรอบของกฎหมายสากล นี่คือส่วนร่วมระดับโลกที่ส่งผลต่อทุกประเทศ มิใช่ประเทศใดประเทศหนึ่ง”

ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจากประเทศต่างๆและได้รับเลือกในคณะกรรมาธิการนี้ฯอาศัยบนพื้นฐานความสามารถด้านนิตินัยและมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาของกฎหมายสากล ตามความเห็นของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม  เลหว่ายจุง เหตุผลที่ดร. เหงียนห่งทาว ได้รับความไว้วางใจจากกระทรวงการต่างประเทศเพราะเขาคือนักกฎหมาย นักการทูตอาวุโส ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายสากล กฎหมายสิ่งแวดล้อม กฎหมายทางทะเล การกำหนดเขตแดน เข้าร่วมคณะเจรจาหลายคณะเกี่ยวกับชายแดน มีหนังสือตีพิมพ์เกี่ยวกับกฎหมายสากลหลายเล่ม ซึ่งไม่ว่าได้ดำรงตำแหน่งไหน ดร. เหงียนห่งทาว ก็มีส่วนร่วมที่ยอดเยี่ยมต่อด้านที่ตนปฏิบัติหน้าที่ “พวกเราเสนอชื่อโดยอาศัยการประเมินเกี่ยวกับทักษะความสามารถ ประสบการณ์และระดับการศึกษาของดร. เหงียนห่งทาว ดร. เหงียนห่งทาว เคยศึกษาที่อดีตสหภาพโซเวียดและที่ฝรั่งเศส เขาเคยเข้าร่วมการวิจัยและสอนกฎหมายสากลในเวียดนาม อีกทั้งมีประสบการณ์ทำงานด้านกฎหมายถึง 40 ปี และเคยดำรงตำแหน่งสำคัญๆด้านการทูต”

การประชุมคณะกรรมาธิการกฎหมายระหว่างประเทศของสหประชาชาติ  (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม)

ดร. เหงียนห่งทาว เป็นผู้ที่มีความรู้ด้านกฎหมายสากลและมีประสบการณ์ในด้านนี้ โดยในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าคณะกรรมการชายแดนแห่งชาติ เขาได้มีส่วนร่วมสำคัญในการเจรจาเกี่ยวกับเขตชายแดนเพื่อเสร็จสิ้นกระบวนการปักปันปักหลักพรมแดนทางบกระหว่างเวียดนามกับจีน ตลอดจนผลักดันการเจรจาในอ่าวทะเลตะวันออก การปักปันปักหลักพรมแดนกับลาวและกัมพูชา มีข้อคิดริเริ่มหลายข้อในฟอรั่มและการสนทนาต่างๆเกี่ยวกับทะเลตะวันออกจากมุมมองของนักวางกฎหมายและนักวิจัยเกี่ยวกับกฎหมาย ดังนั้นในตลอดกว่า 2 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เป็นสมาชิกของ ILC และปัจจุบันคือรองประธาน ILC ดร. เหงียนห่งทาว มีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งในการหารือเกี่ยวกับหัวข้อที่คณะกรรมาธิการ ILC กำลังวิจัยและผลักดันหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริงในเวียดนาม เช่นอาชญากรรมบนอินเตอร์เน็ต การใช้พลังงานนิวเคลียร์อย่างสันติ การต่อต้านการก่อการร้ายและการแก้ไขการพิพาทระหว่างประเทศต่างๆอย่างสันติ ซึ่งยืนยันถึงนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามคือให้ความเคารพกฎหมายและการยืนยันถึงการให้ความสำคัญต่อหลักการให้ความเคารพกฎหมายในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดร. เหงียนห่งทาว เผยว่า “สำหรับสำนักงานด้านนิตินัยและสำนักงานตุลาการระหว่างประเทศทุกแห่ง จิตใจแห่งการให้ความเคารพกฎหมายคือสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง หน้าที่ของคณะกรรมาธิการด้านกฎหมายระหว่างประเทศคือการจัดระเบียบหมวดหมู่กฎหมายต่างๆ และการพัฒนากฎหมายสากลก็มีบทบาทเช่นนี้ การเข้าร่วมคณะกรรมาธิการฯนี้ได้แสดงให้เห็นว่า พวกเรานับวันมีความมั่นใจในตนเอง มีความสามารถและมีความแข็งแกร่งเพียงพอเพื่อแบ่งเบาหน้าที่ของประเทศและโลก”

เวียดนามกำลังผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลก วัฒนธรรมและสังคมอย่างรอบด้าน ตลอดจนด้านนิตินัย การที่ดร. เหงียนห่งทาว ซึ่งเป็นชาวเวียดนามคนแรกที่เป็นตัวแทนของประเทศและอาเซียน ดำรงตำแหน่งสำคัญใน ILC คือความภาคภูมิใจของเวียดนาม สะท้อนให้เห็นถึงการชื่นชมของประชาคมโลกต่อสถานะของเวียดนาม นี่ก็คือการรับทราบความสามารถของคนเวียดนามต่อภารกิจระหว่างประเทศ.