ความเคารพรักของชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆในเขตเวียดบั๊กที่มีต่อประธานโฮจิมินห์

(VOVWORLD) - เวียดบั๊กถือเป็นเมืองหลวงแห่งการต่อสู้และเป็นหนึ่งในฐานที่มั่นที่ปกป้องและสร้างสรรค์กองกำลังปฏิวัติเวียดนามจนนำไปสู่การรบชนะศัตรู  76ปีได้ผ่านพ้นไปนับตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงปี 1945 โฉมหน้าของเวียดบั๊กได้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก แต่ความเคารพรักของชาวบ้านที่มีต่อประธานโฮจิมินห์และความเชื่อมั่นต่อการปฏิวัติยังคงสืบสานมาจนถึงปัจจุบันไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ความเคารพรักของชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆในเขตเวียดบั๊กที่มีต่อประธานโฮจิมินห์ - ảnh 1ศาลาเตินจ่าว

ในการเดินทางจากปากบ๋อ จังหวัดกาวบั่งไปยังเตินจ่าว จังหวัดเตวียนกวางเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 1945 ประธานโฮจิมินห์พร้อมคณะปฏิบัติงานได้หยุดพักที่บ้านของคุณลุงนาย มาวันหว่าง ในหมู่บ้านหน่าเกี๋ยน ตำบลเหงียต๋า อำเภอเจอะโด่น จังหวัดบั๊กก่าน ซึ่งในตอนนั้น นาย มาวันหว่าง มีอายุแค่ 13 ขวบ แต่ก็ได้ร่วมกับชาวบ้านในการปกป้องประธานโฮจิมินห์และสมาชิกของคณะฯ นาย มาวันหว่างได้เผยว่า

“ประธานโฮจิมินห์ได้มาพักที่บ้านของคุณลุง 3 วัน ตอนที่ท่านไป คุณป้าและพี่ๆที่ปรุงอาหารให้แก่ทหารบ้านได้ยืนรอส่งท่านตามสองข้างทาง ประธานโฮจิมินห์ได้จับมือทุกคน ผมยังจำคำพูดของประธานโฮจิมินห์ได้คือ “สามัคคี สามัคคี มหาสามัคคี ความสำเร็จ ความสำเร็จ ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่” ส่วนชาวบ้านได้แสดงความเชื่อมั่นว่า ประธานโฮจิมินห์จะชี้นำประชาชนทำการต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราช เสรีภาพมาให้แก่ประเทศชาติและปลดปล่อยประชาชนจากการตกเป็นทาสได้สำเร็จ”

ความเคารพรักของชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆในเขตเวียดบั๊กที่มีต่อประธานโฮจิมินห์ - ảnh 2นาย มาวันหว่าง อายุ 90ปี ในหมู่บ้านหน่าเกี๋ยน ตำบลเหงียต๋า อำเภอเจอะโด่น จังหวัดบั๊กก่าน

ต่อจากนั้นไม่กี่วัน ประธานโฮจิมินห์และบรรดาผู้นำพรรคฯได้เดินทางถึงหมู่บ้านกิมลอง ซึ่งปัจจุบันคือหมู่บ้านเตินเหลิบ ตำบลเตินจ่าว อำเภอเซินเยือง จังหวัดเตวียนกวางเพื่อทำการชี้นำขบวนการต่อสู้ โดยบ้านยกพื้นที่ท่านเคยพำนักอาศัยก่อนย้ายไปอยู่ที่กระท่อมหน่า เนือ อยู่ใกล้บ้านของนาย หว่างหงอก ซึ่งตอนนั้นอายุแค่ 9 ขวบ ในการพูดคุยกับชาวบ้าน ประธานโฮจิมินห์ได้เสนอให้เปลี่ยนชื่อหมู่บ้านกิมลองเป็นเตินเหลิบด้วยความหวังว่า ชาวบ้านจะมีชีวิตที่อิ่มหนำผาสุก เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ชาวบ้านหลายคนได้มอบอาหารและแสดงความยินดีต่อการประชุมใหญ่ผู้แทนทั่วประเทศ ที่ศาลาเตินจ่าว ส่วนนาย หว่างหงอก ยังจำภาพพลเอกหวอเงวียนย้าปอ่านคำสั่งฉบับที่ 1 ให้เคลื่อนทัพไปปลดปล่อยกรุงฮานอยใต้ร่มต้นไทรในหมู่บ้านเตินเหลิบ

“บ่ายวันนั้น ทหารได้เข้าแถวร้องเพลง Tiến quân ca หรือ เพลงเคลื่อนทัพ หลังจากนั้น พลเอก หวอเงวียนย้าปได้อ่านคำสั่งฉบับที่ 1 ให้เคลื่อนทัพไปปลดปล่อยกรุงฮานอยแล้วทุกคนได้อ่านคำสาบานที่ดังกังวาลไปทั่วป่า พลเอก หวอเงวียนย้าป ได้ยิงปืน 3 นัดเพื่อเป็นการเริ่มเคลื่อนทัพไปยังจังหวัดท้ายเงวียนและกรุงฮานอยเพื่อปกป้องดอกผลของการต่อสู้ภายใต้การเป็นสักขีพยานของชาวบ้านและผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุมใต้ร่มต้นกร่าง”

ความเคารพรักของชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆในเขตเวียดบั๊กที่มีต่อประธานโฮจิมินห์ - ảnh 3นาย เหงวียนจึ๊ก อาศัยที่ตำบลเลลาย อำเภอแถกอาน จังหวัดกาวบั่ง

ท่ามกลางบรรยากาศแห่งการลุกขึ้นสู้เพื่อยึดคืนอำนาจการปกครองในทั่วประเทศ ประชาชนในเขตเวียดบั๊กได้ทำการลุกขึ้นสู้ครั้งใหญ่ โดยในระหว่างวันที่ 20-23 สิงหาคมปี 1945 การลุกขึ้นสู้ของประชาชนในจังหวัดท้ายเงวียน เตวียนกวาง กาวบั่งและบั๊กก่านได้รับชัยชนะ นาย เหงวียนจึ๊ก อาศัยที่ตำบลเลลาย อำเภอแถกอาน จังหวัดกาวบั่งได้เผยว่า

“ในตอนนั้น ผมมีอายุแค่ 11 ขวบ แต่ก็ยังจำบรรยากาศของขบวนการต่อสู้ที่ฮึกเหิมได้ ด้วยจิตใจของประชาชนในถิ่นปฏิวัติ ชาวบ้านอำเภอแถกอานได้เข้าร่วมขบวนการต่อสู้เดือนสิงหาคมอย่างกระตือรือร้นเพื่อยึดคืนอำนาจการปกครอง พวกเราต่างรู้สึกภาคภูมิใจเกี่ยวกับเกียรติประวัติของถิ่นปฏิวัติและท้องถิ่นที่ประธานโฮจิมินห์เลือกใช้เป็นที่พักในช่วงที่เพิ่งกลับประเทศ”

ในกระบวนการต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราชประชาชาติและในระยะต่างๆของการปฏิวัติเวียดนาม ประชาชนชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆในเวียดบั๊กต่างยึดมั่นและปฏิบัติตามการชี้นำของพรรคและการปฏิวัติเพื่อขับไล่นักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสและทำลายระบอบศักดินา หลังจากประเทศได้รับเอกราช ชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจสร้างสรรค์บ้านเกิดให้เจริญเข้มแข็งเพื่อให้สมกับการเสียสละเลือดเนื้อของวีรชนทหารพลีชีพเพื่อชาติเพื่อรวมประเทศเป็นเอกภาพและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศในปัจจุบัน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด