ทั้งหมู่บ้านบริจาคโลหิตช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์
Nguyệt Ánh -Thu Hằng /VOV -  
(VOVWorld) – ที่จังหวัดQuảng Ngãi มีหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ชาวบ้านให้ความช่วยเหลือจุนเจือกันอยู่เสมอ ถ้าครอบครัวใดประสบเคราะห์ร้าย ชาวบ้านก็ร่วมใจกันช่วยเหลือเพื่อให้ครอบครัวนั้นฟันฝ่าอุปสรรค ถ้าใครกำลังป่วยหนักและต้องการเลือด ชาวบ้านก็ร่วมใจกันบริจาคเลือด โดยถือว่า คนที่กำลังป่วยหนักและกำลังขาดเลือดนั้นก็เหมือนกำลังยืนอยู่ความเป็นความตาย
(VOVWorld) – ที่จังหวัดQuảng Ngãi มีหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ชาวบ้านให้ความช่วยเหลือจุนเจือกันอยู่เสมอ ถ้าครอบครัวใดประสบเคราะห์ร้าย ชาวบ้านก็ร่วมใจกันช่วยเหลือเพื่อให้ครอบครัวนั้นฟันฝ่าอุปสรรค ถ้าใครกำลังป่วยหนักและต้องการเลือด ชาวบ้านก็ร่วมใจกันบริจาคเลือด โดยถือว่า คนที่กำลังป่วยหนักและกำลังขาดเลือดนั้นก็เหมือนกำลังยืนอยู่ความเป็นความตาย ซึ่งบทความเรื่อง "ทั้งหมู่บ้านบริจาคโลหิตช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์" ของนักข่าววิทยุเวียดนามที่เราขอแนะนำต่อไปนี้จะเล่าถึงการกระทำที่น่ายกย่องของชาวบ้านPhương Lý Tây ตำบลNghĩa Phương อำเภอTư NghĩaจังหวัดQuảng Ngãi
|
บริจาคโลหิตช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์(Photo:Internet ) |
เรื่องราวของหมู่บ้านPhương Lý Tây ตำบลNghĩa Phương อำเภอTư Nghĩa จังหวัดQuảng Ngãi เกิดขึ้นเมื่อ๕ปีก่อน ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลาค่ำคืนแล้วแต่บรรยากาศในหมู่บ้านยังวุ่นวายไปหมดเพราะคนนี้เรียกแทกซี คนโน้นขับมอร์เตอร์ไซค์ โดยทุกคนต่างพากันมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลจังหวัดQuảng Ngãi ที่อยู่ห่างออกไปเกือบ๑๕กิโลเมตรเพื่อบริจาคโลหิตช่วยชีวิตนางTrần Thị Bình อายุ๓๒ปีซึ่งเป็นสมาชิกในหมู่บ้านที่ตกเลือดหลังคลอดบุตร พอไปถึงโรงพยาบาล ชาวบ้านทุกคนก็เข้าไปตรวจเลือดทันทีแต่ผลปรากฏว่า มีเพียง๓คนที่มีกรุ๊ปเลือดบีที่นางTrần Thị Bìnhต้องการ ทั้ง๓คนจึงรีบบริจาคเลือกให้นางTrần Thị Bình ที่กำลังอยู่ในห้องผ่าตัดทันที แต่เธอยังคงต้องการเลือดเพิ่มเติม ึงต้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่นอีกสองคนเพื่อให้เธอพ้นจากอาการโคม่า ในขณะเดียวกันก็มีมีชาวบ้านอีก๒๕คนกำลังมารอตรวจเลือด เมื่อทราบว่า นางTrần Thị Bình ปลอดภัยดี ชาวบ้านจึงพากันกลับบ้านตอนที่ฟ้าสางพอดี เป็นอันว่าในคืนวันนั้น นางTrần Thị Bình ได้ใช้เลือดที่บริจาค๑ลิตรครึ่งจากเลือดทั้งหมด๒ลิตร นางLê Thị Muốn ผู้บริจาคโลหิตคนหนึ่งกล่าวว่า “เมื่อดิฉันบริจาคเลือดเสร็จก็กลับบ้าน แต่ทางโรงพยาบาลยังคงต้องการเลือดอีก ตอนนั้นประมาณตี๑และตี๒ ดิฉันไม่ทันรับประทานอะไรก็รีบเดินทางกลับโรงพยาบาลทันทีเพราะคิดว่า หลังบริจาคเลือดไม่นาน สุขภาพก็จะเป็นปกติ แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ดิฉันจะรู้สึกผิดในภายหลัง”
|
๓แม่ลูกนางTrần Thị Bình(Photo:Internet ) |
ส่วนสำหรับนางTrần Thị Bình แม้เวลา๕ปีได้ผ่านพ้นไป แต่เธอกับครอบครัวยังจำติดตาถึงคืนคลอดลูกสาวคนสุดท้อง การบริจาคเลือดอย่างทันการณ์ของชาวบ้านได้ช่วยให้สองแม่ลูกรอดตาย เธอไม่มีวันลืมความช่วยเหลือของชาวบ้าน เธอดำรงชีวิตและทำงานเพื่อครอบครัวและชาวบ้านเพราะเธอมีชีวิตทุกวันนี้ก็เพราะความช่วยเหลือจากชาวบ้าน “ตลอดชีวิตนี้ ดิฉันสำนึกในบุญคุณของชาวบ้านที่ได้บริจาคเลือดแก่ดิฉัน ดิฉันรู้สึกตื้นตันใจมาก และไม่มีวันลืมบุญคุณนี้” ชาวบ้านPhương Lý Tây ตระหนักดีว่า อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน แม้จะไม่ใช่ญาติมิตรแต่นี่เป็นครอบครัวใหญ่ ถ้าทราบว่า ชาวบ้านคนใดคนหนึ่งกำลังป่วยหนักและต้องการเลือด ชาวบ้านทุกคนก็พร้อมที่จะบริจาคด้วยความเต็มใจ นายTrần Văn Tới ซึ่งเป็นผู้ที่ได้บริจาคโลหิตหลายครั้งกล่าวว่า “เมื่อเพื่อนบ้านป่วยและต้องการเลือด ผมพร้อมที่จะบริจาคเลือดให้ อีก๒ ๓วัน สุขภาพจะกลับสู่ปกติ ถ้าปล่อยให้ผู้ป่วยเสียชีวิตเนื่องจากขาดเลือด ผมจะรู้สึกผิด”
การกระทำอันสูงส่งนี้ของชาวบ้านPhương Lý Tây ได้ปฏิบัติติดต่อกันมาหลายปีแล้ว แม้จะยากดีมีจนแต่ชาวบ้านก็เต็มใจช่วยเหลือกันโดยไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน การบริจาคเลือดได้ช่วยขยายความสามัคคี และความผูกพันระหว่างชาวบ้าน พ่อเฒ่าTrương Bích อายุ๙๑ปี ซึ่งถือเป็นพยานบุคคลคนหนึ่งของหมู่บ้าน กล่าวว่า“สิ่งที่ดีงามที่สุดในชีวิตคือ การช่วยเหลือจุนเจือกัน วันเดียวก็มีค่า นาทีเดียวก็มีค่า ผมมีความประสงค์ว่า ชาวบ้านจะให้ความช่วยเหลือจุนเจือกันต่อไป ” ชาวบ้านPhương Lý Tây ถือว่า ต้องให้ความช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่ต้องหวังสิ่งใดตอบแทน การกระทำอันสูงส่งของพวกเขาคือความช่วยเหลือจากใจจริงซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการกระทำที่น่าทะนุถนอมในชีวิตประจำวันที่หมู่บ้านPhương Lý Tây เท่านั้นหากยังเป็นความดีงามในความสัมพันธ์ระหว่างชาวบ้านด้วยกันในเขตชนบทหลายแห่งในเวียดนามอีกด้วย./.
Nguyệt Ánh -Thu Hằng /VOV