ในตลอดเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา นครดานังได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อให้บริการประชาชนและสถานประกอบการ โดยสามารถให้บริการสาธารณะประมาณ 500 รายการจากจำนวนทั้งหมดเกือบ 1,200 รายการ ซึ่งเน้นด้านที่สถานประกอบการและประชาชนใช้บริการเป็นจำนวนมากเช่น ระเบียบราชการเกี่ยวกับที่ดิน การก่อสร้าง ภาษี ประกันภัยและนโยบายด้านสังคม เป็นต้น

ปัจจุบันนี้ ในจำนวน 63 จังหวัดและนครทั่วประเทศ มีแค่นครดานังเท่านั้นที่ใช้ระบบวันสต็อปเซอร์วิส ( ประชาชนกรอกแบบฟอร์มในครั้งแรกเท่านั้นก็สามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการทำเรื่องอื่นๆในครั้งต่อไปโดยไม่ต้องกรอกแบบฟอร์มอีก) นายฝ่ามกิมเซิน ผู้อำนวยการสำนักงานสื่อสารและประชาสัมพันธ์นครดานังกล่าวว่า “การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศต้องการโครงสร้างพื้นฐาน บุคลากรและนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศต้องมีการลงทุนและประชาสัมพันธ์ให้แก่ด้านนี้ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้สามารถทำได้ถ้าหากผู้บริหารสำนักงานและองค์การต่างๆให้ความสนใจต่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างจริงจัง นี่คือเงื่อนไขล่วงหน้าเพื่อให้การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสร้างสรรค์รัฐบาลอิเล็กทรอนิกประสบความสำเร็จ”

มติที่ 64 ของรัฐบาลเกี่ยวกับ “การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการปฏิบัติงานของสำนักงานภาครัฐ” ได้ประกาศใช้เมื่อเดือนเมษายนปี 2015 เพื่อร่างและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลให้สมบูรณ์และสร้างพื้นฐานให้แก่การพัฒนาของรัฐบาลอิเล็กทรอนิก ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างกว้างขวางในการปฏิบัติงานของสำนักงานภาครัฐ มุ่งสู่การยกระดับคุณภาพผลผลิตและลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน จัดสรรค์ข้อมูลการบริการสาธารณะผ่านระบบออนไลน์ ช่วยให้การดำเนินงานภาครัฐมีความโปร่งใสมากขึ้นและเพื่อบริการประชาชนได้ดีขึ้น จากการปฏิบัติตามมติดังกล่าว สำนักงานตั้งแต่ระดับส่วนกลางไปจนถึงระดับท้องถิ่นได้มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในเบื้องต้น ปฏิบัติมาตรการแก้ไขเพื่อผลักดันการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการให้บริการสาธารณะทางออนไลน์ แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การประยุกต์ใช้ดังกล่าวมีประสิทธิภาพและเป็นระเบียบ ดร.เหงียนแถ่งฟุ๊ก อธิบดีกรมเทคโนโลยีสารสนเทศสังกัดกระทรวงการสื่อสารและประชาสัมพันธ์เผยว่า ผู้บริหารของสำนักงานภาครัฐต้องตระหนักได้ดีถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารราชการ “ผู้บริหารท้องถิ่นต่างๆต้องชี้นำอย่างเด็ดขาดในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศพร้อมกับทำการปรับปรุงระเบียบราชการและการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม ซึ่งจะสร้างความคุ้นเคยให้แก่เจ้าหน้าที่ข้าราชการในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและสร้างวัฒนธรรมแลกเปลี่ยนข้อมูล”

กระทรวงสื่อสารและประชาสัมพันธ์เปิดเผยว่า ในระยะปี 2016-2020 จะเน้นพัฒนาจำนวนผู้ใช้ระบบบริการสาธารณะออนไลน์แทนการเน้นจำนวนงานในสำนักงานภาครัฐที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

ในฟอรั่มผู้อาวุโสเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการประชาสัมพันธ์ปี 2015 ที่ได้มีขึ้น ณ กรุงฮานอยเมื่อเร็วๆนี้ นายหวูดึ๊กดาม รองนายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่า รัฐบาลเน้นการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างรวดเร็วด้วยเป้าหมายคือความโปร่งใส ความเป็นรูปธรรมตามกระบวนการที่กำหนดต่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการดำเนินงานของสำนักงานภาครัฐ “มาตรการแก้ไขที่เราได้หารือกับกระทรวงสื่อสารและประชาสัมพันธ์คือ โดยอาศัยคำประกาศเกี่ยวกับรัฐบาลอิเล็กทรอนิกของสหประชาชาติและการบริการสาธารณะ พวกเราก็ต้องมีข้อกำหนดและขั้นตอนที่ชัดเจนเกี่ยวกับการให้บริการสาธารณะ โดยพัฒนาให้กลายเป็นขบวนการแข่งขันในสังคมเหมือที่เราได้ทำแล้วในการปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจ สถานประกอบการเทคโนโลยีสารสนเทศจะเป็นฝ่ายรุกในการแนะนำผลิตภัณฑ์ของตน”

การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสำนักงานภาครัฐเป็นโครงการก้าวกระโดดในการปรับปรุงระบบบริการภาครัฐของเวียดนามให้ทันสมัย นอกจากนี้ กระทรวงสื่อสารและประชาสัมพันธ์ได้ยื่นร่างกฎหมายความปลอดภัยด้านข้อมูลข่าวสารต่อรัฐสภาเพื่อใช้เป็นพื้นฐานทางนิตินัยและอำนวยความสะดวกให้แก่สำนักงานภาครัฐและสถานประกอบการในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการควบคุมและบริหาร เพื่อมีส่วนร่วมเพิ่มตัวเลขการใช้รัฐบาลอิเล็กทรอนิกของเวียดนามในเวลาข้างหน้า.