(VOVWORLD) - สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางวีโอวี 5 ได้รับคอมเมนต์และจดหมายจากผู้ฟังกว่า 383 ฉบับจาก 35 ประเทศและดินแดนทั่วโลก ซึ่งรวมทั้งผู้ฟังชาวไทย เช่น คุณ พิเชษฐ์ ทองพุ่ม, อาจารย์ เกษม ทั่งทอง, คุณ Shivendu Paul, คุณ เก๋ ชลินันท์ และคุณ Surachai Dingsawad
สัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้รับความคิดเห็นติชมจากท่านผู้ฟังหลายๆท่าน เช่น คุณ เก๋ ชลินันท์ คุณ พิเชษฐ์ ทองพุ่ม, อาจารย์ เกษม ทั่งทองที่แสดงความสนใจเกี่ยวกับข่าวการประกวดคลิปวีดิทัศน์ Thai-Vietnamese Friendship in the New Normal Contest ที่จัดโดยสถานทูตไทย ณ กรุงฮานอยและสถานีวิทยุเวียดนาม ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมรำลึกครบรอบ 45 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเวียดนามกับไทย ทางคณะกรรมการจัดการประกวดได้คัดเลือก 20 คลิปวีดิทัศน์เข้ารอบสุดท้าย ซึ่งมีเนื้อหาที่หลากหลายในด้านต่างๆ เช่น วัฒนธรรม อาหาร การท่องเที่ยว ศิลปะและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงต่างๆทั้งของเวียดนามและไทย ซึ่งคลิปวีดิทัศน์เหล่านี้ได้ถ่ายทอดความรู้สึกที่สนุกสนานและเป็นกำลังใจให้แก่คนรุ่นใหม่และประชาชนของทั้งสองประเทศฟันฝ่าช่วงวิกฤตโควิด -19 พร้อมทั้งมีส่วนร่วมกระชับไมตรีจิตมิตรภาพระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นมากขึ้น
ในการประกวดครั้งนี้รางวัลที่หนึ่งเป็นของคุณ เลเฮืองยางและคุณ Duangjai Phairotwarakan รางวัลที่สองเป็นของคุณ หวิ่งเลมิงห์ตว่านและคุณ Prorawat Wichitpan และรางวัลที่ 3 เป็นของคุณ ฝ่ามถิเฟือกหว่ายและคุณ Henriette Erawan Kamphorst ซึ่งคลิปวีดิทัศน์ที่ได้รับรางวัลที่ 1 นี้ได้ดึงดูดผู้ชมผ่านวิธีการแนะนำที่น่าประทับใจเกี่ยวกับประเทศและวัฒนธรรมของสองประเทศ พร้อมทั้งเสียงร้องที่ไพเราะเพราะพริ้งของคุณเฮืองยางและคุณ Duangjai Phairotwarakan ในเพลงที่แปลเป็นภาษาเวียดนามและไทย ซึ่งหลังจากที่ชมคลิปการมอบรางวัลบนเว็บไซต์ของเรา อาจารย์ เกษม ทั่งทอง, คุณ จรัลนัดดา จรูญโรจน์และคุณ เก๋ ชลินัลท์ ได้แสดงความยินดีกับทีมที่ชนะการประกวดทั้ง3ทีม รวมทั้งการขยายความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างสองประเทศ
หลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยน้ำท่วมหนักในรอบ20ปี |
คุณ หว่ายทู ชาวเวียดนามที่อาศัยในจังหวัดชัยภูมิได้บอกว่า ที่อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ถนนหนทางหลายสายถูกน้ำท่วมในระดับ 30-50 เซนติเมตร ในโรงพยาบาล ต้องใช้กระสอบทรายกันน้ำ… ส่วนอาจารย์ เกษม ทั่งทอง อาศัยอยู่ในจังหวัดขอนแก่นก็แจ้งว่า “หลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยน้ำท่วมหนักในรอบ20ปี ที่อยู่ใกล้กับแม่น้ำชีไหลผ่านมีน้ำไหลท่วมนาข้าวบ้าง รออีก2-3วันคงจะท่วมมากกว่านี้ ส่วนหมู่บ้านผมคงไม่ท่วมเพราะเป็นที่สูง” และคุณ พิเชษฐ์ ทองพุ่ม แฟนพันธุ์แท้ของเราก็บอกว่า “กทม. ฝนตกหนักแต่น้ำไม่ท่วมครับ” ครับ พายุเตี้ยนหมู่พัดถล่มเมืองไทยในสัปดาห์นี้ได้ส่งผลกระทบเป็นอย่างมากถึงประเทศไทย ซึ่งได้เกิดเหตุน้ำท่วมอย่างหนักใน 30 จังหวัดในภาคกลาง ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งกรุงเทพฯ ทำให้ประชาชนชาวไทยนับแสนคนได้รับความเดือดร้อน แล้วท้องถิ่นที่ท่านผู้ฟังอาศัยอยู่เป็นอย่างไรบ้างครับ หวังว่าจะไม่หนักมากและขอให้ท่านผู้ฟังทุกท่านและครอบครัวปลอดภัยและสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปรกติโดยเร็วนะครับ
|
คุณ Davon Chanthabun จากประเทศลาวบอกว่า “ผมเห็นข่าว เมืองท่องเที่ยว ฟู้ก๊วกของเวียดนามจะเปิดรับนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศในเดือนตุลาคมนี้ แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องตอบสนองเงื่อนไขอะไรบ้าง”
ครับ ตามข้อมูลล่าสุด เพื่อรักษาความปลอดภัย เมืองฟู้ก๊วกจะเปิดรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ระยะเวลาตั้งแต่อย่างน้อย 14 วันแต่ไม่เกิน 12 เดือนก่อนเดินทางเข้าฟู้ก๊วกหรือมีใบรับรองว่าหายจากโรคโควิด – 19 ไม่เกิน 12 เดือน นักท่องเที่ยวทุกคนต้องตรวจหาเชื้อแบบPCR ก่อนเดินทางเข้าฟู้ก๊วก 72 ชั่วโมง และจองทัวร์ผ่านบริษัทนำเที่ยว หวังว่า ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณ Davon Chanthabun และคุณผู้ฟังทุกท่านได้เตรียมตัวมาเที่ยวฟู้ก๊วกในเร็วๆนี้นะครับ
ส่วนอาจารย์ เกษม ทั่งทอง แฟนพันธุ์แท้ของรายการส่งอีเมลมาบอกว่า “สวัสดีครับผู้จัดทำรายการภาคภาษาไทยทุกท่าน จากรายการตอบจดหมายครั้งที่แล้ว ผมขอเล่าถึงสถานที่ที่เคยไปเยี่ยมชมทั้ง 3 แห่งดังนี้
สถานที่แรกคือ จัตุรัสบาดิ่งห์ เป็นสถานที่ตั้งสุสานประธานโฮ จิ มินห์ เปิดให้ประชาชนเข้าไปเคารพร่างของท่านประธานโฮ จิ มินห์ หรือลุงโฮ ของชาวเวียดนาม ข้างๆสุสานเป็นบ้านพักของลุงโฮ ลักษณะเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูงเหมือนบ้านคนไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยที่ท่านมีความผูกพันมาก ภายในห้องทำงานมีสิ่งของเครื่องใช้วางไว้ในตำแหน่งวันสุดท้ายที่ท่านมีชีวิตอยู่ หน้าบ้านเป็นสระน้ำ เลี้ยงปลา เล่าว่าถ้าเอามือตีน้ำปลาจะว่ายเข้ามาหา เพราะว่าลุงโฮก่อนจะให้อาหารปลาท่านจะเอามือตีน้ำก่อน
ตุรัสบาดิ่งห์ |
สถานที่ต่อมาคือ วัน เมี๊ยว ก๊วก ตื๋อ ย๊าม เป็นสถานที่สอบแข่งขันของข้าราชการ เหมือนสอบจอหงวนของจีน มีศิลาจารึกข้อความบนแผ่นหิน เป็นแผ่นหินรูปสี่เหลี่ยมตั้งอยู่บนหลังเต่า มีอยู่นับสิบแผ่น
ท้ายสุดเป็นสระคืนดาบ หรือโห่หว่าน เกี๊ยม ลักษณะเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ มีเกาะเล็กๆอยู่เชื่อมกับฝั่งด้วยสะพานไม้สีแดง ข้างในมีเต่าตัวใหญ่สตั๊ฟเก็บไว้ในตู้กระจก รอบๆเป็นถนนไว้ให้เดินออกกำลังกาย และนั่งพักผ่อน ใต้ร่มไม้ใหญ่หลายต้น
ผ่านมาแล้ว 25ปี ไม่ทราบว่าสถานที่เหล่านั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปมากหรือไม่”
นี่คือสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง 3 แห่งของเวียดนาม ซึ่งไปจุดก็ยังคงได้รับการรักษาเอาไว้เหมือนเดิม หวังว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ อาจารย์ เกษม ทั่งทอง และท่านผู้ฟังจะมีโอกาสมาเที่ยวกรุงฮานอยและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆของเวียดนามนะครับ...