รายการตอบจดหมายวันที่๗มีนาคม
(VOVworld)-ในสัปดาห์ที่ผ่านมาทางผู้จัดทำรายการยังคงได้รับการ์ดอวยพรปีใหม่ประเพณีจากแฟนรายการต่อไป รวมทั้งคำอวยพรเจ้าหน้าที่สตรีทุกคนในโอกาสวันสตรีสากล8มีนาคม นอกจากนี้ก็มีผู้ฟังจากอินโดนีเซียที่สนใจเรื่องการพิชิตยอดเขาฟานซีปังและอยากรู้ข้อมูลของโปรเกรมการไต่เขาฟานซีปัง
(VOVworld)-ในสัปดาห์ที่ผ่านมาทางผู้จัดทำรายการยังคงได้รับการ์ดอวยพรปีใหม่ประเพณีจากแฟนรายการต่อไป รวมทั้งคำอวยพรเจ้าหน้าที่สตรีทุกคนในโอกาสวันสตรีสากล8มีนาคม นอกจากนี้ก็มีผู้ฟังจากอินโดนีเซียที่สนใจเรื่องการพิชิตยอดเขาฟานซีปังและอยากรู้ข้อมูลของโปรเกรมการไต่เขาฟานซีปัง
ภาพที่งดงามจากยอดเขาฟานซีปัง
|
ฟานซีปังเป็นยอดเขาสูงที่สุดของสามประเทศเวียดนาม-ลาว-กัมพูชาดังนั้นจึงถูกเรียกว่าเป็นชายคาของอินโดจีน โดยมีความสูง3143เมตรและเปรียบดัง “เส้นชัย” เพื่อการพิชิตของชนรุ่นใหม่ที่ชอบการท่องเที่ยวแบบผจญภัยเชิงนิเวศ ชอบความท้าทายและอยากลองความกล้าเพื่อเอาชนะตัวเอง ตามผลการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ภูเขานี้มีอายุกว่า100ล้านปี มีป่าดงดิบที่ต้องอนุรักษ์และมีระบบนิวศที่หลากหลายและสมบูรณ์ ด้วยพันธุ์พืชกว่า1700ชนิดและสัตว์ป่าที่หายากอีกมากมายหลายชนิด จนทำให้ฟานซีปังไม่เพียงแต่เป็นเป้าหมายของคนในประเทศเท่านั้นหากนักท่องเที่ยวต่างๆชาติก็ได้เดินทางมาเพื่อพิชิตยอดเขาแห่งนี้นับวันเพิ่มมากขึ้น
ก่อนหน้านี้หลายปีการไต่เขาพิชิตยอดฟานซีปังนั้นต้องใช้เวลา5-7วัน แต่หลังจากมีการพัฒนาการท่องเที่ยวแบบผจญภัย บริษัทนำเที่ยวหลายแห่งได้ประสานความร่วมมือกับทางการจังหวัดลาวกายและชาวท้องถิ่นทำการสำรวจเพื่อสร้างเส้นทางการพิชิตยอดเขานี้ โดยเส้นทางที่ถือว่ามีความท้าทายที่สุดคือการขึ้นเขาจากหมู่บ้านก๊าตก๊าตที่ความสูงกว่า1200เมตรและมีจุดพักกลางทางที่ความสูงกว่า1700เมตร 2100เมตร และ2600เมตรก่อนที่จะสามารถปักธงชัยบนยอดเขาได้สำเร็จ ถ้าใช้เส้นทางนี้ต้องใช้เวลาทั้งหมด4วันและนี่ก็เป็นเส้นทางที่เยาวชนชื่นชอบ ซึ่งในระหว่างทางขึ้นเขานักไต่เขาทุกคนจะได้สัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติที่งดงามหาที่ใดเหมือนถึงแม้บางทีอาจจะเสี้ยวแต่ก็คุ้มค่า
นักข่าวของวีโอวี5ที่พิชิตยอดฟานซีปัง
|
เส้นทางที่สองเริ่มจากซิ้นจ๋ายในความสูง1260เมตรโดยไต่ขึ้นความสูง2000เมตรถึงจะมีจุดพักค้างคืน ซึ่งก็เป็นเส้นทางที่ลำบากไม่แพ้การเดินทางจากหมู่บ้านก๊าตก๊าต
ส่วนอีกเส้นทางที่เริ่มจากจ๋ายโตนในความสูงเกือบ2000เมตรนั้นถือเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดโดยใช้เวลาทั้งขึ้นและลงเพียง2วันเท่านั้น ดังนั้นนักไต่เขามืออาชีพจะไม่นิยมเลือกหากมีแต่นักท่องเที่ยวที่มาพิชิตครั้งแรกหรือครอบครัวที่พาเด็กไปด้วยถึงจะนิยมเลือกใช้เส้นทางนี้
สำหรับการเดินทางถ้าใครยังไม่รู้ทิศรู้ทางก็สามารถติดต่อหาผู้นำทางและขนของกับบริษัทนำเที่ยวต่างๆในราคาที่2-3แสนด่ง/วันหรือคิดเป็นประมาณ 10-15เหรียญสหรัฐ/วัน ส่วนช่วงที่ถือว่าอากาศดีที่สุดเพื่อการไต่เขาคือตั้งแต่กันยา-มีนา โดยเฉพาะในช่วงต้นปีธรรมชาติจะสวยงามยิ่งนักเพราะเป็นช่วงที่ดอกไม้ป่าหลายชนิดบานรับวสันต์ตลอดสองข้างทางทำให้บรรยากาศมีความโรแมนติกมากขึ้นและช่วยให้ทุกคนหายเหนื่อย มีกำลังใจมากขึ้นเพื่อไปถึงจุดหมาย แต่ในช่วงปลายปีคือประมาณเดือนธันวาถึงมกรานั้นแม้อากาศจะหนาวกว่าแต่ก็สร้างบรรยากาศอีกแบบที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องรุ่นใหม่หรือผู้ที่เป็นมืออาชีพจำนวนมากในการพิชิตยอดเขาฟานซีปัง.