การกรุ่นกลิ่น 'ชาดอกบัว' โห่เตย-ภูมิปัญญาอันล้ำเลิศของชาวฮานอย
Tu Anh/VOV5 -  
(VOVWORLD) - การกรุ่นกลิ่น 'ชาดอกบัว' เป็นศิลปะขั้นสูง ซึ่งไม่เพียงแต่ต้องอาศัยประสบการณ์และเทคนิคพิเศษเท่านั้น หากคนทำต้องใส่ใจอีกด้วย
ชากลิ่นดอกบัวคือของขวัญที่มีค่าของผืนแผ่นดินทังลองฮานอยที่มีอายุนับพันปี การผสานระหว่างรสชาดธรรมชาติของชาเขียวบวกกับกลิ่นหอมของดอกบัวในทะเลสาบโห่เตยได้สร้างความหลงใหลและกลายเป็นความภาคภูมิภใจของชาวฮานอย
การกรุ่นกลิ่นชาดอกบัวคือศิลปะขั้นสูงซึ่งไม่เพียงแต่ต้องมีประสบการณ์และใช้เทคนิคพิเศษเท่านั้น หากยังต้องสะท้อนจิตใจที่พิถีพิถันงดงามของคนทำอีกด้วย เพื่อให้ได้ชากลิ่นดอกบัวหอมอร่อย ต้องทำหลายขั้นตอน ตั้งแต่การเก็บดอกบัวตอนเช้าตรู่ไปจนถึงการแยกส่วนเกสรเพื่อใช้หมักชา
ผู้สื่อข่าว ตู้แอง ติดตามคนทำชากลิ่นดอกบัวเป็นเวลา 1 วันเพื่อศึกษาค้นคว้าขั้นตอนการอบชาโห่เตย
|
ในช่วงเช้าตรู่ พวกเราได้เริ่มการศึกษาขั้นตอนการทำชากลิ่นดอกบัว
|
|
การเก็บดอกบัวตอนเช้าตรู่จะได้ดอกบัวที่ยังมีกลิ่นหอมอย่างเต็มที่
|
|
ดอกบัวแบ๊กเหยียบหรือดอกบัวร้อยกลีบคือดอกบัวที่เหมาะสำหรับการหมักชา
|
|
คนเก็บดอกบัวต้องพายเรือเก่งและต้องมีความชำนาญในการเก็บดอกบัว
|
|
คนเก็บดอกบัวต้องมีความพิถีพิถันในการเลือกดอกบัว
|
|
เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น เรือก็เต็มไปด้วยดอกบัว
|
|
ทุกวันในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคมจะสามารถเก็บดอกบัวได้มากที่สุด
|
|
ดอกบัวที่ถูกเก็บจะถูกแยกเพื่อเอาปลายเกสร
|
|
คนทำต้องมีความพิถีพิถันเพื่อเก็บปลายเกสรไม่ให้ซ้ำ
|
|
แต่อย่างไรก็ตามต้องรีบทำในห้องปิดเพื่อให้กลิ่นหอมของดอกบัวจางไป
|
|
ส่วนที่ต้องนำไปอบชาคือปลายเกสรสีขาว
|
|
การแยกปลายเกสร ต้องทำหลายขั้นตอน
|
|
ด้วยประสบการณ์ของคนทำชาบัว กลีบดอกบัวได้ถูกแยกออกจากกันถึงส่วนปลายของเกสร
|
|
ส่วนปลายของเกสรเป็นปุ่มดอกสีขาวอยู่ที่ปลายของเส้นเกสรสีเหลืองอร่าม
|
|
กว่าจะได้ส่วนปลายของเกสรเยอะขนาดนี้ต้องใช้ดอกบัวนับร้อยดอก
|
|
ส่วนที่เหลือสามารถเอามาตากให้แห้งเพื่อทำยา
|
|
ชากลิ่นดอกบัวใช้เวลาหมักตั้งแต่ 5-7 ครั้ง
|
|
การอบชาต้องใช้ปลายเกสรดอกบัว
|
|
สิ่งที่ดีเลิศของชาดอกบัวคือศิลปะการชงและดื่มชา
|
|
สำหรับชาวฮานอย การดื่มชาคือวัฒนธรรมที่ได้กลายเป็นศิลปะ การชงชาดื่มเองก็เหมือนการชงชาให้แขกดื่มซึ่งจะต้องใส่ใจทุกขั้นตอน
|
Tu Anh/VOV5