นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เข้าร่วมการประชุม "มุ่งสู่โลกที่สันติภาพ เสถียรภาพและเจริญรุ่งเรือง"

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ณ กรุงฮานอย ในการตอบคำถามของสื่อมวลชนเกี่ยวกับผลการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือ จี 7 ขยายวงปีนี้ นาย บุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีต่างประเทศได้เผยว่า การประชุมสุดยอดกลุ่มจี 7 ขยายวงที่มีขึ้น ณ เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่นในระหว่างวันที่ 20-21 พฤษภาคมภาย ซึ่งญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพได้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม บรรดาผู้นำได้หารือ ประเมินและเสนอมาตรการเพื่อแก้ไขความท้าทายระดับโลก โดยเฉพาะการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ความมั่นคงด้านอาหาร ความมั่นคงด้านสาธารณสุข ความเสมอภาคทางเพศ การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคงด้านพลังงานและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

สำหรับผลการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่มจี 7 ขยายวงครั้งนี้ของคณะผู้แทนเวียดนาม รัฐมนตรี บุ่ยแทงเซิน ย้ำว่า การปฏิบัติภารกิจของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง และคณะผู้แทนระดับสูงของเวียดนามในการเข้าร่วมของการประชุมสุดยอดกลุ่มจี 7 ขยายวงและการปฏิบัติภารกิจในประเทศญี่ปุ่นได้ประสบความสำเร็จทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี ในเวลาไม่ถึง 3 วัน นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานและเข้าร่วมกิจกรรมเกือบ 40 กิจกรรม อาทิ การประชุม การพบปะกับผู้นำของญี่ปุ่น  ผู้ประกอบการ เพื่อนมิตรชาวญี่ปุ่นและผู้นำของประเทศและองค์การระหว่างประเทศต่างๆ

ในระดับพหุภาคี นายกรัฐมนตรีได้มีข้อเสนอแนะที่เป็นรูปธรรมและเหมาะสมเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาทั้งในระดับภูมิภาคและโลก ความคิดริเริ่มและข้อเสนอของนายกรัฐมนตรีได้รับการชื่นชมเป็นอย่างสูงจากผู้นำของประเทศและองค์การระหว่างประเทศต่างๆ

ในระดับทวิภาคี นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้พบปะทวิภาคีนับสิบครั้งกับบรรดาผู้นำของกลุ่มจี 7 แขกรับเชิญและองค์การระหว่างประเทศบนเจตนารมณ์แห่งการเปิดเผย ตรงไปตรงมาและจริงใจเกี่ยวกับมาตรการเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีและการประสานงานในปัญหาที่ต่างให้ความสนใจ หุ้นส่วนหลายรายได้ให้ความสำคัญต่อบทบาท สถานะของเวียดนาม และมีความพร้อมที่จะส่งเสริมความร่วมมือในหลายด้านกับเวียดนาม โดยเฉพาะ ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การแก้ไขปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น เช่น ความมั่นคงด้านอาหาร ความมั่นคงด้านพลังงาน การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เศรษฐกิจแห่งสีเขียว เศรษฐกิจหมุนเวียนและนวัตกรรม

ในการประชุมและการพบปะทวิภาคี ผู้นำของหลายประเทศได้ย้ำถึงความสำคัญของการค้ำประกันความมั่นคง ความปลอดภัยในการเดินเรือและการบิน การแก้ไขการพิพาทและความขัดแย้งผ่านมาตรการที่สันติบนพื้นฐานของกฎหมายสากล โดยเฉพาะ อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลหรือ UNCLOS ปี 1982 การปฏิบัติตามแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีอย่างสมบูรณ์ และเสร็จสิ้นการจัดทำหลักปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายทในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีอย่างมีประสิทธิภาพและจริงจังโดยเร็ว.