(VOVworld) – เมื่อวันที่ 10 เดือนนี้ ณ ประเทศกัมพูชา ได้มีการจัดการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน + 3 และการประชุมที่เกี่ยวข้องอื่นๆ โดยคณะผู้แทนเวียดนาม นำโดยนาย Phạm Quang Vinh รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามเข้าร่วม  ในการประชุมอาเซียน + 3 ที่ประกอบไปด้วย 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนกับ 3 ประเทศหุ้นส่วนคือ จีน ญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลี รัฐมนตรีต่างประเทศทุกท่านได้กล่าวยืนยันว่า กระบวนการอาเซียน + 3 ได้รับการขยายในทุกมิติ ซึ่งเป็นระเบียบความร่วมมือที่คล่องตัวและมีประสิทธิภาพที่สุดในการสงเสริมความร่วมมือและความเชื่อมโยงในเอเชียตะวันออก รัฐมนตรีทุกท่านยังได้แสดงความยินดีต่อการตัดสินใจของรัฐมนตรีการคลังอาเซียน + 3 ที่เพิ่มงบประมาณให้แก่การปฏิบัติข้อตกลงพหุภาคีความคิดริเริ่มเชียงใหม่จาก 1แสน2หมื่นล้านเหรียญสหรัฐขึ้นเป็น 2แสน4หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และเรียกร้องให้ปฏิบัติข้อตกลงว่าด้วยกองทุนสำรองข้าวฉุกเฉินที่อาเซียน + 3 ได้ลงนามกันเมื่อเดือนตุลาคมปี 2011  บรรดารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียนยังได้ให้ความสำคัญต่อควบคืบหน้าในความสัมพันธ์ของอาเซียน + 3  การเข้าร่วมอย่างเข้มแข็งและส่วนร่วมที่สำคัญของจีน ญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลีต่อกระบวนการความร่วมมือ อาเซียนเรียกร้องให้3 ประเทศหุ้นส่วนให้การสนับสนุนการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน ความเชื่อมโยงภายในภูมิภาค การลดช่องว่างการพัฒนาและบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในฟอรั่มภูมิภาค โอกาสนี้ ผู้แทนหลายประเทศได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในทะเลตะวันออกโดยยืนยันว่า ทุกประเทศต้องเคารพกฏหมายสากลและอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฏหมายทะเลปี 1982 ส่วนรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม Phạm Quang Vinh ได้ยืนยันอีกครั้งเกี่ยวกับจุดยืนของรัฐบาลเวียดนามที่คัดค้านประเทศจีนที่อนุมัติการจัดตั้งนครซานซาและเปิดประมูลสำรวจและขุดเจาะปีโตรเลี่ยม 9 แปลงในทะเลตะวันออกที่อยู่ลึกเข้ามาในเขตไหล่ทวีปและเขตเศรษฐกิจจำเพาะของเวียดนาม ตลอดจนกล่าวย้ำถึงหลักการณ์การเคารพอธิปไตยและสิทธิอัตวินิจฉัยของประเทศริมฝั่งทะเลต่อเขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปตามอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฏหมายทางทะเลปี 1982  ต้องแก้ไขการพิพาทกันด้วยสันติวิธี ไม่ใช้อาวุธและเคารพกฏหมายสากล ส่วนในการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแม่น้ำโขง – ญี่ปุ่นได้มีการอนุมัติ “แผนปฏิบัติการแม่น้ำโขง – ญี่ปุ่นเพื่อปฏิบัติยุทธศาสตร์โตเกียว 2012” ซึ่งทุกฝ่ายจะปฏิบัติกิจกรรมและมาตรการที่เป็นรูปธรรมใน3เสาหลักแห่งความร่วมมือคือ ส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาคแม่น้ำโขง การพัฒนาร่วมกันทั้งในด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว และการรักษาความมั่นคงของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ที่ประชุมยังย้ำว่า การปฏิบัติแผนการดังกล่าวอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพจะมีส่วนร่วมที่สำคัญต่อ “ความสัมพันธ์หุ้นส่วนเพื่อความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” ระหว่างบรรดาประเทศเขตลุ่มแม่น้ำโขงกับญี่ปุ่น ตลอดจนแสดงความยินดีต่อการที่สามประเทศ คือเวียดนาม ลาวและไทยจัดตั้งระเบียบการประชุมระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเพื่อแก้ไขอุปสรรคต่างๆและส่งเสริมการพัฒนาแนวเศรษฐกิจตะวันออก – ตะวันตกหรือ EWEC และยอมรับข้อเสนอจากการประชุมครั้งแรกของระเบียบการดังกล่าวที่มีขึ้น ณ เมืองกวางตรี ประเทศเวียดนามเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นาย Phạm Quang Vinh รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่งประเทศเวียดนามได้ยืนยันว่า ความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพและจริงจังระหว่างทุกประเทศเกี่ยวกับการควบคุมแหล่งน้ำจะเป็นเงื่อนไขที่สำคัญต่อความสำเร็จของ “ ทศวรรษแม่น้ำโขงแห่งสีเขียว” และเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงหรือ MRC และประเทศสมาชิกเพิ่มการประสานงานเพื่อปฏิบัติการวิจัยเกี่ยวกับการควบคุมและพัฒนาแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน ซึ่งรวมไปถึงผลกระทบจากการสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำในแม่น้ำโขง./.