การพัฒนาเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน
(VOVWORLD) -เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งได้ลงนามมติเกี่ยวกับโครงการปฏิบัติงานของรัฐบาลว่าด้วยการปฏิบัติมติของกรมการเมืองเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมและการรักษากลาโหม ความมั่นคงในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงจนถึงปี 2030 วิสัยทัศน์ปี 2045
มติดังกล่าวกำหนดบางเป้าหมายจนถึงปี 2030 เช่น อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ยในช่วงปี 2021 -2030 จะอยู่ที่ร้อยละ 6.5 -7 ขอบเขตของเศรษฐกิจจนถึงปี 2030 เพิ่มขึ้นกว่า 2 -2.5 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2021
เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้ มติดังกล่าวชี้ชัดถึงหน้าที่และมาตรการต่างๆ เช่น การสร้างสรรค์นครเกิ่นเทอให้เป็นศูนย์กลางแห่งการพัฒนาของเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง การสร้างสรรค์เมืองหมีทอ เตินอาน ลองเซวียน แหรกย้า ห่าเมาและซอกจังให้กลายเป็นศูนย์กลางต่างๆ เน้นสร้างสรรค์เมืองฟู้ก๊วกให้กลายเป็นศูนย์กลางการบริการ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่มีคุณภาพสูง การท่องเที่ยวทางทะเลและเกาะแก่งระดับชาติและระดับโลก เชื่อมโยงกับศูนย์กลางเศรษฐกิจใหญ่ของภูมิภาคและโลก จนถึงปี 2030 เสร็จสิ้นการก่อสร้างระบบทางไฮเวย์ที่เชื่อมโยงระหว่างเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงกับเขตตะวันออกภาคใต้ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตเกษตรเป็นเศรษฐกิจการเกษตร เชิงนิเวศและยั่งยืน รักษากลาโหมและความมั่นคง เป็นต้น
ในวันเดียวกัน กระทรวงวางแผนและการลงทุนได้เผยว่า มีองค์การระหว่างประเทศกว่า 30 องค์การและสถานประกอบการรายใหญ่ 100 แห่งของประเทศต่างๆจะเข้าร่วมการประชุมประกาศการวางผังและส่งเสริมการลงทุนในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง ณ นครเกิ่นเทอในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ โดยที่ประชุมจะเน้นถึงเนื้อหาต่างๆ เช่น การประกาศการวางผังเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงในช่วงปี 2021 -2030 วิสัยทัศน์จนถึงปี 2050 ที่นายกรัฐมนตรีอนุมัติ แนวทางการปฏิบัติโครงการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการปฏิบัติมติที่ 13 ของกรมการเมืองเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคม การรักษากลาโหม ความมั่นคงในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงจนถึงปี 2030 วิสัยทัศน์จนถึงปี 2045 เห็นพ้องปฏิบัติแผนการวางผังเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงในช่วงปี 2021 -2030 วิสัยทัศน์จนถึงปี 2050 นอกจากนี้ 6 ธนาคารเพื่อการพัฒนาให้คำมั่นว่า จะช่วยเหลือด้านการเงินมูลค่า 2. 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อปฏิบัติโครงการพัฒนาเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ในช่วงปี 2021 -2025 .