ความตึงเครียดระหว่างประเทศตะวันตกกับซีเรียกำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นจนอาจนำไปสู่สงครามครั้งใหม่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง  โดยวันที่ 29 สิงหาคม แหล่งข่าวจากประเทศตะวันตกรายงานว่า กองทัพเรือสหรัฐได้เพิ่มการประจำการในเขตอ่าวเปอร์เซีย รวมทั้งส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Harry S Truman มาประจำการในเขตนี้  ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำที่ 2 ในภูมิภาคนี้  ต่อจากเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Nimitz ที่กำลังประจำการในมหาสมุทรอินเดียอยู่แล้ว   ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 28 ที่ผ่านมา การประชุมระหว่างเอกอัครราชทูตของอังกฤษ จีน ฝรั่งเศส รัสเซียและสหรัฐประจำสหประชาชาติ เกี่ยวกับร่างมติให้โจมตีซีเรียของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาติที่อังกฤษเสนอได้เสร็จสิ้นลง โดยไม่สามารถออกมติประนามการใช้อาวุธเคมีในซีเรียเมื่อเร็วๆนี้ได้  โดยนาย Vladimir Titov รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียได้เผยว่า ยังไม่ถึงเวลาที่สหประชาชาติจะหารือเกี่ยวกับมาตรการควํ่าบาตรต่อซีเรียเนื่องจากกลุ่มผู้สังเกตการณ์ของสหประชาชาติยังไม่รายงานผลการสืบสวนการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย  ส่วนนาย หวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทวงการต่างประเทศจีนได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องใช้ความอดกลั้นต่อปัญหาดังกล่าว  ในขณะเดียวกัน แหล่งข่าวจากประชาชนและกองกำลังฝ่ายต่อต้านในซีเรียรายงานว่า ทางการของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด อาจอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากสำนักงานบัญชาความมั่งคงและทหารออกจากกรุงดามัสกัสเพื่อรับมือกับการโจมตีจากฝ่ายตะวันตก./.