(VOVWORLD) -นักการทูตระหว่างประเทศหลายคนที่เคยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ ประเทศเวียดนามได้ยืนยันว่า ท่านเหงวียนฟู้จ่อง มีบทบาทเป็นอย่างมากต่อภารกิจการพัฒนาและผลสำเร็จของเวียดนามทั้งในการพัฒนาประเทศและการต่างประเทศ
นาย Fredesmán Turró González เอกอัครราชทูตคิวบา ณ ประเทศเวียดนามระยะปี 1999-2004 (VNA) |
นาย Fredesmán Turró González เอกอัครราชทูตคิวบา ณ ประเทศเวียดนามระยะปี 1999-2004 ได้ให้ข้อสังเกตว่า ภายใต้การนำของท่าน เหงวียนฟู้จ่อง พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้นำประเทศเวียดนามประสบผลสำเร็จสำคัญๆในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม และกำหนดเป้าหมายและหน้าที่ใหม่ให้แก่เวียดนามเพื่อพัฒนาเป็นประเทศที่เจริญรุ่งเรืองที่มีรายได้ปานกลางในระดับสูงในเวลาที่จะถึง นอกจากเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ ท่าน เหงวียนฟู้จ่อง ยังคงเป็นนักวิชาการที่ปรีชาสามารถ โดยวิจัยจัดทำทฤษฎีเกี่ยวกับกระบวนการเปลี่ยนแปลงใหม่ในเวียดนามและทฤษฎีเกี่ยวกับการปฏิบัติในยุคเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมนิยม
ในขณะเดียวกัน นาย John McCarthy เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ณ เวียดนามช่วงปี 1981-1983 ได้แสดงความคิดเห็นว่า ภายใต้การนำของเลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง เวียดนามได้ปฏิบัตินโยบายการต่างประเทศที่คล่องตัว สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับออสเตรเลียนั้นภายใต้การนำของเลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง เวียดนามได้เป็นประเทศแรกๆ ในเอเชียที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ จากออสเตรเลยี ซึ่งสามารถเห็นได้ชัดผ่านการตัดสินใจของผู้นำสองประเทศที่ได้ยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านเมื่อเร็วๆ นี้ นาย John McCarthy ยังยืนยันว่า ในเวลาที่ผ่านมา เวียดนามได้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก โดยนครใหญ่ๆ ในเวียดนามได้พัฒนาอย่างข้ามขั้นและเศรษฐกิจเวียดนามได้โตขึ้นเทียบเท่าเศรษฐกิจอื่นๆ ในภูมิภาค
สมเด็จ Men Sam An ประธานสภาแนวร่วมสามัคคีพัฒนาปิตุภูมิกัมพูชาและนายกสมาคมมิตรภาพกัมพูชา – เวียดนาม |
การถึงแก่อสัญกรรมของเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เหงวียนฟู้จ่อง คือการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของเวียดนามและภูมิภาค นี่คือคำยืนยันของสมเด็จ Men Sam An ประธานสภาแนวร่วมสามัคคีพัฒนาปิตุภูมิกัมพูชาและนายกสมาคมมิตรภาพกัมพูชา – เวียดนามในการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามเมื่อบ่ายวันที่ 20 กรกฎาคม
สมเด็จ Men Sam An กล่าวว่า ท่านเลขาธิการใหญ่ เหงวียนฟู้จ่อง เป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล โดยอุทิศทั้งชีวิตให้แก่ภารกิจการปฏิวัติของประเทศ การจากไปของท่านเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของเวียดนามและอาเซียนก็สูญเสียผู้นำที่โดดเด่นคนหนึ่ง
“ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบปะกับท่านเลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง ในระหว่างการเยือนประเทศเวียหนามหลายครั้ง และในขณะที่ท่านเดินทางมาเยือนประเทศกัมพูชา ท่านเป็นคนที่มีความเรียบง่ายและเป็นกันเองมาก”
สมเด็จ Men Sam An กล่าวว่า การนำของเลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง ได้มีส่วนร่วมผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของเวียดนามในเวลาที่ผ่านมา ยกระดับชื่อเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามทั้งในประเทศและในทั่วโลก ช่วยสร้างแรงดึงดูดการลงทุนและยกระดับสถานะของเวียดนามบนเวทีโลก ท่านยังให้ความสนใจต่องานด้านการเสริมสร้างความสัมพันธ์เวียดนาม – กัมพูชา โดยเฉพาะกิจกรรมความร่วมมือในระดับพรรค แนวร่วมปิตุภูมิ สมาคมมิตรภาพและองค์กรมวลชนระหว่างสองประเทศ
นาย Reda El Taify อดีตเอกอัครราชทูตอียิปต์ประจำเวียดนาม |
ในขณะเดียวกัน ในการพูดคุยกับผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำประเทศอียิปต์ นาย Reda El Taify อดีตเอกอัครราชทูตอียิปต์ประจำเวียดนามได้ยืนยันว่า เลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง เป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่และยอดเยี่ยมของเวียดนาม มีบทบาทสำคัญในการสร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองของเวียดนาม ยกระดับบทบาทและสถานะของเวียดนามบนเวทีโลก ซึ่งตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ได้รับข่าวท่าน เหงวียนฟู้จ่อง ถึงแก่อสัญกรรม พร้อมทั้งย้ำถึงบทบาสำคัญของท่านเหงวียนฟู้จ่องในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของเวียดนาม
“ในความสัมพันธ์ภายในประเทศ ในหลายปีที่ผ่านมา เลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่องและผู้นำเวียดนามอีกหลายท่านได้ผลักดันการพัฒนาความเจริญรุ่งเรืองของประเทศในทุกด้าน โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจและสังคมและผมก็ได้ประจักและสัมผัสด้วยตนเองผลสำเร็จต่างๆของเวียดนามในเวลาที่ปฏิบัติภารกิจในเวียดนาม ซึ่งท่านเลขาธิการใหญ่พรรคได้ช่วยนำพาเวียดนามพัฒนาอย่างเข้มแข็ง สร้างก้าวกระโดดทางเศรษฐกิจและนำสินค้าเวียดนามสู่ตลาดทั่วโลก รวมทั้งอียิปต์และบรรดาประเทศอาหรับ เวียดนามได้พัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจมีพลังภายในอย่างเข้มแข็ง สำหรับการต่างประเทศ เวียดนามได้กลายเป็นภาคีที่มีบทบาทสำคัญในความสัมพันธ์การต่างประเทศ ซึ่งไม่เพียงแต่กับบรรดาประเทศเอเชียผ่านกรอบของอาเซียนและเอเชีย – แปซิฟิกเท่านั้น หากรวมถึงทุกประเทศในทั่วโลกอีกด้วย”.