นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เข้าพบ ประธานประเทศจีนและประธานสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีน

(VOVWORLD) -ในกรอบการปฏิบัติภารกิจในประเทศจีน วันที่ 26 มิถุนายน ณ กรุงปักกิ่ง นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ฝ่ามมิงชิ้ง ได้พบปะกับนาย สีจิ้นผิง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานประเทศจีน
นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เข้าพบ ประธานประเทศจีนและประธานสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีน - ảnh 1นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ฝ่ามมิงชิ้ง ได้พบปะกับนาย สีจิ้นผิง ประธานประเทศจีน

ในการนี้ นาย สีจิ้นผิง ได้ยืนยันว่า จีนให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์กับเวียดนามในนโยบายการต่างประเทศกับบรรดาประเทศเพื่อนบ้าน สนับสนุนเวียดนามในการปกป้องเอกราชของประชาชาติและเชื่อมั่นว่า ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เวียดนามจะประสบความสำเร็จในการสร้างสรรค์ระบอบสังคมนิยมที่สอดคล้องกับสถานการณ์ของประเทศ จีนมีความประสงค์ที่จะขยายความร่วมมือในด้านการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว พัฒนาศักยภาพของการเป็นเศรษฐกิจที่สนับสนุนกัน จีนพร้อมที่จะเพิ่มการนำเข้าสินค้าที่มีคุณภาพสูงของเวียดาม สนับสนุนสถานประกอบการจีนขยายการลงทุนในเวียดนาม เป็นต้น 

ส่วนนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เสนอให้ทั้งสองฝ่ายขยายความร่วมมือในการก่อสร้างกิจการสำคัญๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ระหว่างสองประเทศ ผลักดันการเชื่อมโยงด้านการคมนาคม โดยเฉพาะทางรถไฟ ทางบกและจุดผ่านแดน แสดงความยินดีที่จีนได้เพิ่มการลงทุนที่มีคุณภาพสูงในเวียดนาม พร้อมทั้งเสนอให้จีนอำนวยความสะดวกเพื่อให้สินค้าเวียดนามสามารถนำเข้าตลาดจีน ตลาดเอเชียกลางและยุโรปผ่านประเทศจีนมากขึ้น ขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจจุดผ่านแดนและพัฒนาจุดผ่านแดนอัฉจริยะ เป็นต้น

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เข้าพบ ประธานประเทศจีนและประธานสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีน - ảnh 2นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้พบปะหารือกับนาย หวังฮู่หนิง ประธานสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีน

ในวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้พบปะหารือกับนาย หวังฮู่หนิง ประธานสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีน โดยทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันถึงความหมายของการเยือนประเทศจีนของเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เหงียนฟู้จ่อง เมื่อปี 2022 และการเยือนเวียดนามของประธานประเทศจีน สีจิ้นผิง เมื่อปี 2023 และความสัมพันธ์หุ้นส่วนร่วมมือยุทธศาสตร์ในทุกด้านเวียดนาม – จีนที่กำลังพัฒนาอย่างดีงาม

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ยืนยันว่า การเสริมสร้างและพัฒนาความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานและความร่วมมือในทุกด้านกับจีนถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี เป็นการเลือกเชิงยุทธศาสตร์ที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ในนโยบายการต่างประเทศที่อิสระ พึ่งตนเองและหลายรูปแบบหลายฝ่ายของเวียดนาม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ยังแสดงความประสงค์ว่า ในเวลาที่จะถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกระดับจะเปลี่ยนแปลงใหม่ความคิดและมาตรการ ผลักดันการแปรข้อตกลงและความเข้าใจร่วมของผู้นำทั้งสองรัฐและสองพรรค โดยเฉพาะแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการกระชับและยกระดับความสัมพันธ์หุ้นส่วนร่วมมือยุทธศาสตร์ในทุกด้านให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น สร้างสรรค์ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันและมุ่งสู่การรำลึกครบรอบ 75 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเวียดนามกับจีนในปี 2025 เป็นต้น

ส่วนนาย  หวังฮู่หนิง ได้เห็นพ้องกับข้อเสนอของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง และย้ำว่า จีนให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์กับเวียดนาม สนับสนุนเวียดนามผลักดันแนวทางการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศภายใต้การชี้นำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ปฏิบัติภารกิจพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและยกระดับชื่อเสียงและสถานะบนเวทีโลกต่อไป

สำหรับความร่วมมือระหว่างสองประเทศในเวลาที่จะถึง นาย หวังฮู่หนิง ได้ยืนยันว่า พร้อมสนับสนุนความร่วมมือของสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีนกับแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามต่อไป มีส่วนร่วมกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนร่วมมือยุทธศาสตร์ในทุกด้านและสร้างสรรค์ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันให้แน่นแฟ้นและเข้าสู่ส่วนลึกมากขึ้น

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เข้าพบ ประธานประเทศจีนและประธานสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีน - ảnh 3นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง พบปะกับเจ้าหน้าที่ข้าราชการสถานทูตและสำนักงานตัวแทนเวียดนาม ณ ประเทศจีน (VNA)

ส่วนในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง พบปะกับเจ้าหน้าที่ข้าราชการสถานทูตและสำนักงานตัวแทนเวียดนาม ณ ประเทศจีน โดยชื่นชมสถานทูตเวียดนามประจำประเทศจีนและสำนักงานตัวแทนต่างๆ ของเวียดนามในประเทศจีนที่ได้พยายามกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศและในเวลาที่จะถึง สถานทูตเวียดนามและสำนักงานตัวแทนเวียดนามประจำประเทศจีนจะแปรข้อตกลงระดับสูงและปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ ให้เป็นรูปธรรมเพื่อกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธสาสตร์ในทุกด้านเวียดนาม – จีนและสร้างสรรค์ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน ตลอดจนเป็นฝ่ายรุกและประสานงานอย่างเข้มแข็งเพื่อปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมาย พยายามส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้มีเสถียรภาพและยั่งยืนมากขึ้น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด