ภาพการสัมมนา (dangcongsan.vn)

บรรดาวิทยากรได้ย้ำถึงความสำคัญของการขยายความร่วมมือเพื่อค้ำประกันความมั่นคงในทะเลตะวันออก พร้อมทั้งเสนอการแปรกลไกฟอรั่มตำรวจทะเลของอาเซียนให้เป็นรูปธรรมและเผยว่า การปรับเปลี่ยนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนในการใช้ประโยชน์ การผลิต การใช้พลังงานและทรัพยากรทางทะเลเป็นแนวโน้มที่สำคัญ แต่ประเทศต่างๆต้องสร้างความสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์กับการอนุรักษ์ระบบนิเวศทางทะเล มีกรอบความร่วมมือเกี่ยวกับการอนุรักษ์ การสร้างสรรค์และธำรงโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น ส่วนตัวแทนคนรุ่นใหม่จากประเทศสมาชิกอาเซียนได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาทะเลตะวันออก พร้อมทั้งเสนอความคิดริเริ่มและมาตรการต่างๆเพื่อสร้างสรรค์ทะเลตะวันออกแห่งสันติภาพ เสถียรภาพและเจริญรุ่งเรือง

ส่วนนาง Paola Pampaloni รักษาการอธิบดีกรมเอเชียและแปซิฟิก กระทรวงการต่างประเทศของสหภาพยุโรปหรือ EEAS ได้ยืนยันว่า อียูให้ความสำคัญต่อลัทธิพหุภาคี พร้อมทั้งเผยว่า อียูมีผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจที่ผูกพันกับความมั่นคงทางทะเลและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศริมฝั่งทะเลตะวันออก ซึ่งอียูคัดค้านทุกการกระทำที่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้นและส่งผลกระทบในทางลบต่อการรักษาความเป็นระเบียบบนพื้นฐานของกฎหมายสากล โดยอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 ถือเป็นเข็มทิศนำทางให้แก่การแก้ไขปัญหาการพิพาทในภูมิภาคอย่างสันติ สนับสนุนกระบวนการเจรจาที่อาเซียนเป็นผู้นำเพื่อมุ่งสู่การจัดทำร่างหลักปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออก หรือ ซีโอซี อย่างมีประสิทธิภาพ จริงจังและมีข้อผูกมัดทางนิตินัย โดยให้ความเคารพผลประโยชน์ของฝ่ายที่สามและสอดคล้องกับกฎหมายสากล.