นี่เป็นการเยือนประเทศไทยครั้งแรกของผู้นำเวียดนามในรอบ 24 ปีนับตั้งแต่การเยือนของประธานประเทศเวียดนาม เจิ่นดึ๊กเลือง เมื่อปี 1998 และเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีนับตั้งแต่การเยือนของเลขาธิการใหญ่พรรคฯ เหงียนฟู้จ่อง เมื่อปี 2013 พร้อมทั้งเป็นผู้นำเอกเปกท่านแรกที่เดินทางไปถึงประเทศไทยในการประชุมเอเปกครั้งนี้

ตามกำหนดการณ์ ประธานประเทศ เหงียนซวนฟุ๊ก และภาริยาจะเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เจรจากับนายกรัฐมนตรีไทย เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกช่วยจำฉบับต่างๆ เกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างสองประเทศ พบปะกับผู้นำไทย ให้การต้อนรับตัวแทนขององค์กรมิตรภาพและกลุ่มบริษัทใหญ่ๆ ของไทย ตลอดจนเข้าร่วมฟอรั่มสถานประกอบการเวียดนาม – ไทยและกิจกรรมส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ

ส่วนในกรอบการประชุมผู้นำเอเปกครั้งที่ 29 ประธานประเทศเหงียนซวนฟุ๊กจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดสถานประกอบการหรือ CEO Summit นำคณะผู้แทนเวียดนามเข้าร่วมการประชุมสำคัญๆ ของเอเปก พบปะทวิภาคีกับผู้นำเอเปกและแขกรับเชิญ เข้าร่วมกิจกรรมสำคัญๆของสัปดาห์ผู้นำเอเปกและให้การต้อนรับตัวแทนของกลุ่มบริษัทใหญ่ๆในภูมิภาค

ในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนการเยือนประเทศไทยและเข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเปกครั้งนี้ของประธานประเทศ เหงียนซวนฟุ๊ก นาย ห่ากิมหงอก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เผยว่า

“การเยือนจะสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็งเวียดนาม – ไทย นี่เป็นโอกาสให้ผู้นำทั้งสองประเทศหารือเกี่ยวกับแนวทางใหญ่ๆ เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งขยายความร่วมมือในด้านใหม่ๆที่มีศักยภาพ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและเศรษฐกิจแห่งสีเขียว เป็นต้น ตลอดจนขยายความร่วมมือในด้านวัฒนธรรม การศึกษา การกีฬา การพบปะระดับประชาชนและความร่วมมือระหว่างท้องถิ่นต่างๆ โอกาสนี้ คาดว่า จะมีการลงนามในเอกสารความร่วมมือสำคัญๆ และมีการออกแถลงการณ์ร่วม การเยือนไทยครั้งนี้ของประธานประเทศเวียดนามจะส่งสารเกี่ยวกับความตั้งใจที่เข้มแข็งของผู้นำทั้งสองประเทศว่า จะกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็งเวียดนาม – ไทยให้แน่นแฟ้นมากขึ้น มีส่วนร่วมเสริมสร้างความสามัคคีในอาเซียน เพื่อสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในภูมิภาคและโลก.