ในการนี้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ยืนยันว่า รัฐบาลเวียดนามถือ WB และ IFC เป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาที่สำคัญที่ได้ให้ความช่วยเหลือ มีส่วนร่วมต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมของเวียดนามผ่านการให้คำปรึกษาด้านนโยบายและการช่วยเหลือด้านการเงินให้แก่โครงการความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการหรือโอดีเอ การปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมทั้งเสนอให้ WB และ IFC พัฒนากิจกรรมความร่วมมือใหม่ๆและมีขอบเขตใหญ่ขึ้น รวมทั้งผลักดันความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน  นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง มีความประสงค์ว่า WB จะปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้แก่โครงการหลักในเวียดนามในด้านการพัฒนาคมนาคม ตัวเมือง  การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล พลังงาน การเกษตรอัจฉริยะ การปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำ  การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง   นายกรัฐมนตรีฝ่ามมิงชิ้งเสนอให้ IFC สงวนเงินลงทุนก้อนใหญ่ โดยเฉพาะการสร้างกองทุนเพื่อผลักดันการพัฒนาภาคเอกชน กลายเป็นเสาหลักที่สำคัญของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านที่เพิ่งเกิดใหม่ เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น เซมิคอนดักเตอร์ พลังงานสะอาดและรถยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น

ส่วนรองประธาน มานูเอลา วี เฟอโร  เผยว่า WB จะให้ความช่วยเหลือเวียดนามเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายพัฒนาเป็นประเทศที่พัฒนาและมีรายได้สูงภายในปี 2045 พร้อมทั้งเผยว่า WB จะประสานงานกับกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ เพื่อจัดทำโครงการใหญ่ที่ทั้งสองฝ่ายเน้นร่วมมือในเวลาที่จะถึงด้วยดอกเบี้ยพิเศษในด้านที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึง  ส่วนผู้บริหาร IFC ให้คำมั่นที่จะสนับสุนและช่วยเหลือเวียดนาม โดยเฉพาะการส่งเสริมการพัฒนาสถานประกอบการภาคเอกชนเวียดนามและดึงดูดนักลงทุนชั้นนำในเวียดนาม.