รัฐสภาอภิปรายเกี่ยวกับการลงมติไว้วางใจและการลงคะแนนไว้วางใจ
(VOVworld) – เช้าวันที่๑๐เดือนนี้ ในกรอบของการประชุมรัฐสภาครั้งที่๔สมัยที่๑๓ บรรดาผู้แทนรัฐสภาได้อภิปรายถึงร่างมติเกี่ยวกับการลงมติไว้วางใจและการลงคะแนนไว้วางใจต่อผู้ที่ดำรงตำแหน่งที่มาจากการเลือกตั้งหรือสรรหาซึ่งได้รับการถ่ายทอดสดผ่านสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์เพื่อให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั่วประเทศได้รับชม
|
รัฐสภาอภิปรายเกี่ยวกับการลงมติไว้วางใจและการลงคะแนนไว้วางใจ (Photo:Internet) |
(VOVworld) – เช้าวันที่๑๐เดือนนี้ ในกรอบของการประชุมรัฐสภาครั้งที่๔สมัยที่๑๓ บรรดาผู้แทนรัฐสภาได้อภิปรายถึงร่างมติเกี่ยวกับการลงมติไว้วางใจและการลงคะแนนไว้วางใจต่อผู้ที่ดำรงตำแหน่งที่มาจากการเลือกตั้งหรือสรรหาซึ่งได้รับการถ่ายทอดสดผ่านสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์เพื่อให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั่วประเทศได้รับชม เกี่ยวกับอำนาจและขอบเขตของผู้ที่ได้รับการลงมติไว้วางใจ คณะกรรมาธิการสามัญประจำรัฐสภาได้เสนอให้รัฐสภาทำการลงมติไว้วางใจต่อประธานและรองประธานรัฐสภา ประธานสภาชนเผ่า หัวหน้าคณะกรรมาธิการต่างๆของรัฐสภา สมาชิกของคณะกรรมาธิการสามัญประจำรัฐสภา ประธาน รองประธานประเทศ นายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีและสมาชิกของรัฐบาลรวมทั้งหมด๔๙นาย สภาชนเผ่า คณะกรรมาธิการต่างๆของรัฐสภาจะทำการลงมติไว้วางใจต่อรองประธาน รองหัวหน้า สมาชิกสภาและคณะกรรมาธิการ รวมทั้งหมด๓๘๐คนซึ่งบรรดาผู้แทนเห็นว่า การปฏิบัติในลักษณะนี้มีกรอบที่กว้างโดยในเฉพาะหน้านี้ ควรลงมติไว้วางใจต่อผู้ที่ดำรงตำแหน่งสำคัญในกลไกบริหารของรัฐก่อน ต่อจากนั้นจะทำการสรุปผล ถอดประสบการณ์ และขยายเป้าหมายการลงมติไว้วางใจและการลงคะแนนไว้วางใจ ท่านNguyễn Thị Khá ผู้แทนรัฐสภาจังหวัดTra Vinh กล่าวว่า“การลงมติไว้วางใจและการลงคะแนนไว้วางใจเป็นพื้นฐานให้แก่การประเมิน และวางแผนพัฒนาเจ้าหน้าที่ ดังนั้นผลของการลงมติไว้วางใจและการลงคะแนนไว้วางใจควรได้รับการเผยแพร่อย่างเปิดเผย การลงมติไว้วางใจและการลงคะแนนไว้วางใจเป็นงานที่ต้องปฏิบัติเป็นประจำและแสดงให้เห็นถึงความถูกต้อง๓ประการคือ ตรงเป้าหมาย กระบวนการ และมีคุณภาพ ถ้าทำได้เช่นนี้ ผู้แทนประชาชนจึงจะสามารถปฏิบัติความรับผิดชอบของตนได้ดี เป็นตัวแทนของความมุ่งมั่นและความปรารถนาของประชาชน รวมทั้งนำมติเข้าสู่ชีวิต” บรรดาผู้แทนเห็นว่า ควรทำการลงมติไว้วางใจในรูปแบบลงคะแนนลับเป็นประจำทุกปี ส่วนในช่วงบ่าย ที่ประชุมได้อนุมัติมติเกี่ยวกับร่างงบประมานแผ่นดินปี๒๐๑๓ซึ่งรายรับงบประมาณอยู่ที่๘๑๖ล้านล้านด่ง รายจ่ายงบประมาณอยู่ที่๙๗๘ล้านล้านด่ง ขาดดุลย์อยู่ที่๑๖๒ล้านล้านด่ง หรือร้อยละ๔.๘ของGPDซึ่งเป็นตัวเลขได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา เงินทุนให้แก่การพัฒนาอยู่ที่๑๗๕ล้านล้านด่ง และมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาลไม่เกินกว่า๖๐ล้านล้านด่ง ./.