อาเซียนต้องสามัคคีและตั้งใจบรรลุซีโอซีที่มีข้อผูกมัดทางนิตินัย
(VOVWORLD) -ในการตอบคำถามของผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำประเทศอินโดนีเซียเนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปีอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 หรือ UNCLOS และ 20 ปีการลงนามแถงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซี นาย Veeramalla Anjaiah นักวิจัยสถาบันวิจัยปัญหาต่างๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ อินโดนีเซียได้ย้ำว่า อาเซียนต้องตั้งใจและสามัคคีมากขึ้นในการผลักดันการเจรจาเพื่อมุ่งสู่การลงนามซีโอซีที่มีข้อผูกมัดทางนิตินัย
นาย Veeramalla Anjaiah ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนาม |
UNCLOS 1982 ได้รับการลงนามเมื่อวันที่ 10 ธันวาคมปี 1982 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายนปี 1994 ถึงขณะนี้มี 164 ประเทศและสหภาพยุโรปที่อนุมัติอนุสัญญาฉบับนี้ นาย Veeramalla Anjaiah แสดงความคิดเห็นว่า UNCLOS เป็นธรรมนูญของมหาสมุทร ซึ่งสร้างระเบียบวินัยในทะเลและมหาสมุทรในทั่วโลก สร้างหลักการบริหารและการใช้มหาสมุทร รวมไปถึงการใช้ทรัพยากรจากมหาสมุทร ในตลอด 40 ปีที่ผ่านมา UNCLOS ได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญในการแก้ไขทุกปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการเดินเรือระหว่างประเทศ รวมไปถึงการพิพาททางทะเลและการบริหารทรัพยากรในทะเลและมหาสมุทร
สำหรับดีโอซี ได้รับการลงนามเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนปี 2002 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา นาย Veeramalla Anjaiah ถือว่า นี่เป็นเอกสารด้านการเมืองฉบับแรกระหว่างอาเซียนกับจีนเพื่อแก้ไขปัญหาทะเลตะวันออกในระดับภูมิภาค หลังการลงนามมาเป็นเวลา 20 ปีแต่ดีโอซียังมีข้อจำกัดต่างๆ เนื่องจากไม่มีข้อผูกมัดทางนิตินัย จึงไม่สามารถส่งเสริมประสิทธิภาพในการแก้ไขการพิพาททางทะเลได้ ดังนั้น บรรดาประเทศอาเซียนต้องสามัคคีในด้านนี้ ผลักดันการเจรจาเพื่อมุ่งสู่การลงนามซีโอซีที่มีข้อผูกมัดทางนิตินัยเพื่อให้เป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขความขัดแย้งและควบคุมปฏิบัติการที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดในทะเลตะวันออก.
ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำประเทศอินโดนีเซีย