ภาพฟอรั่ม

นาย เวืองดิ่งเหวะ ประธานสภาแห่งชาติได้กล่าวปราศรัยเปิดฟอรั่ม โดยชี้ชัดว่า ฟอรั่มนี้คือกิจกรรมประจำปีของสภาแห่งชาติ เป็นฟอรั่มที่สำคัญเพื่อระดมและส่งเสริมสติปัญญา ความกระตือรือร้นและความรับผิดชอบของผู้แทนสภาแห่งชาติ ประชาชน ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ผู้เชี่ยวชาญ นักวิทยาศาสตร์ สถานประกอบการและนักธุรกิจทั้งภายในและต่างประเทศในการมีส่วนร่วมต่อปัญหาที่สำคัญของประเทศ การตัดสินใจของสภาแห่งชาติ และยืนยันว่า

“ในความพยายามฟันฝ่าอุปสรรคและความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา หนึ่งในบทเรียนที่สำคัญที่สุดคือการสร้างสรรค์และผลักดันพลังภายในเพื่อรับมือความท้าทายและความผันผวนของสถานการณ์ภายนอกเพื่อปรับตัวและพัฒนา ซึ่งถือเป็นหน้าที่สำคัญพิเศษในสภาวการณ์ที่ความผันผวนและความเสี่ยงต่างๆเพิ่มขึ้น ซึ่งควรแก้ไขความท้าทายทั้งในระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว”

ส่วนในการหารือในหัวข้อ “ส่งเสริมพลังที่เข้มแข็งภายใน ระดมแหล่งพลังและช่วยเหลือสถานประกอบการในการฟันฝ่าอุปสรรค” นาง เลห่งถวีเตียน ซีอีโอเครือบริษัทเลียนท้ายบิ่งเยืองได้เสนอให้รัฐบาลสร้างกรอบทางนิตินัยเพื่อสนับสนุนสถานประกอบการพัฒนา ส่วนนาย Jochen Schmittmann ตัวแทนจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ในเวียดนามได้เผยว่า เศรษฐกิจเวียดนามจะฟื้นตัว โดยเฉพาะในภาคการส่งออกและตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็ได้รับผลกระทบจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกและกำลังซื้อที่ลดลง ซึ่งต้องมีมาตรการรับมือ รวมถึงนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น  พร้อมทั้งเสนอให้มีนโยบายที่ค้ำประกันระบบการเงิน แก้ไขปัญหาในการลงทุนภาครัฐและสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างของสถานประกอบการ

บ่ายวันเดียวกัน ได้มีการปิดฟอรั่ม โดยประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะได้ชี้ชัดว่า ต้องส่งเสริมการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ การส่งออกตามแนวทางที่ยั่งยืน ใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีที่ได้ลงนาม ปฏิบัติงานด้านการส่งเสริมการค้า การเชื่อมโยงระหว่างอุปสงค์กับอุปทาน พัฒนาสินค้าและตลาดส่งออกให้มีความหลากหลาย.