เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเสร็จสิ้นการเยือนอินโดนีเซียและเดินทางไปเยือนเมียนมาร์
(VOVWORLD) - หลังจากเสร็จสิ้นการเยือนประเทศอินโดนีเซียด้วยผลสำเร็จอย่างงดงาม เช้าวันที่ 24 สิงหาคม ท่าน เหงียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้เดินทางไปเยือนประเทศเมียนมาร์ตามคำเชิญของประธานาธิบดีถิ่นจอ ซึ่งเป็นการเยือนเมียนมาร์ครั้งแรกของเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามในรอบ 20 ปีนับตั้งแต่การเยือนของเลขาธิการใหญ่พรรค โด๋เหมื่อยเมื่อปี 1997 และมีขึ้นในช่วงที่เมียนมาร์กำลังย่างเข้าสู่ยุคใหม่
หลังจากเสร็จสิ้นการเยือนอินโดนีเซีย เลขาธิการใหญ่พรรค เหงียนฟู้จ่อง เดินทางไปเยือนเมียนมาร์ |
การเยือนคือนิมิตรหมายสำคัญที่ช่วยสร้างพลังขับเคลื่อน นำสัมพันธไมตรีที่ยาวนาน ความร่วมมือในหลายด้านระหว่างเวียดนามกับเมียนมาร์พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่
ก่อนเดินทางออกจากกรุงจาการ์ตา ท่าน เหงียนฟู้จ่องได้ส่งโทรเลขขอบคุณประธานาธิบดีอินโดนีเซีย โจโกวีโดโด โดยแสดงความเชื่อมั่นเกี่ยวกับอนาคตที่สดใสของสัมพันธไมตรีและความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ตลอดจนอาเซียนที่สามัคคี มีความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์และเข้มแข็ง ท่าน เหงียนฟู้จ่อง แสดงความประสงค์ว่า ผลการเยือนอินโดนีเซียที่ดีงามครั้งนี้จะมีส่วนร่วมทำให้ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์มีความลึกซึ้งมากขึ้น ผลักดันความไว้วางใจทางการเมือง เสริมสร้างสัมพันธไมตรี ผลักดันความร่วมมือที่จริงจัง สร้างการพัฒนาใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของสองประชาชาติ เพื่อความผาสุกของประชาชนทั้งสองประเทศ สันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาทั้งในระดับภูมิภาคและโลก
ท่าน เหงียนฟู้จ่อง กล่าวปราศรัยในการพบปะ (vietnamplus) |
ก่อนหน้านั้น ในกรอบการเยือนอินโดนีเซีย เมื่อค่ำวันที่ 23 สิงหาคม ณ กรุงจาการ์ตา เลขาธิการใหญ่พรรค เหงียนฟู้จ่อง ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงของหอการค้าและอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย ในการกล่าวปราศรัยต่อผู้ประกอบการและกลุ่มบริษัทของอินโดนีเซีย ท่าน เหงียนฟู้จ่องได้ย้ำว่า ภายหลัง 30 ปีของการเปลี่ยนแปลงใหม่ เศรษฐกิจเวียดนามได้พัฒนาในระดับที่ดี สถานะและบทบาทของเวีดนามได้รับการยกระดับให้สูงขึ้นบนเวทีโลก ปัจจุบัน บรรยากาศการลงทุนและประกอบธุรกิจของเวียดนามได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และยังมีโอกาสลงทุนและศักยภาพการพัฒนาอีกมากมาย “ในฐานะประเทศที่กำลังพัฒนาและกำลังพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัย เวียดนามให้ความสำคัญต่อความร่วมมือ การช่วยเหลือ ประสบการณ์และแหล่งพลังจากภายนอก เน้นดึงดูดเงินลงทุนเอฟดีไอและเงินโอดีเอ และมีความประสงค์ว่า นักลงทุนและสถานประกอบการต่างประเทศ รวมทั้งนักลงทุนอินโดนีเซียจะลงทุนและประกอบธุรกิจในเวียดนาม เวียดนามกำลังพยายามยกเลิกการกีดกันที่ไม่เหมาะสม ผลักดันการปฏิรูประเบียบราชการ อำนวยความสะดวกด้านนิตินัยและโครงสร้างพื้นฐานให้แก่การลงทุนและประกอบธุรกิจของสถานประกอบการต่างประเทศ”
ปัจจุบัน อินโดนีเซียคือหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับที่4 และเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับที่ 5 ของเวียดนามในอาเซียน เวียดนามให้ความสำคัญต่อความสามารถของนักลงทุน สถานประกอบการอินโดนีเซียและเชื่อมั่นต่อศักยภาพที่ดีงามของความร่วมมือลงทุนระหว่างสองประเทศ.