เวียดนามมีความประสงค์ที่จะมีส่วนร่วมที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพให้แก่สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ
(VOVWORLD) - เช้าวันที่ 21 พฤศจิกายน ณ กรุงฮานอย ได้มีการเปิดการประชุมสภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงย่านเอเชียแปซิฟิกหรือAP ครั้งที่ 11 ในหัวข้อ “เอเชีย-แปซิฟิกพร้อมรับมือภัยพิบัติ”
ภาพการประชุม |
มีผู้แทน 350 คนจากสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ สภากาชาดประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ หน่วยงานการทูตและองค์กรระหว่างประเทศเข้าร่วม
ในการนี้ รองนายกรัฐมนตรี เจิ่นลิวกวาง ได้ชี้ชัดว่า การที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนี้ครั้งที่ 2 ได้แสดงให้เห็นถึงการเข้าร่วมที่เข้มแข็ง เป็นฝ่ายรุกและมีความรับผิดชอบของเวียดนามต่อสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ พร้อมทั้งยืนยันว่า พรรค รัฐและประชาชนเวียดนามให้ความสนใจเป็นพิเศษต่องานด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศและมีความประสงค์ว่า จะมีส่วนร่วมที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพที่สุดต่อสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศและย้ำว่า
“รัฐบาลประเทศต่างๆ องค์กรระหว่างประเทศ ภูมิภาคและฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษและจัดสรรแหล่งพลังให้แก่การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมากขึ้น โดยถือเป็นหน้าที่ของทั้งสังคม นอกจากความพยายามป้องกันและแก้ไขผลเสียหายจากสงครามและการปะทะแล้ว กิจกรรมในด้านนี้ควรเน้นป้องกันและรับมือความท้าทายด้านความมั่นคงใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ภัยพิบัติและโรคระบาด ประชาคมระหว่างประเทศควรพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อป้องกันการปะทะ สงคราม การแก้ปัญหาความยากจน การส่งเสริมการพัฒนาอย่างเท่าเทียมกัน ยั่งยืน ครอบคลุม ค้ำประกันไม่ปล่อยให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลังในกระบวนการพัฒนา ซึ่งการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นการแก้ไขต้นเหตุของวิกฤตด้านมนุษยธรรม”
รองนายกรัฐมนตรี เจิ่นลิวกวางกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม |
ส่วนนาง Maha al Barjas รองประธานสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศย่านเอเชียแปซิฟิกได้ชื่นชมเวียดนามที่เป็นสมาชิกที่เข้มแข็งของสหพันธ์ฯ พร้อมทั้งให้คำมั่นว่า จะให้ความร่วมมือกับสภากาชาดเวียดนามต่อไป
ในระหว่างวันที่ 21 – 23 พฤศจิกายน ที่ประชุมจะเน้นหารือถึงวิกฤตในปัจจุบันและอาจเกิดขึ้นในเวลาข้างหน้า ความพร้อมของสหพันธ์ฯและประเทศสมาชิกในภูมิภาค การส่งเสริมบทบาทเป็นผู้นำของสตรีในภูมิภาค.