เกษตรกรเพียงใช้แรงในขั้นตอนการใส่ปุ๋ย ถอนหญ้าและขนส่งข้าวเปลือก

ก่อนที่จะมีการนำเครื่องจักรเข้าใช้ในการทำนา พื้นที่การเกษตรของต.มายดิ่งได้รับการแบ่งเป็นแปลงขนาดเล็กซึ่งสร้างอุปสรรคให้แก่การผลิต พื้นที่นากว่าร้อยละ60ยังต้องใช้วัวควายไถนาและการปลูกข้าวยังคงดำเนินตามรูปแบบเดิม ซึ่งเพื่อช่วยปรับเปลี่ยนวิธีการผลิตเกษตรที่ขาดประสิทธิภาพของเกษตรกร ทางศูนย์ส่งเสริมการเกษตรฮานอยได้ประสานกับทางการต.มายดิ่งทำการรณรงค์ให้เกษตรกรเข้าใจถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการใช้เครื่องจักรแทนแรงงานคนในการผลิต นาย เหงวียนวันบั๊ก เกษตรกรต.มายดิ่งเผยว่า เมื่อก่อนนี้ครอบครัวของเขามีนาข้าว1ไร่แต่อยู่กระจัดกระจายหลายที่ดังนั้นเมื่อถึงฤดูทำนาก็ต้องระดมแรงงานทั้งครอบครัวแถมยังประสบกับอุปสรรค์ด้านการรดน้ำเพราะระดับพื้นที่นาแต่ละแปลงไม่เท่ากันแต่หลังจากที่มีการแนะนำโครงการพัฒนาการผลิตเกษตรที่ทันสมัยด้วยการใช้เครื่องจักรแทนแรงงานคนเขาและชาวบ้านหลายคนก็ให้ความสนใจเข้าร่วมและเห็นพ้องกับการปรับการวางแผนพื้นที่นาใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกในการผลิต นายบั๊กกล่าวว่า “ข้อดีแรกคือลดแรงงานคน เราไม่ต้องขนสายยางเพื่อสูบน้ำเข้านาไกลๆ  ซึ่งประหยัดค่าใช้จ่ายในการสูบน้ำเข้านาได้มากพอสมควร”

นายเลดังมิง รองประธานคณะกรรมการประชาชนต.มายดิ่งเผยว่า เงินทุนสำหรับโครงการพัฒนาการเกษตรตามแนวทางที่ทันสมัยนี้คิดเป็นประมาณ1.5พันล้านด่งรวมถึงการซื้อเครื่องเกี่ยวนวดอเนกประสงค์ เครื่องพรวนดิน เครื่องไถนา เครื่องสูบน้ำ เครื่องพ่นยาฆ่าแมลง เป็นต้น ซึ่งวิธีการนี้ได้สร้างประสิทธิภาพอย่างเด่นชัดเพราะใช้เวลาเพียง30นาทีก็สามารถเสร็จสิ้นทุกขั้นตอนของการปลูกข้าวในนาหนึ่งแปลง ส่วนเมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยวก็สามารถลดค่าใช้จ่ายได้มากถึงร้อยละ60เมื่อเทียบกับการเกี่ยวข้าวแบบเดิม  โดยเกษตรกรเพียงใช้แรงในขั้นตอนการใส่ปุ๋ย ถอนหญ้าและขนส่งข้าวเปลือกไปตากเท่านั้น

หลังจากได้มีการนำเครื่องจักรเข้าช่วยพัฒนาการผลิตคาดว่าเกษตรกรจะใช้ต้นทุนการผลิตเพียงประมาณ3แสนด่งหรือ15เหรียญสหรัฐต่อแปลงซึ่งลดลงถึง1/3เมื่อเทียบกับการทำนาแบบเดิม นอกจากนั้นเกษตรกรของต.มายดิ่งยังจัดตั้งสหกรณ์เพื่อให้บริการเกี่ยวกับปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าเชื้อ การสูบน้ำ เป็นต้นเพื่อตอบสนองความต้องการของเกษตรกร ช่วยให้เกษตรกรมีเวลาเพื่อเข้าร่วมกระบวนการผลิตในด้านอื่นๆ นายเหงวียนวันฉี๊ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการเกษตรฮานอยกล่าวว่า เมื่อมีความเข้าใจและเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของการพัฒนาการผลิตที่ทันสมัยเกษตรกรจึงขานรับอย่างเต็มที่ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่สะดวกเพื่อที่จะสร้างประสิทธิภาพการผลิตและเพิ่มรายได้“เป้าหมายของการพัฒนาชนบทใหม่คือลดแรงงานชนบทให้เหลือเพียงร้อยละ30 ส่วนแรงงานร้อยละ70จะปรับเปลี่ยนไปประกอบอาชีพอื่น ซึ่งรูปแบบใหม่นี้ได้ช่วยแก้ไข3ปัญหาคือ การนำเครื่องจักรมาช่วยพัฒนาการผลิต การเชื่อมโยงเกษตรกรเพื่อปรับเปลี่ยนพื้นที่นา การส่งเสริมบทบาทของการบริการสหกรณ์การเกษตรเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมการผลิต”

จากการลงทุนที่ไม่มากสำหรับโครงการดังกล่าวได้ช่วยประหยัดเวลาและค่าแรงงานคนในการทำนาได้มากพอสมควรในขณะที่ปริมาณการผลิตข้าวเพิ่มขึ้น ซึ่งได้สร้างความปลึ้มปิติยินดีให้แก่เกษตรกรและนี่คือผลประโยชน์ที่ชาวบ้านได้รับจากการเชื่อมโยงการบริการในการผลิตเกษตรเพื่อมุ่งสู่การพัฒนาการปลูกข้าวตามแนวทางที่ทันสมัยในทุกขั้นตอน./.