(VOVWORLD) -ในเวลาที่ผ่านมา เกษตรกรจังหวัดเซินลา ในเขตเขาภาคเหนือเวียดนาม ได้ปรับเปลี่ยนจากการปลูกข้าวโพดและมันสำปะหลังที่ให้รายได้น้อยและผลผลิตต่ำมาเป็นการปลูกกาแฟที่มีมูลค่าสูงและเหมาะกับสภาพภูมิอากาศของท้องถิ่น ซึ่งช่วยสร้างฐานะที่มั่นคงและมีเกษตรกรหลายคนที่กลายเป็นเศรษฐี
กาแฟเป็นพืชหลักของตำบลเจี่ยงชุง อำเภอมายเซิน จังหวัดเซินลา |
นับตั้งแต่การปลูกครั้งแรกเมื่อปี 1990 กาแฟได้กลายเป็นพืชหลักของตำบลเจี่ยงชุง อำเภอมายเซิน จังหวัดเซินลา ซึ่งช่วยให้เกษตรกรชนกลุ่มน้อยในตำบลฯ สามารถหลุดพ้นจากความยากจนและสร้างฐานะที่มั่นคง พร้อมทั้งสร้างงานทำและเพิ่มรายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรในท้องถิ่นอีกด้วย ครอบครัวนาย หล่อวันแห่ เป็นหนึ่งในครอบครัวแรกๆ ของตำบลฯ ที่ได้ปรับเปลี่ยนจากการปลูกข้าวโพดและมันสำปะหลังมาปลูกกาแฟ สามารถสร้างรายได้กว่า 200 ล้านด่งหรือ 9,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปีจากการปลูกกาแฟในพื้นที่ 2 เฮกตาร์ ซึ่งช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นเป็นอย่างมาก
ในช่วงนี้ ที่ตำบลเจี่ยวเกาะ นครเซินลา ชาวบ้านก็กำลังเร่งเก็บเมล็ดกาแฟ นาง แหล่วถิถาว ชาวบ้านหมู่บ้านหุ่น ตำบลเจี่ยงเกาะ กล่าวว่า
“เมื่อก่อน ครอบครัวฉันปลูกข้าวโพดและธัญหารที่ขายได้ในราคาต่ำ และฐานะความเป็นอยู่ก็ลำบากยากจนมาก แต่ตั้งแต่ปี 2000 ที่เราเปลี่ยนมาปลูกกาแฟ ฐานะความเป็นอยู่มั่นคงมากขึ้น ดังนั้น ดิฉันจึงตั้งใจปลูกกาแฟตั้งแต่นั้นมา”
ครอบครัวนาง เหงียนถิเซวียน ก็เป็นหนึ่งในครอบครัวที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานในหมู่บ้านเจี่ยงเอียน ตำบลเจี่ยงเกาะเมื่อปี 2010 หลังการปลูกมันสำปะหลังมาระยะหนึ่ง เธอก็ได้เปลี่ยนมาปลูกกาแฟเพื่อสร้างฐานะ ซึ่งปัจจุบันนี้ ไร่กาแฟรวมพื้นที่กว่า 1 เฮกตาร์ของเธอสามารถสร้างรายได้อย่างมั่นคงที่ประมาณ 4,500-7,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี ช่วยให้ครอบครัวเธอเป็นหนึ่งในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวยในตำบล เธอบอกว่า
“ตอนแรกเราปลูกมันสำปะหลังและข้าวโพดแต่ได้ผลผลิตต่ำ ดังนั้น เราจึงเปลี่ยนมาปลูกกาแฟซึ่งเหมาะกับสภาพอากาศ ให้ผลผลิตสูงและขายได้ราคาดี ซึ่งช่วยให้ฐานะของครอบครัวเรามีความมั่นคงและเด็กๆ ได้ไปโรงเรียน”
สหกรณ์หลายแห่งได้ประยุคต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผลิตกาแฟ |
หลังการขยายผลมาเป็นเวลากว่า 30 ปี ถึงขณะนี้ ทั่วนครเซินลา มีพื้นที่ปลูกกาแฟเกือบ 5,000 เฮกตาร์ มีผลผลิตราว 40,000 ตัน สร้างรายได้กว่า 20.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 46 ของมูลค่าการผลิตเกษตรของท้องถิ่น นาย ห่าจุงเชี้ยน เลขาธิการพรรคสาขาจังหวัดเซินลาเผยว่า กาแฟที่ปลูกในนครฯ ได้รับการจำหน่ายทั้งหมด ปัจจุบัน มีโรงผลิตกาแฟหลายแห่งได้รับใบรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของกาแฟเซินลา เป็นสินค้า OCOP ระดับ 5 และเป็นสินค้าเกษตรที่ได้รับใบรับรองเครื่องหมายการค้าทองแห่งชาติของเวียดนาม
“ควบคู่กับการค้ำประกันคุณภาพของเขตปลูกกาแฟ เราได้ให้ความสนใจถึงรูปแบบการเชื่อมโยงระหว่างสถานประกอบการ สนับสนุนให้ครอบครัวเกษตรกรเข้าร่วมสหกรณ์ต่างๆ เพื่อสามารถควบคุมขั้นตอนการผลิตกาแฟได้อย่างเข้มงวด ช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพดีที่สุดตามความต้องการของลูกค้าทั้งภายในและต่างประเทศ”
จากปริมาณผลผลิตที่มากและขายได้ราคาสูง คาดว่า ปีนี้ การขายผลผลิตกาแฟจะช่วยให้เกษตรกรในจังหวัดเซินลามีกำไรมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจต่อการปลูกกาแฟ และช่วยให้เกษตรกรที่เป็นชนกลุ่มน้อยในเขตเขาที่ห่างไกลความเจริญของภาคเหนือเวียดนามสามารถสร้างฐานะที่มั่นคง กลายเป็นเศรษฐีหน้าใหม่และมีส่วนร่วมเปลี่ยนแปลงโฉมใหม่ของจังหวัด.