สหกรณ์ให้บริการทั่วไปต๊วนตู๊ซื้อหน่อไม้ฝรั่งของเกษตรกร (qdnd.vn)

เมื่อปี 2010 ตำบลอานหายได้เริ่มทดลองปลูกหน่อไม้ฝรั่งในพื้นที่ 1 เฮกตาร์ และถึงขณะนี้ ได้มีการปลูกในพื้นที่กว่า 110 เฮกตาร์ โดยกว่าครึ่งหนึ่งเป็นของสหกรณ์ให้บริการทั่วไปต๊วนตู๊ในหมู่บ้านต๊วนตู๊ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหน่อไม้ฝรั่งพันธุ์เนเธอร์แลนด์ที่ให้ผลผลิตสูงและมีคุณภาพดี  แต่ละเฮกตาร์ สามารถเก็บหน่อไม้ฝรั่งได้ 5-7 กิโลกรัมต่อวัน ขายในราคา 5 หมื่นด่งต่อกิโลกรัม ได้กำไรตั้งแต่ 300-400 ล้านด่งต่อปีต่อเฮกตาร์ นาย หุงกี ผู้อำนวยการของสหกรณ์ให้บริการทั่วไปต๊วนตู๊ เป็นหนึ่งในตัวของผู้ที่ประสบความสำเร็จในการปลูกหน่อไม้ฝรั่งของหมู่บ้านที่สามารถหลุดพ้นจากความยากจนและกลายเป็นเศรษฐี ได้เผยว่า

“เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2016 ท่าน เหงียนซวนฟุ๊ก ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้มาเยี่ยมครอบครัวของผมและชื่นชมการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง ที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถสร้างฐานะที่มั่นคง ถ้าหากเราปลูกในพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร เราจะได้กำไร 500,000 ด่งต่อวัน ถ้าปลูก 1 เฮกตาร์จะมีรายได้ประมาณ 1 พันล้านด่งต่อปี หน่อไม้ฝรั่งสามารถปลูกและเก็บผลผลิตได้เรื่อย ๆ โดยหนึ่งปีสามารถปลูกได้ 9 เดือน ทางสหกรณ์ของเราได้ร่วมมือกับสถานประกอบการอื่นๆ เพื่อดูแลการจำหน่ายในตลาดให้แก่เกษตรกรในท้องถิ่น”

ปัจจุบันนี้ หน่อไม้ฝรั่งกำลังได้รับความนิยมจากตลาด ขายได้ในราคาสูง การปลูกไม่ต้องดูแลมากและสามารถเก็บผลผลิตได้ตลอดเกือบทั้งปี ซึ่งรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจนี้ได้สร้างความเชื่อมโยงอย่างยั่งยืนในด้านประโยชน์ระหว่างเกษตรกรกับสหกรณ์ฯ และระหว่างสหกรณ์ฯ กับสถานประกอบการที่จำหน่ายหน่อไม้ฝรั่ง  นาย หนาววันไซ เกษตรกรตำบลอานหาย สมาชิกของสหกรณ์ กล่าวว่า

“ถ้าหากเกษตรกไม่มีเงินทุน ทางสหกรณ์ฯจะมอบพันธุ์หน่อไม้ฝรั่งให้ มีการจัดกิจกรรมสนทนาและพาเกษตรกรที่มีประสบการณ์ไปช่วยถ่ายทอดประสบการณ์ในการผลิต ดังนั้น เกษตรกรหลายคนจึงพยายามปลูกหน่อไม้ฝรั่งเพื่อสร้างฐานะ ซึ่งช่วยให้เกษตรกรร้อยละ 80 ในหมู่บ้านต๊วนตู๊ของเราสามารถหลุดพ้นจากความยากจน”

เนื่องจากเป็นพืชที่ขายได้กำไรดี ทางการตำบลอาหายได้ส่งเสริมให้เกษตรกรขยายพื้นที่ปลูกและมีการกำหนดแนวทางการพัฒนาอย่างรอบคอบและเป็นไปตามหลักวิชาการ ทั้งในด้านกลไกและนโยบายให้เงินกู้เพื่ออำนวยความสะดวกให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างรวดเร็ว ประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีที่ทันสมัย เชื่อมโยงการผลิตและการจำหน่าย นาย โห่แทงฟอง รองประธานคณะกรรมการประชาชนตำบลอานหายเผยว่า

“เกษตรกรไม่สามารถปลูกหน่อไม้ฝรั่งได้เพียงลำพังเพราะต้องเชื่อมโยงตามรูปแบบห่วงโซ่มูลค่า เพื่อบรรลุมาตรฐาน VietGap และมุ่งสู่แนวทางการผลิตแบบออร์แกนิก ในตำบลอานหาย มีสหกรณ์ 1 แห่งและมีกลุ่มรับซื้อ ทางการท้องถิ่นได้สนับสนุนพันธุ์พืชส่วนหนึ่ง เปิดการฝึกอบรมวิธีการปลูก และมอบใบรับรองมาตรฐาน VietGap ให้แก่เกษตรกร ปัจจุบันนี้ การผลิตและการขายหน่อไม้ฝรั่งในตำบลฯ มีเสถียรภาพ ซึ่งมีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในท้องถิ่นและเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร”

นับตั้งแต่ปลูกหน่อไม้ฝรั่ง ชีวิตความเป็นอยู่ของชนกลุ่มน้อยเผ่าจามในตำบลอาหายนับวันดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและช่วยพัฒนาโฉมหน้าของเขตชนบท ส่วนในเวลาข้างหน้า ชาวบ้านในตำบลอาหายจะพยายามพัฒนาเขตที่ปลูกหน่อไม้ฝรั่งเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคภายในประเทศและมุ่งสู่การส่งออก.