“ พ่อแม่ได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประธานโฮจิมินห์ให้ผมฟัง ซึ่งผมรู้สึกประทับใจมากที่ท่านได้นำพาประชาชนเวียดนามหลุดพ้นจากการเป็นทาส นำประเทศผ่านสงครามที่ดุเดือดเพื่อช่วงชิงเอกราช”

“หนูรักประธานโฮจิมินห์ ท่านเป็นคนใจดี รักประเทศเวียดนามและคนเวียดนามเป็นอย่างมาก”

“สิ่งที่ได้เรียนรู้มีสองอย่าง อันแรกก็คือรู้สึกว่า ให้เราเชื่อมั่นในสิ่งที่เราเชื่อ แล้วเราก็ลงมือทำ อันที่สองก็เห็นลุงโฮทำงานหนัก แล้วก็เหมือนประสบความสำเร็จ เราก็รู้สึกว่า เราอยากจะทุ่มเทเวลาเรียนหรือว่าเวลาทำให้ออกมาดี”

ในชีวิตการปฏิวัติ ประธานโฮจิมินห์ได้ออกเดินทางแสวงหาหนทางกู้ชาติทั่วโลก โดยท่านได้อาศัยอยู่ที่จังหวัดต่างๆของไทย รวมทั้งอุดรธานีและได้ใช้ชื่อว่าเฒ่าจิ๋นในระหว่างเดือนกรกฎาคมปี 1928 ถึงปลายปี 1929 ดังนั้น คนไทยเชื้อสายเวียดนามในอุดรธานีรุ่นใหม่จึงระลึกถึงประธานโฮจิมินห์ด้วยความรักและความเคารพยิ่ง ถึงแม้พูดภาษาเวียดนามไม่ชัด แต่คุณ เจิ่นเวียดท้าย อายุ 24 ปี ก็มีความหลงใหลประวัติศาสตร์เวียดนาม โดยเฉพาะเรื่องเล่าเกี่ยวกับประธานโฮจิมินห์ในช่วงเวลาที่เคลื่อนไหวปฏิวัติในประเทศไทย เขาบอกว่า ทุกๆปี เมื่อถึงวันคล้ายวันเกิดของประธานโฮจิมินห์ พ่อแม่และปู่ย่าตายายมักจะพาไปเยือนอนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์เพื่อจุดธูปสัการะประธานโฮจิมินห์และศึกษาเกียรติประวัติจากเรื่องเล่าเก่าๆเกี่ยวกับส่วนอุทิศ คุณธรรม ความเมตตาและความรักคนเวียดนามของประธานโฮจิมินห์            “ชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศไทยรักลุงโฮมาก ตอนเป็นเด็ก พ่อแม่ได้เล่าเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับท่านให้ผมฟัง แม้ชีวิตความเป็นอยู่ลำบากมาก แต่ลุงโฮยังคงมุ่งมั่นในอุดมการณ์ปฏิวัติเพื่อช่วงชิงเอกราชมาให้แก่ประชาชนเวียดนาม”

ไปจุดธูปสักระประธานโฮจิมินห์

ก็เหมือนกับคนเวียดนามที่อาศัยในประเทศไทย ทุกๆปี ถึงวันคล้ายวันเกิดของประธานโฮจิมินห์ ชุมชนชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศลาวก็จะชุมนุมกันเพื่อจุดธูปรำลึกถึงประธานโฮจิมินห์และพูดคุยเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ยากลำบากแต่รุ่งโรจน์ของประชาชาติเวียดนาม นอกจากนี้ สมาคมชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศลาวยังร่วมมือกับสถานทูตเวียดนามประจำประเทศลาวจัดกิจกรรมที่น่าสนใจต่างๆเพื่อรำลึกถึงประธานโฮจิมินห์ เช่น จัดขบวนการศึกษาและปฏิบัติตามแบบอย่างคุณธรรมของประธานโฮจิมินห์ การประกวดความรู้เกี่ยวกับประธานโฮจิมินห์และประเทศเวียดนาม เป็นต้น เพื่อให้การศึกษาเกียรติประวัติแก่คนรุ่นหลังและประชาสัมพันธ์ให้คนลาวรับทราบ นางสาว เหงียนหงอกมาย ชาวลาวเชื้อสายเวียดนามแสดงความคิดเห็นว่า เธอเกิดและเติบโตในประเทศลาว ตอนเป็นเด็กเมื่อเริ่มฝึกพูด ก็พูดได้สองคำคือ “พ่อแม่” และ “ลุงโฮ”            “ตอนเป็นเด็ก แม่มักจะเล่าเรื่องต่างๆเกี่ยวกับลุงโฮให้หนูฟัง ตอนกลับเวียดนาม หนูได้มีโอกาสไปเยือนบ้านเกิดของประธานโฮจิมินห์ เห็นกระท่อมและสิ่งของที่เรียบง่ายที่เป็นบ้านเกิดของวีรชนแห่งประชาชาติ หนูรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากและได้เรียนรู้หลายอย่างจากประธานโฮจิมินห์”

นางสาว เหงียนหงอกมาย

สำหรับคนเวียดนามรุ่นใหม่ที่อาศัยในทวีปยุโรปและอเมริกา แม้มีโอกาสศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับประธานโฮจิมินห์น้อยกว่าเพื่อนๆในทวีปอื่นๆแต่ก็สามารถจินตนาการเกี่ยวกับประธานโฮจิมินห์ผ่านเรื่องราวต่างๆและเพลงกล่อมเด็กที่ได้ฟังจากพ่อแม่ การเข้าร่วมค่ายฤดูร้อนในเวียดนามก็ถือเป็นโอกาสดีให้พวกเขาได้ศึกษาด้วยตาตนเองเกี่ยวกับประธานโฮจิมินห์ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประชาชาติผ่านการเยือนโบราณสถานและสถานีที่ท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งทำให้รู้สึกภูมิใจมากขึ้น คุณ บุ่ยหว่างทั้ง อายุ 20 ปี จากประเทศแคนาดาและนางสาว เจิ่นเฟืองแอง อายุ 21 ปีจากยูเครนกล่าวว่า           

“ตอนเป็นเด็ก ผมได้ฟังเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับประธานโฮจิมินห์ โดยเฉพาะเรื่องที่ท่านได้เดินทางไปยังประเทศรัสเซียเพื่อพบเลนิน ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ ถึงแม้ช่วงนั้นอากาศหนาวจัดหิมะตกหนักแต่ประธานโฮจิมินห์ยังคงพยายามไปยังสุสานของเลนินเพื่อวางดอกกุหลาบ ผมได้เรียนรู้จากแบบอย่างคุณธรรมของประธานโฮจิมินห์ว่า ท่านมีชีวิตที่เรียบง่ายและทำอะไรก็ต้อง พยายามอย่างสุดความสามารถ แม้หลายอย่างจะยากมากแต่ผมจะพยายามปฏิบัติตาม”

            “ลุงโฮเป็นคนที่เยี่ยมมาก ท่านสามารถพูดได้หลายภาษา หนูอยากเรียนให้เก่งแล้วจะกลับไป ทำงานที่ประเทศเวียดนามเพื่อมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ประเทศเวียดนามให้เจริญรุ่งเรืองมากขึ้น”

คุณ บุ่ยหว่างทั้ง

จากการมีเงื่อนไขสะดวกต่างๆ เช่น ได้อาศัยอยู่ในประเทศพัฒนา สามารถถึงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย บวกกับความคล่องตัวและความคิดสร้างสรรค์ เยาวชนและนักศึกษาเวียดนามที่อาศัยในประเทศต่างๆทั่วโลกจะเป็นผู้ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ วัฒนธรรมและคนเวียดนามต่อเพื่อนมิตรในทั่วโลก พร้อมทั้งเป็นสะพานเชื่อมแห่งมิตรภาพและความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับประเทศต่างๆ ซึ่งจะมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ประเทศเวียดนามให้นับวันพัฒนา สวยงามและเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น.