พบปะกับผู้ที่ได้รับรางวัลในการประกวด

ในโอกาสฉลองครบรอบ 60 ปีการเยือนประเทศอินโดนีเซียของประธานโฮจิมินห์และการเยือนประเทศเวียดนามของประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ซูการ์โน สถานีวิทยุเวียดนามได้ประสานงานกับสถานทูตเวียดนามประจำอินโดนีเซียและสถานทูตอินโดนีเซียประจำเวียดนามจัดการประกวดความรู้เกี่ยวกับการเยือนของประธานโฮจิมินห์และประธานาธิบดี ซูการ์โน โดยได้รับบทความที่ส่งเข้าร่วมกว่า 400 บทจากชาวเวียดนามและอินโดนีเซียทุกเพศทุกวัย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจเป็นพิเศษของประชาชนต่อการธำรงรักษาและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นมากขึ้น คุณ ตื่อแทงฟอง จากนครดานัง ผู้ที่ได้รับรางวัลที่ 1 ในการประกวด ซึ่งมีโอกาสไปเยือนประเทศอินโดนีเซียเป็นเวลา 5 วันรู้สึกโชคดีเป็นอย่างมากที่ได้มีโอกาสไปเยือนและศึกษาค้นคว้าประเทศอินโดนีเซีย         “ในวันปีใหม่ประเพณี ผมได้มีโอกาสไปเยือนประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่ามาก ทางคณะกรรมการจัดงานได้จัดให้ผมไปเที่ยวสถานที่ที่ประธานโฮจิมินห์ได้แวะเยือนในขณะที่ท่านไปเยือนประเทศอินโดนีเซียเมื่อ 60 ปีก่อน รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงของอินโดนีเซีย ผมได้มีโอกาสพบปะและศึกษาค้นคว้าเพื่อเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเทศอินโดนีเซียมากขึ้น โดยเฉพาะความคล้ายคลึงกันในด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศที่ผมเคยศึกษาค้นคว้าผ่านหนังสือและสื่อต่างๆ การเยือนครั้งนี้ได้ช่วยให้ผมเข้าใจว่า ทำไมเวียดนามและอินโดนีเซียเป็นมิตรที่ซื่อสัตย์ ประธานโฮจิมินห์และประธานาธิบดี สุการ์โนเป็นมิตรสนิท ซึ่งได้สามัคคีกันในการต่อสู้ของประชาชาติ แม้เริ่มรักประเทศอินโดนีเซียแต่ผมก็จะศึกษาค้นคว้าเพื่อมีส่วนร่วมธำรงและขยายความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองประเทศ”

โอกาสนี้ สถานีวิทยุเวียดนามได้จัดการพบปะสังสรรค์ระหว่างผู้ที่ได้รับรางวัลการประกวดครั้งนี้ทั้งชาวเวียดนามและอินโดนีเซีย ณ กรุงจาการ์ตาเพื่อแสดงความคิดเห็นต่อการเยือนครั้งประวัติศาสตร์ของผู้นำทั้งสองท่านและความสัมพันธ์พิเศษระหว่างสองประเทศ โดยคุณ Sunu Budihardjo จากกรุงจาการ์ตา ผู้ที่ได้รับรางวัลที่ 3 มีความประทับใจมากต่อแบบอย่างคุณธรรมของประธานโฮจิมินห์            “เมื่อทราบว่า สถานีวิทยุเวียดนามเปิดการประกวดดังกล่าว ดิฉันได้หาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ซึ่งก็พบความคล้ายคลึงกันระหว่างประธานโฮจิมินห์กับประธานาธิบดี ซูการ์โน นั่นคือแนวคิดที่เป็นมนุษยธรรมของนักปลดปล่อยประชาชาติสองท่าน ประธานโฮจิมินห์เป็นคนที่เรียบง่าย ส่วนประธานาธิบดี ซูการ์โน ก็เรียบง่ายเช่นกัน ดิฉันมีความยินดีเป็นอย่างมากที่ได้มีโอกาสเจอผู้ที่ได้รับวัลคนเวียดนาม ณ ประเทศอินโดนีเซีย”

ในสภาวการณ์ที่ทั้งสองประเทศกำลังเตรียมความพร้อมให้แก่การฉลองครบรอบ 65 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2020 นี้ บทความต่างๆของผู้เข้าร่วมการประกวดได้สะท้อนให้เห็นว่า ไมตรีจิตมิตรภาพระหว่างประธานโฮจิมินห์กับประธานาธิบดี ซูการ์โน ยังคงฝังลึกในความทรงจำของประชาชนทั้งสองประเทศและจะคงอยู่ตลอดกาล นาย Lin Tjin ประธานสโมสรผู้ฟังวิทยุ ณ เกาะชวา ซึ่งเป็นสโมสรที่มีแฟนพันธุ์แท้ของสถานีวิทยุเวียดนามนับพันคนแสดงความคิดเห็นว่า            “ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมการพบปะสังสรรค์นี้ นี่คือผลของความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างสองประเทศที่ประธานโฮจิมินห์และประธานาธิบดี ซูการ์โน วางรากฐานเมื่อ 60 ปีก่อน ขอขอบคุณสถานีวิทยุเวียดนามที่ได้เป็นสะพานเชื่อมระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ ความสัมพันธ์มิตรภาพนี้ต้องได้รับการทำนุบำรุงต่อไปและมุ่งสู่อนาคตที่ยิ่งสามัคคีและใกล้ชิดมากขึ้นในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ การเมืองและชีวิตสังคม”

อาจกล่าวได้ว่า ความเป็นมิตรสนิทระหว่างประธานโฮจิมินห์กับประธานาธิบดี ซูการ์โนได้ผ่านหลักการธรรมดาของการทูต ซึ่งเป็นพื้นฐานให้แก่การขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในวันนี้ โดยเฉพาะในด้านการทูตระดับประชาชน.