(VOVworld) – อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีผู้นับถือศาสนาอิสลามมากที่สุดในโลก ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกใจที่อินโดนีเซียจะมีมัสยิดกว่า 6 แสนแห่ง ซึ่งในนั้นมีมัสยิดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือ อิสติกลัล ที่ในภาษาอาหรับมีความหมายว่า “เอกราช” ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางกรุงจาการ์ตาและถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวท้องถิ่น จากความหมายที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยากรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ มัสยิด อิสติกลัล ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของชาวมุสลิมอินโดนีเซียเท่านั้น หากยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมีโอกาสมาเยือนอินโดนีเซียอีกด้วย

เวลาตี 4 เสียงสวดมนต์ได้ถูกเปิดผ่านลำโพงทั่วทุกซอกซอยเหมือนเป็นนาฬิกาปลุกชาวกรุงจาการ์ตา นี่ก็เป็นช่วงที่มัสยิด อิสติกลัล เปิดต้อนรับชาวมุสลิมเข้าไปทำพิธีสวดมนต์รอบแรกของวัน เมื่อมองจากไกลๆในช่วงรุ่งสางจะเห็นหลังคาโคมน้อยใหญ่ของมัสยิดสีเหลืองอร่ามกลางกรุงจาการ์ตา ชาวมุสลิมกว่า 100 คนโดยผู้ชายใส่หมวก ซอเกาะก์ สีดำ ส่วนผู้หญิงใส่ชุด Mukena ที่มิดชิดได้มืนอยู่ในมัสยิด อิสติกลัล เรียบร้อย วันนี้เป็นวันเสาร์ นาง Citra Darmatitisar พร้อมสามีและลูกชาย ที่อาศัยในเขตกรุงจาการ์ตาตอนใต้ ได้ตื่นแต่เช้ามืดเพื่อเข้าร่วมพิธีสวดมนต์รอบแรกของวัน ณ มัสยิดนี้ ตามข้อปฏิบัติ ครอบครัวของนาง Citra ต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าไปมัสยิด และล้างมือก่อนเข้าร่วมพิธีสวดมนต์ “ทุกวัน ดิฉันไปมัสยิดเล็กๆใกล้บ้าน แต่ในวันหยุดสุดสัปดาห์ เมื่อมีเวลาว่าง ดิฉันและครอบครัวมักจะไปมัสยิด อิสติกลัล ดิฉันอยากสวดมนต์ในบรรยากาศที่เคร่งขรึมและกว้างใหญ่ของมัสยิด อิสติกลัล ได้พบปะกับชาวมุสลิมคนอื่น เพื่อช่วยให้ลูกชายมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม ดิฉันรู้สึกมีความภาคภูมิใจที่เป็นชาวมุสลิม”

ลานหลักของมัสยิด อิสติกลัล สามารถรองรับชาวมุสลิมได้กว่า 2 แสนคน หลังคาถูกออกแบบเป็นโคมขนาดใหญ่และตกแต่งด้วยรูปจนทร์เสี้ยวและดาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาอิสลาม บริเวณโดยรอบแกะสลักตัวอักษรด้วยเหล็ก หลังคาโคมมีเสา 12 ต้นรับน้ำหนัก ซึ่งเป็นตัวเลขวันเกิดของศาสดา มูฮัมหมัด ซึ่งการออกแบบนี้ช่วยให้เสียงอ่านบทสวดมนต์ดังกังวาล
ถ้าหากนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนมัสยิด อิสติกลัลและมีไกด์ไปด้วย นักท่องเที่ยวสามารถชมพิธีสวดมนต์จากระเบียงชั้นบน นาย Agung Setiawan ไกด์ท้องถิ่นกำลังแนะนำเกี่ยวกับมัสยิดนี้และให้คณะนักท่องเที่ยวฟังบนชั้นสองว่า “มัสยิดนี้มี 5 ชั้น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ให้แก่หลักการ 5 ข้อของชาวมุสลิมคือ มีความเชื่อต่อศาสดา สวดมนต์วันละ 5 ครั้ง มีความเมตตาอารี ปฏิบัตตามเดือนเราะมะฎอนและมีสติ และสุดท้ายคือไปแสวงบุญยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ มัสยิด อิสติกลัล ก่อสร้างในพื้นที่ 9.32 เฮกตาร์เมื่อปี 1951 แต่เนื่องจากวิตกฤตเศรษฐกิจและการเมืองภายในประเทศ จึงก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 1978 การก่อสร้างมัสยิดนี้แสดงให้เห็นถึงความเคารพและความกตัญญูรู้คุณต่อชาวมุสลิมที่ได้เสียสละเลือดเนื้อเพื่อ ช่วงชิงเอกราชให้แก่ประเทศอินโดนีเซีย มัสยิดนี้ถูกออกแบบโดยสถาปนิกชาวคาทอลิก”

ภายในมัสยิด(internet)

ถึงแม้สถาปนิก Frederich Silaba เป็นชาวคาทอลิก แต่การออกแบบของเขายังคงเป็นไปตามเอกลักษณ์ของมัสยิดชาวมุสลิม โดยภายในมัสยิดมีหอสูงเพื่อประกาศให้ชาวมุสลิมเข้ามาสวดมนต์และผู้แสวงบุญ จะเดินตามหอสูงนี้เพื่อไปยังมัสยิดได้ หอสูงนี้ก่อสร้างในทิศตะวันตกของลานหลัก มีความสูง 6,666 เซนติเมตร ซึ่งเป็นตัวเลขสัญลักษณ์แทนจำนวนประโยคในคัมภีร์อัล-กุรอาน
ทุกวัน มัสยิดต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ 500-1000 คน การเข้าไปในมัสยิดจะต้องใส่ชุดสุภาพ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนมัสยิดเหล่านี้ต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ดั่งเช่น คุณ Cansu Kaba นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่ไม่ใช่เป็นชาวมุสลิม หรือนาย Hadi ชาวมุสลิมจากอินเดียที่เดินทางมาเยือนมัสยิดนี้เป็นครั้งแรก“ดิฉันได้ระบุมัสยิดนี้ในรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเดินทางไปเที่ยว และมัสยิด อิสติกลัลเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแรกที่ดิฉันเดินทางไปเยือนในกรุงจาการ์ตา ดิฉันให้ความสนใจถึงสถาปัตยากรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของมัสยิด และได้เห็นชาวมุสลิมทำพิธี อีกทั้งการแนะนำของไกด์ได้ช่วยให้ดิฉันมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม”
“น่าประทับใจมาก เมื่อมีโอกาสเข้าร่วมพิธีสวดมนต์ที่มัสยิดที่ยิ่งใหญ่นี้ในใจกลางกรุงจาการ์ตา ผมรู้สึกตื้นตันใจและโชคดีมาก”

ชาวมุสลิมอินโดนีเซียหลั่งไหลพากันไปยังมัสยิด อิสติกลัล เพื่อสวดมนต์(internet)

ชาวอินโดนีเซียกว่าร้อยละ 86 นับถือศาสนาอิสลาม โดยทุกวัน ชาวมุสลิมสวดมนต์ในเวลา 04.30 น. เวลาตอนเที่ยง  15.30 น. 6 โมงเย็น และ 19.00 น.  โดยเฉพาะในวันงานใหญ่ๆ ชาวมุสลิมอินโดนีเซียหลั่งไหลพากันไปยังมัสยิด อิสติกลัล เพื่อสวดมนต์ ถ้ามีโอกาสเดินทางไปเยือนอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเดินทางไปเยือนมัสยิดนี้นะคะ.