เวียดนาม-ไทย: ผลักดันความร่วมมือเพื่อร่วมกันพัฒนา
Ha Ngoc/VOV5 -  
(VOVworld) – เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมปี 1976 เวียดนามและไทยได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นให้แก่การพัฒนาความสัมพัทธ์ทวิภาคี นำความสัมพันธ์ระหว่างสองประชาชาติมีความใกล้ชิดมากขึ้น ในตลอดกว่า 40 ปีที่ผ่านมา ประชาชนทั้งสองประเทศได้เล็งเห็นถึงการพัฒนาของความสัมพันธ์ทวิภาคีที่เข้มแข็งในหลายด้านทั้งการเมือง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน วัฒนธรรม สังคม จนไปถึง กลาโหม-ความมั่นคง การศึกษาและฝึกอบรม
(VOVworld) – เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมปี 1976 เวียดนามและไทยได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นให้แก่การพัฒนาความสัมพัทธ์ทวิภาคี นำความสัมพันธ์ระหว่างสองประชาชาติมีความใกล้ชิดมากขึ้น ในตลอดกว่า 40 ปีที่ผ่านมา ประชาชนทั้งสองประเทศได้เล็งเห็นถึงการพัฒนาของความสัมพันธ์ทวิภาคีที่เข้มแข็งในหลายด้านทั้งการเมือง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน วัฒนธรรม สังคม จนไปถึง กลาโหม-ความมั่นคง การศึกษาและฝึกอบรม
นาย หวูห่งนาม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม
|
เวียดนามและไทยมีความคล้ายคลึงกันในด้านวัฒนธรรมและมีความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์ ซึ่งถือเป็นความได้เปรียบเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาการค้าทวิภาคี โดยเมื่อ 20 ปีก่อน มูลค่าการค้าต่างตอบแทนบรรลุ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีเท่านั้น แต่ปัจจุบันได้บรรลุ 1 หมื่น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี และพยายามบรรลุ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2020 นอกจากนี้ ชาวเวียดนามยังนิยมซื้อสินค้าไทย เช่น รองเท้า ผลไม้และเครื่องใช้ในครัวเรือน เป็นต้น ส่วนชาวไทยก็ชื่นชอบกาแฟและชาของเวียดนาม เป็นต้น นาย หวูห่งนาม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามและหัวหน้าคณะกรรมการแห่งชาติเกี่ยวกับชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศได้เผยว่า เวียดนามกำลังเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนที่ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการไทย รวมทั้งโครงการใหญ่ๆ ปัจจุบัน ไทยอยู่อันดับที่ 10 ของประเทศและดินแดนที่ลงทุนในเวียดนามมากที่สุดโดยมีเกือบ 500 โครงการ รวมยอดเงินลงทุนเกือบ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ “ปัจจุบัน เวียดนามเป็นลูกค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของไทยในอาเซียน ส่วนไทยเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนามในอาเซียน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการแลกเปลี่ยนการค้าที่คึกคักระหว่างสองประเทศ ทั้งสองประเทศยังมีหลายด้านที่สามารถสนับสนุนกัน นอกจากนั้น นโยบายของเวียดนามและไทยมีความโปร่งใสมาก ในการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วม 3 ครั้ง รัฐบาลของทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงมาตรการลดการกีดกันทางการค้า”
ความคล้ายคลึงกันด้านวัฒนธรรมและสังคมคือพื้นฐานที่สะดวกเพื่อให้ทั้งสองประเทศผลักดันการสร้างสรรค์ความสัมพันธ์การแลกเปลี่ยนระดับประชาชน ปัจจุบัน เวียดนามคือหนึ่งในประเทศที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวประเทศไทยมากที่สุด แต่ทั้งสองประเทศยังคงมีปัญหาที่ยังคั่งค้างเช่นปัญหาแรงงานเวียดนามในประเทศไทยและปัญหาเรือประมงรุกล้ำเขตทะเลของกัน ดังนั้น รัฐบาลของทั้งสองประเทศได้หารือเพื่อแสวงหามาตรการประสานงานเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ร่วมมือ รัฐมนตรีช่วย หวูห่งนาม ได้เผยว่า“ทั้งสองประเทศได้หารือและลงนามข้อตกลงร่วมมือทวิภาคี MOU เกี่ยวกับความร่วมมือด้านแรงงาน พวกเราได้พยายามเพื่อให้แรงงานเวียดนามผิดกฎหมายในไทยได้ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างดาวตามกฎหมายไทย 2คือปัญหาที่ชาวประมงของทั้งสองประเทศรุกล้ำเขตทะเลของกัน ฝ่ายเวียดนามได้หารือกับไทยหลายครั้งเพื่อแสวงหากลไกจัดตั้งโทรศัพท์สายด่วนเมื่อชาวประมงของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดรุกล้ำเขตทะเลของอีกฝ่าย เพื่อสามารถติดต่อกันโดยตรงแก้ปัญหา”
งานแสดงสินค้าไทยในเวียดนามเป็นโอกาสเพื่อให้สินค้าไทยเจาะตลาดเวียดนาม
|
สำหรับความสัมพันธ์ในกรอบอาเซียนและภูมิภาค ในหลายปีที่ผ่านมา เวียดนามและไทยได้ปฏิบัตินโยบายต่างๆเพื่อรักษาบรรยากาศสันติภาพในทะเลตะวันออก ตลอดจนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามการประเมินของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หวูห่งนาม ถึงแม้ไม่ใช่ประเทศที่เกี่ยวข้องโดยตรงถึงปัญหาทะเลตะวันออก แต่ประเทศไทยยังคงมีความกระตือรือร้นและมีบทบาทสำคัญในฟอรั่มต่างๆเกี่ยวกับปัญหาทะเลตะวันออก“ในช่วงปี 2012-2015 เมื่อประเทศไทยเป็นผู้ประสานงานความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับจีน ไทยได้สร้างก้าวเดินและความใกล้ชิดในการแสวงหาความเข้าใจร่วมระหว่างอาเซียนกับจีนในการจัดทำซีโอซี อาจกล่าวได้ว่า การทูตที่คล่องตัวและมีความคิดสร้างสรรค์ และการเป็นฝ่ายรุกในการร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อแสวงหามาตรการแก้ไขปัญหาทะเลตะวันออก ไทยได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญในการแสวงหามาตรการที่ยั่งยืนและยาวนานให้แก่ปัญหาทะเลตะวันออก”
อาจกล่าวได้ว่า ผลสำเร็จที่ได้บรรลุในตลอดกว่า 40 ปีที่ผ่านมาได้สร้างพื้นฐานที่มั่นคงให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับไทยให้พัฒนาดีงามมากขึ้น ด้วยความเข้าใจและความไว้วางใจกัน ความต้องการร่วมมือเพื่อร่วมกันพัฒนา ตลอดจนศักยภาพการพัฒนาของแต่ละประเทศ ความสัมพันธ์เวียดนาม-ไทยจะมีพลังขับเคลื่อนใหม่เพื่อพัฒนาในทุกด้านและยั่งยืนมากขึ้นในอนาคต เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ มีส่วนร่วมต่อสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาที่เจริญรุ่งเรืองในเอเชียและโลก.
Ha Ngoc/VOV5