Thu Hằng-VOV5 -  
(VOVWORLD) - ในประวัติศาสตร์การสร้างชาติและรักษาชาติของชาวเวียดนาม ทังลอง-ฮานอย นครหลวงของประเทศเวียดนามถือเป็นศูนย์รวมแห่งคุณค่าและเกียรติประวัติที่งดงามที่สุดของประชาชาติเวียดนาม โดยประกาศเกียรติคุณ "นครแห่งสันติภาพ" ที่องค์การยูเนสโก้ได้มอบให้แก่ฮานอยเมื่อวันที่16กรกฏาคมปี1999 ณ ลาปาซ เมืองหลวงของประเทศโบลิเวียนั้นถือเป็นการรับรองและยกย่องเชิดชูคุณค่าของเกียรติประวัติ-วัฒนธรรม ผลสำเร็จของภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่และความปรารถนาแห่งสันติภาพของชาวเวียดนาม
กำแพงเมืองเก่าในฮานอย |
นับตั้งแต่ได้รับการสถาปนาเป็นนครหลวงของเวียดนาม กรุงทังลอง-ฮานอยได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่แจ่มจรัสแห่งความวีรอาจหาญในการต่อสู้กับศัตรูผู้รุกราน ความเป็นเอกภาพและกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ ศ.และครูประชาชนเหงวียนยางหงอกได้กล่าวย้ำว่า"มีนครไม่กี่แห่งในโลกที่ต้องทนรับความปวดร้าวของสงครามอย่างมากมายหนักหน่วงเหมือนฮานอยดังนั้นเมืองหลวงของเราถือเป็นสัญลักษณ์ของความปรารถนาแห่งสันติภาพ ความปรารถนาอันแรงกล้าในการสร้างสรรค์นครแห่งสันติภาพอย่างสมบูรณ์ตรงตามความหมายของคำว่าสันติภาพ"
ด้วยสถานะเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจวัฒนธรรมของประเทศ ทังลอง-ฮานอยคือศูนย์รวมของภูมิปัญญาที่ดีเลิศจากทั่วทุกสารทิศและฮานอยสามารถระดมศักยภาพแห่งภูมิปัญญาเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างก้าวกระโดดเพื่อกลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การศึกษาและวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีของประเทศ ยืนยันบทบาทสถานะของนครแห่งสันติภาพและกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ
ฮานอยมีการพัฒนาเป็นเมืองที่ทันสมัย |
แม้ทุกวันนี้ฮานอยได้พัฒนาเปลี่ยนแปลงใหม่ตามแนวทางที่ทันสมัย มีตึกรามบ้านช่องโอ่โถงสวยงาม มีศูนย์การค้าและเขตตัวเมืองใหม่ต่างๆแต่ก็ยังคงสามารถอนุรักษ์เอาไว้ซึ่งบรรยากาศที่เก่าแก่ของนครอายุพันปีด้วยแหล่งทัศนียภาพ โบราณสถานทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมโบราณ วัดวาอารามกว่า600แห่งและย่านถนนค้าขายเก่าแก่ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งไม่เพียงแต่ชาวฮานอยเท่านั้นหาชาวเวียดนามทุกคนต่างมีความภาคภูมิใจต่อเมืองหลวงของประเทศเวียดนาม กรุงทังลอง-ฮานอย นครแห่งสันติภาพ เปี่ยมด้วยมิตรไมตรี ความสงบสุขและความปลอดภัย
"ฮานอยเดี๋ยวนี้พัฒนาขึ้นมาก คนกรุงก็มีอัธยาศัยดี ชีวิตมีความสงบสุข มีวัฒนธรรมที่โดดเด่น ซึ่งทำให้มิตรประเทศที่มาเยือนต่างรู้สึกถึงมิตรไมตรีที่อบอุ่นของผู้คนที่ใฝ่สันติภาพ"
"ฮานอได้รับการยกย่องเป็นนครแห่งสันติภาพ ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวนครหลวง เราหวังว่าทุกคนจะพยายามร่วมรักษาเกียรติคุณนี้ให้คงอยู่คู่กับฮานอยตลอดไปผ่านปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมต่างๆ"
โดยเฉพาะในหลายปีมานี้ ฮานอยยังด่งดังมากขึ้นเพราะได้เป็นจุดหมายสำหรับการจัดกิจกรรมนานาชาติสำคัญๆของโลกและเมื่อเร็วๆนี้คือได้รับเลือกเป็นสถานที่จัดการพบปะสุดยอดระหว่างผู้นำสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีกับประธานาธิบดีสหรัฐ อันเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า ฮานอยไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของเวียดนามเท่านั้นหากยังมีความหมายสูงกว่าเมื่อได้เป็นสถานที่จัดการประชุมเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ
ย่านถนนเก่าเเก่ในฮานอยยังคงได้รับการอนุรักษ์อย่างสมบูรณ์ |
ศ.ดร.เยืองวันกว๋างเผยว่า"สิ่งนี้ได้สะท้อนความสำเร็จของแนวทางการต่างประเทศและการผสมผสานระหว่างประเทศของเวียดนาม ยืนยันชื่อเสียงของเวียดนามในการเป็นสถานที่จัดกิจกรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเป็นสัญลักษณ์แห่งการทูตเพื่อสันติภาพ และนี้คือพื้นฐานเพื่อให้เวียดนามดำเนินนโยบายการต่างประเทศจนประสบความสำเร็จดังปัจจุบัน"
ปัจจุบันนี้ ฮานอยไม่เพียงแต่เป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์กลางการเชื่อมโยงคุณค่าโลกและเป็นศูนย์แลกเปลี่ยนปัญหาระหว่างประเทศเพื่อสันติภาพและการพัฒนาเท่านั้นหากฮานอยยังเป็นเมืองที่สามารถอนุรักษ์และพัฒนาคุณค่าพื้นเมืองที่มีอยู่ นาย โรรี ลินเนน ชาวอังกฤษเผยว่า ในรอบ10ปีที่ผ่านมาเขาได้เดินทางมาฮานอยหลายครั้งและยังคงรู้สึกประทับใจกับฮานอยที่ทันสมัยแต่มีความสงบสุขและสุขุมของเมืองเก่าอายุพันปี "ฮานอยเป็นเมืองที่เยี่ยมมาก เหมาะสำหรับการจัดการพบปะระดับสูงของผู้นำประเทศต่างๆ ชาวฮานอยก็เป็นมิตรมีอัธยาศัยดี เวียดนามเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วแต่ก็มีหลายอย่างที่น่าสนใจ น่าค้นคว้า"
ในรอบ20ปีที่ผ่านมา ฮานอยยังคงเป็นเมืองหลวงเพียงแห่งเดียวในเอเชียแปซิฟิกที่ได้รับรางวัล นครแห่งสันติภาพ ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจและก็เป็นความท้าทายเพื่อให้ฮานอยพยายามต่อไปเพื่อธำรงเสริมสร้างและพัฒนาคุณค่าแห่งนครเพื่อสันติภาพเพื่อมุ่งร่วมสร้างสรรค์โลกที่สันติและเจริญรุ่งเรือง./.
Thu Hằng-VOV5