ฟอรั่มเศรษฐกิจโลกครั้งที่ 14  (Reuters)

การประชุม WEF เทียนจิน ได้รับการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีโดย WEF และรัฐบาลจีน ซึ่งเป็นการประชุมที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากการประชุม WEF ดาวอสในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากจัดขึ้นในช่วงฤดูร้อน WEF เทียนจิน จึงเป็นที่รู้จักในชื่อ “ดาวอสฤดูร้อน” ซึ่งการประชุมปีนี้มีหัวข้อคือ “การเป็นผู้ประกอบการ : ขุมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก” การประชุมนี้จะช่วยส่งเสริมความมุ่งมั่นในการพัฒนาเศรษฐกิจโลกผ่านการประกอบธุรกิจข้ามชาติ

ความร่วมมือเป็นวิธีเดียวเพื่อแก้ไขปัญหาระดับโลกที่เร่งด่วนที่สุด

การประชุมประจำปีผู้นำของฟอรั่มเศรษฐกิจโลกครั้งที่ 14 มีขึ้นในขณะที่โลกกำลังอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนแปลงในด้านระบบ โครงสร้างเศรษฐกิจ ภูมิรัฐศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนความท้าทายต่อรูปแบบดั้งเดิมอย่างลึกซึ้ง เพื่อเป็นฝ่ายรุกต่อกระบวนการเปลี่ยนแปลงนี้และเพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืน คล่องตัวและมีความเชื่อมโยงมากขึ้น จำเป็นต้องส่งเสริมความร่วมมือและจิตใจแห่งนักธุรกิจ ตามความเห็นของนาย Klaus Schwab ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารของ WEF การประชุมประจำปีของผู้นำฟอรั่มเศรษฐกิจโลกเป็นโอกาสเพื่อสร้างพื้นฐานที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงใหม่และความพยายามร่วมมือในระดับโลก  ส่วนประธานฟอรั่มเศรษฐกิจโลก Borge Brende ยืนยันว่า เนื่องจากเราอยู่อาศัยในโลกที่แตกแยก WEF เชื่อมั่นว่า ปัญหาระดับโลกที่เร่งด่วนที่สุดจะสามารถแก้ไขได้ผ่านความร่วมมือเท่านั้น ในขณะเดียวกัน ในการกล่าวปราศรัยในพิธีเปิดการประชุมเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน นายกรัฐมนตรีจีน หลี่เฉียง ย้ำว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทุกประเทศได้พยายามเป็นอย่างมากในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีที่แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ดังนั้น ประเทศต่างๆ ทั่วโลกต้องให้ความเคารพผลประโยชน์ของความร่วมมือ ร่วมกันแก้ไขความท้าทายระดับโลก และส่งเสริมความก้าวหน้าของมนุษยชาติ อีกทั้งเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ พยายามธำรงความเป็นธรรม ความเท่าเทียม รักษาความมั่นคง บรรยากาศการพัฒนาเพื่อสันติภาพและเสถียรภาพ

ประธานฟอรั่มเศรษฐกิจโลก Borge Brende (VNA)

การแสวงหาแนวทางเพื่อฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจที่โปร่งใสและยั่งยืน

ระเบียบวาระการประชุมในปีนี้เน้นหารือเกี่ยวกับด้านใหม่ๆ โดยให้ความสำคัญต่อบทบาทของเศรษฐกิจที่เพิ่งเกิดใหม่และมีศักยภาพ บรรดาผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุม WEF เทียนจินได้หารือถึงเนื้อหา 6 ประเด็นหลัก ได้แก่ การฟื้นฟูการเติบโต ประเทศจีนในสภาวการณ์แห่งโลกาภิวัตน์ การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและวัสดุศาสตร์ การปกป้องธรรมชาติและสภาพภูมิอากาศ ผู้บริโภคหลังการระบาด และการใช้นวัตกรรม มีผู้นำของรัฐบาล ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคมและองค์กรระหว่างประเทศ ตลอดจนนักวิชาการกว่า 1,500 คนเข้าร่วมการประชุม

นาย Borge Brende ประธาน WEF เผยว่า WEF กำลังเน้นถึงมาตราการเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม บรรดาผู้นำได้แสดงความเห็นว่า พลังงานสีเขียว เทคโนโลยีขั้นสูงและการครอบคลุมอย่างแพร่หลายสามารถช่วยค้ำประกันการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก นาย คริส ฮิปกินส์ นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ซึ่งให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ เกี่ยวกับปัญหาสภาพภูมิอากาศต่อเศรษฐกิจของประเทศ ได้ย้ำว่า นิวซีแลนด์ต้องค้ำประกันการผลิตที่สะอาด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน การเติบโตทางเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับ “ระบบการค้าตามข้อกำหนดระหว่างประเทศ” และชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จของข้อตกลงหุ้นส่วนในทุกด้านและก้าวหน้าข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกหรือ CPTPP ซึ่งถือเป็นตัวอย่างของความร่วมมือพหุภาคี

ในขณะเดียวกัน นาย หลี่เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนได้เผยว่า จีนจะปฏิบัติมาตรการเพื่อส่งเสริมความร่วมมือ การเปลี่ยนแปลงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศในการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูง ส่วนนาง Ngozi Okonjo-Iweala ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การการค้าโลก ได้เรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ พิจารณาการลงทุนในด้านที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเพิ่มความหลากหลายของห่วงโซ่อุปทาน ตลอดจน ทำให้ภาคส่วนเหล่านี้มีส่วนร่วมในการค้าโลก อีกทั้งกล่าวถึงการค้าสีเขียวและการบริการดิจิทัล ซึ่งเป็นด้านการเติบโตที่สามารถช่วยให้มีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ

WEF เป็นหนึ่งในฟอรัมระดับโลกที่มีชื่อเสียงและมีประสิทธิภาพซึ่งดึงดูดความสนใจและมีการเข้าของผู้นำประเทศมหาอำนาจต่าง ๆ  องค์กรระหว่างประเทศ ตลอดจนกลุ่มบริษัทและบริษัทชั้นนำของโลก นอกจากการประชุมประจำปีที่จัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคมทุกปี ณ เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์แล้ว การประชุมประจำปีของผู้นำ WEF ที่จัดขึ้น ณ เมืองเทียนจิน หรือเมืองต้าเหลียน  ในประเทศจีนยังเป็นกิจกรรมอย่างเป็นทางการและสำคัญของ WEF การที่ผู้นำของประเทศต่างๆ และองค์กรระหว่างประเทศแลกเปลี่ยนและวิเคราะห์ปัญหาการพัฒนาของภูมิภาคในการประชุม WEF เทียนจิน 2023 มีส่วนร่วมส่งเสริมจิตใจแห่งการประกอบธุรกิจในเอเชีย หาแนวทางฟื้นฟูและการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน.