กลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติในการปฏิวัติเดือนสิงหาคม – บทเรียนอันล้ำค่าในวันนี้

(VOVworld) – จุดเริ่มต้นที่สำคัญที่ช่วยให้การปฏิวัติเดือนสิงหาคมปี 1945 ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วคือการรวมพลังประชาชนทุกชั้นชนเพื่อสร้างกลุ่ม มหาสามัคคีชนในชาติภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ซึ่งบทเรียนนี้ยังทรงคุณค่ามาจนถึงปัจจุบันในสภาวการณ์ที่เวียดนามกำลังผสม ผสานเข้ากับประชาคมระหว่างประเทศอย่างกว้างลึก

(VOVworld) – จุดเริ่มต้นที่สำคัญที่ช่วยให้การปฏิวัติเดือนสิงหาคมปี 1945 ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วคือการรวมพลังประชาชนทุกชั้นชนเพื่อสร้างกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ซึ่งบทเรียนนี้ยังทรงคุณค่ามาจนถึงปัจจุบันในสภาวการณ์ที่เวียดนามกำลังผสมผสานเข้ากับประชาคมระหว่างประเทศอย่างกว้างลึก

กลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติในการปฏิวัติเดือนสิงหาคม – บทเรียนอันล้ำค่าในวันนี้ - ảnh 1
ประธานโฮจิมินห์ในการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่ 8 ณ เขตปั๊กป๊อ

จากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสถานการณ์โลก เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 1941 ประธานโฮจิมินห์ได้เรียกประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่ 8 ณ เขตปั๊กป๊อ จังหวัดกาวบั่ง โดยได้เปลี่ยนแนวทางชี้นำยุทธศาสตร์และยืนยันว่า การปลดปล่อยประชาชาติเป็นภารกิจแรกของการปฏิวัติเวียดนามในช่วงนั้น ที่ประชุมได้ระบุว่า “ขณะนี้ การคงอยู่ของประเทศและประชาชาติต้องอยู่เหนือกว่าสิทธิผลประโยชน์ในบางส่วน รวมทั้งของชนชั้น”
ส่งเสริมพลังที่เข้มแข็งของทั้งประชาชาติเพื่อลุกขึ้นสู้ยึดอำนาจการปกครองประเทศ
จากการกำหนดแนวทางดังกล่าว พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและประธานโฮจิมินห์ได้เปลี่ยนมาทำการสร้างสรรค์กองกำลัง ชี้นำแนวทางและวิธีการปฏิบัติ รวมทั้งศิลปะการลุกขึ้นสู้ ทำให้การปฏิวัติกลายเป็นการลุกขึ้นสู้ของประชาชาติและส่งเสริมพลังที่เข้มแข็งของประชาชาติ แนวร่วมเวียดมิงห์ได้รับการก่อตั้งและขยายไปยังทั่วประเทศเพื่อร่วมกับองค์การกู้ชาติต่างๆ สร้างขบวนการต่อสู้อย่างเข้มแข็งเพื่อเตรียมพร้อมให้แก่การลุกขึ้นสู้ยึดอำนาจรัฐ รองศ.ดร.เหงียนจ่องฟุ๊ก อดีตหัวหน้าสถาบันประวัติศาสตร์พรรคสังกัดสถาบันรัฐศาสตร์แห่งชาติโฮจิมินห์ได้วิเคราะห์ว่า “ในคำเรียกร้องให้ทำการลุกขึ้นสู้เพื่อยึดอำนาจรัฐ ประธานโฮจิมินห์ได้กล่าวว่า “ ประชาชนทั้งมวลจงลุกขึ้นสู้ ใช้พลังของตนเพื่อปลดปล่อยตนเอง” แต่การปลดปล่อยนั้นจะประสบความสำเร็จก็เนื่องมาจากแนวทางการชี้นำที่ถูกต้องของพรรคและการระดมกองกำลังของแนวร่วมเวียดมิงห์”
ภายใต้การชี้นำของพรรคและประธานโฮจิมินห์ ผ่านแนวร่วมเวียดมิงห์ พลังความสามัคคีของประชาชนเวียดนามในทุกชั้นชนกว่า 20 ล้านคนก็ได้รับการพัฒนาไปถึงจุดสูงสุดโดยทั้งประเทศได้ลุกขึ้นสู้และทำลายกลไกการบริหารของนักล่าเมืองขึ้นและระบอบศักดินาเพื่อยึดอำนาจการปกครองมาให้แก่ประชาชน ภายในเวลา 15 วันเท่านั้น การปฏิวัติเดือนสิงหาคมได้ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์

กลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติในการปฏิวัติเดือนสิงหาคม – บทเรียนอันล้ำค่าในวันนี้ - ảnh 2
นายฝามเท้เหยวียด อดีตประธานแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนาม

บทเรียนเกี่ยวกับการเสริมสร้างและพัฒนาพลังอันเข้มแข็งของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ

71 ปีหลังชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของการปฏิวัติเดือนสิงหาคม เวียดนามได้มีก้าวเดินที่ก้าวไกลในภารกิจการสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศ จากประเทศที่เป็นทาส ยากจน ล้าหลังและไม่มีชื่ออยู่บนแผนที่โลก ปัจจุบันนี้ เวียดนามได้ประสบผลสำเร็จในทุกด้านและมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับหลายประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ แต่ควบคู่กันนั้น เวียดนามยังต้องรับมือกับความท้าทายต่างๆ เช่น การบ่อนทำลายของฝ่ายที่เป็นอริและการเสื่อมถอยของแนวความคิดทางการเมือง คุณธรรมและวิถีชีวิตของสมาชิกพรรคส่วนหนึ่ง ซึ่งคือเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่สำหรับกลุ่มมหาสามัคคีภายในพรรคและกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ ทั้งนี้ทำให้พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามต้องส่งเสริมบทเรียนอันล้ำค่าของการปฏิบัติเดือนสิงหาคม โดยเฉพาะบทเรียนเกี่ยวกับการเสริมสร้างและพัฒนาพลังความสามัคคีชนในชาติให้เต็มที่ นายฝามเท้เหยวียด อดีตประธานแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามได้เผยว่า “ยิ่งกว่าเวลาใด ในช่วงนี้ ถ้าอยากส่งเสริมพลังความสามัคคีชนในชาติ พรรคต้องมีความสามัคคี ต้องเป็นตัวอย่างให้แก่ประชาชน ประชาชนมีความปรารถนาว่า พรรคต้องปฏิบัติแนวทางและมติที่ได้กำหนดไว้ให้ได้ ถ้าหากทำได้ เราจะสามารถพัฒนาพลังที่เข้มแข็งของกลุ่มมหาสามัคคีได้เพื่อปฏิบัติภารกิจการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและผสมผสานเข้ากับกระแสโลก”
ส่วนรองศ.ดร.ฝามซวนหั่ง จากมหาวิทยาลัยสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ได้เผยว่า ในภารกิจการปฏิวัติของเวียดนามที่นำโดยพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามไม่อาจขาดการสนับสนุนและส่วนร่วมของประชาชนทุกชั้นชนทั่วประเทศได้ มีแต่ความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับประชาชนผ่านปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมเท่านั้น พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามถึงจะเสร็จสิ้นภารกิจการเป็นผู้นำได้ “ปัจจุบัน เพื่อระดมพลังอันเข้มแข็งของประชาชาติ พรรคต้องผสานเข้ากับแนวร่วมปิตุภูมิเหมือนตอนที่ช่วงชิงเอกราชในอดีตเพื่อกลายเป็นแกนนำในกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติและพลังอันเข้มแข็งของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติจะเป็นปัจจัยชี้ขาดปัญหาการสร้างสรรค์พลังภายในของประเทศ ขณะนี้ พรรคต้องแสดงบทบาทของตน ต้องสามัคคีและต้องเป็นแกนนำในกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ”
ประวัติศาสตร์ของประชาชาติได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ไม่ว่าจะอยู่ในสภาวการณ์ใด จะประสบความยากลำบากหรือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่ความสามัคคีและการร่วมแรงร่วมใจกันของประชาชนทุกชั้นชนภายใต้การนำของพรรคจะเป็นพลังที่เข้มแข็งเพื่อช่วยให้ประเทศฝันฝ่าอุปสรรค์และความท้าทาย ภายใต้การนำของพรรค กลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติของประชาชนเวียดนามกว่า 93ล้านคนและคนเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศกว่า 4.5 ล้านคนจะเป็นพลังอันแข็งแกร่งเพื่อช่วยให้เวียดนามก้าวไปอย่างมั่นคงบนเส้นทางแห่งการสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด