การเลือกตั้งกึ่งวาระรัฐสภาสหรัฐ - บททดสอบสำหรับคณะผู้บริหารชุดปัจจุบัน
Anh Huyen/VOV5 -  
(VOVWorld)-วันที่4พฤศจิกายน ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งสหรัฐกว่า100ล้านคนได้ไปลงคะแนนเลือกผู้นำรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งแม้จะมิใช่เป็นการเลือกตั้งที่เป็นปัจจัยชี้ขาดแต่ก็จะส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในอีก2ปีข้างหน้า แม้ผลการเลือกตั้งรัฐสภากึ่งวาระยังไม่ออกมาแต่ตามความเห็นของนักวิเคราะห์ทางการเมือง ประธานาธิบดีบารักโอบามาจะต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายในช่วง2ปีสุดท้ายของวาระ
(VOVWorld)-วันที่4พฤศจิกายน ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งสหรัฐกว่า100ล้านคนได้ไปลงคะแนนเลือกผู้นำรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งแม้จะมิใช่เป็นการเลือกตั้งที่เป็นปัจจัยชี้ขาดแต่ก็จะส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในอีก2ปีข้างหน้า แม้ผลการเลือกตั้งรัฐสภากึ่งวาระยังไม่ออกมาแต่ตามความเห็นของนักวิเคราะห์ทางการเมือง ประธานาธิบดีบารักโอบามาจะต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายในช่วง2ปีสุดท้ายของวาระ
นายโอบามาไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกึ่งวาระก่อนกำหนดที่รัฐอิลลินอยส์(Reuters)
|
การเลือกตั้งรัฐสภากึ่งวาระได้มีขึ้นในช่วงครึ่งวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีเพื่อเลือกที่นั่งในรัฐสภาและผู้ว่าการรัฐบางตำแหน่ง โดยที่สภาล่างจะเลือกตั้งที่นั่งสส.435ที่นั่ง ที่วุฒิสภาเลือกที่นั่งแค่1ใน3จากทั้งหมด100ที่นั่งและตำแหน่งผู้ว่าการรัฐอีก37ตำแหน่ง
ทำไมการเลือกตั้งกึ่งวาระถึงมีความสำคัญนัก
ความหมายอันดับแรกของการเลือกตั้งกึ่งวาระนี้คือเปรียบเสมือนเป็นการแข่งขันด้านนโยบายที่มีลักษณะชี้ขาดของพรรคการเมืองต่างๆในการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาในอีก2ปีข้างหน้า เพราะจากผลการเลือกตั้งนี้ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้นำประเทศจากสองพรรคเดโมเเครตและรีพับลิกันที่ได้รับการเสนอชื่อจะมีโอกาสพิจารณาจุดยืนและทัศนะทางการเมืองของตน ปรับปรุงแนวทางการเคลื่อนไหวและแผนการหาเสียงให้สอดคล้องกับความปรารถนาของประชาชน ส่วนผลการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐก็มีผลในการตัดสินใจว่าใครจะเป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดี
ขณะนี้ พรรคเดโมแครตซึ่งมีที่นั่งข้างมากในวุฒิสภาด้วยจำนวน53ที่นั่ง ส่วนพรรครีพับลิกันได้45ที่นั่งและอีกสองที่นั่งเป็นบุคคลอิสระ ส่วนในสภาล่าง พรรครีพับลิกันกลับมีความได้เปรียบด้วย233ที่นั่งเมื่อเทียบกับ199ที่นั่งของพรรคเดโมแครต ดังนั้นทั้งสองพรรคต่างมีโอกาสที่จะปรับสถานะในการเลือกตั้งครั้งนี้เพราะหากพรรคใดได้รับเสียงสนับสนุนจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมากกว่าก็จะได้สิทธิ์ควบคุมทั้งสภาล่างและวุฒิสภาและเป็นฝ่ายควบคุมทั้งกระบวนการบริหารและนิติบัญญัติ
ความไว้วางใจจะอยู่ที่พรรคใดระหว่างเดโมเเครตและรีพับลิกัน
ความไว้วางใจจะมอบให้แก่พรรคการเมืองใดระหว่างพรรคเดโมเเครตและรีพับลิกันคือเรื่องที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกำลังมีความลังเลเพราะรัฐสภาสมัยที่113ปัจจุบันกำลังถูกตำหนิติติงว่าขาดประสิทธิภาพที่สุดในประวัติศาสตร์ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกยังเป็นไปอย่างล่าช้า ตลาดแรงงานแม้จะมีแนวโน้มดีขึ้นแต่อัตราคนว่างงานยังอยู่ในระดับสูงคือร้อยละ5.9เมื่อเทียบกับเป้าหมายที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดตั้งไว้คือร้อยละ5
ส่วนทางด้านการเมือง ใน6ปีที่นายโอบามาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี สหรัฐก็อยู่ในภาวะตีบตันในปัญหาต่างๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้งบประมาณ การปรับปรุงกฎหมายการเข้าเมือง การควบคุมอาวุธปืน การปฏิรูประบบการประกันภัยและการดูแลสุขภาพเป็นต้น ซึ่งถึงแม้นายโอบามาจะได้คะแนนเมื่อสามารถปฏิบัติคำมั่นในการถอนกำลังออกจากอิรักและอัฟกานิสถาน แต่ภายใต้การนำของเขาประเทศสหรัฐกำลังต้องรับมือกับกระบวนการต่อต้านกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามหรือไอเอสในอิรักและซีเรียที่ไม่รู้ว่าจะยาวนานแค่ไหน ในขณะเดียวกันขบวนการวสันต์แห่งอาหรับที่เคลื่อนไหวผ่านประเทศต่างๆในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือที่ถูกคาดหวังว่าจะนำมาซึ่งประชาธิปไตยที่แท้จริงนั้นก็ไม่ได้ผลโดยประเทศเหล่านี้ยังคงอยู่ในภาวะวุ่นวายเหมือนไม่มีรัฐบาล ส่วนกระบวนการเจรจาระหว่างปาเลสไตน์-อิสราเอลก็ไม่มีความคืบหน้า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและรัสเซียแม้จะได้รับการปรับปรุงใหม่แต่ก็กำลังอยู่ในความล่อแหลมที่จะกลับเข้าสู่ยุคสงครามเย็น ตลอดจนสหรัฐเองก็ยังต้องระดมทั้งเรื่องการเงินและบุคลากรเพื่อรับมือกับมหันตภัยอีโบลาที่แพร่ระบาดเข้าประเทศแล้ว
ความท้ายที่ประธานาธิบดีโอบามาต้องเผชิญ
ในสภาวการณ์ดังกล่าว บรรดานักวิเคราะห์ได้พยากรณ์ว่า พรรครีพับลิกันอาจจะเป็นฝ่ายชนะในการเลือกตั้งกึ่งวาระเนื่องจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้มีความผิดหวังกับนโยบายของทางการปัจจุบัน โดยตามผลการสำรวจประชามติก่อนการเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งร้อยละ50ให้การสนับสนุนพรรครีพับลิกันและร้อยละ44ให้การสนับสนุนพรรคเดโมเเครต ส่วนโอกาสชนะการเลือกตั้งของพรรครีพับลิกันในวุฒิสภามีร้อยละ62.3เมื่อเทียบกับร้อยละ37.7ของพรรคเดโมเเครต ซึ่งถ้าหากเรื่องนี้กลายเป็นจริงประธานาธิบดีโอบามาจะต้องประสบอุปสรรคมากมายในช่วง2ปีที่เหลือของวาระนี้
ประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าการเลือกตั้งกึ่งวาระเป็นการเลือกตั้งที่ผู้มีสิทธิ์แสดงทัศนะของตนต่อประธานาธิบดีและพรรคของเขาดังนั้น กรอบการเคลื่อนไหวของทางการปัจจุบันของนายโอบามากำลังขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของชาวอเมริกัน เพราะแน่นอนว่าสภาล่างยังคงจะอยู่ภายใต้การควบคุมของพรรครีพับลิกันแต่ที่วุฒิสภาซึ่งเสียงข้างมากกำลังอยู่ที่พรรคเดโมเเครตนั้นก็เสี่ยงที่จะเอียงไปตามพรรคฝ่ายค้าน ขณะนี้ยังไม่รู้ผลที่แน่นอนแต่อุปสรรคที่รอนายโอบามานั้นจะมีไม่น้อย โดยร่างกฎหมายที่สำคัญๆต่างๆเช่นการปิดเรือนจำกวนตานาโม รัฐบัญญัติการดูแลสุขภาพราคาถูกหรือโอบามาแคร์ ตลอดจนการแก้ไขปัญหาคนเข้าเมืองเป็นต้นก็อาจจะไม่มีวันได้รับการปฏิบัติจริง เพราะผู้ที่สนับสนุนพรรครีพับลิกันอาจจะใช้คะแนนเสียงของตนเพื่อเสริมสร้างสถานะที่เข้มแข็งของพรรคในวุฒิสภาเพื่อเปิดทางให้แก่การบรรลุเป้าหมายชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี2016./.
Anh Huyen/VOV5