ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีทวีความรุนแรง
Anh Huyen - VOV5 -  
(VOVworld) – ในสภาวการณ์ที่สหรัฐและเปียงยางกำลังตอบโต้กันอย่างรุนแรง เมื่อวันที่ 16 เมษายน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีได้ทดลองยิงขีปนาวุธเนื่องในโอกาสรำลึกครบรอบ 105 ปีวันคล้ายวันเกิดของประธาน คิม อิล ซุง ผู้นำสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี15 เมษายน ซึ่งทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้นจนหลายฝ่ายกลัวว่า อาจจะนำไปสู่สงครามครั้งใหญ่
(VOVworld) – ในสภาวการณ์ที่สหรัฐและเปียงยางกำลังตอบโต้กันอย่างรุนแรง เมื่อวันที่ 16 เมษายน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีได้ทดลองยิงขีปนาวุธเนื่องในโอกาสรำลึกครบรอบ 105 ปีวันคล้ายวันเกิดของประธาน คิม อิล ซุง ผู้นำสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี15 เมษายน ซึ่งทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้นจนหลายฝ่ายกลัวว่า อาจจะนำไปสู่สงครามครั้งใหญ่
การเดินสวนสนามสำแดงกำลังครั้งใหญ่พร้อมโชว์อาวุธต่างๆในโอกาสรำลึกครบรอบ105ปีวันคล้ายวันเกิดของผู้นำ คิมอิลซุง (Photo EPA/ TTXVN)
|
การทดลองยิงขีปนาวุธของเปียงยางได้มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงก่อนการเยือนสาธารณรัฐเกาหลีของนาย ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐเพื่อยืนยันคำมั่นของสหรัฐต่อพันธมิตรท่ามกลางความตึงเครียดที่นับวันทวีความรุนแรงมากขึ้นเนื่องจากโครงการอาวุธของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ขีปนาวุธดังกล่าวถูกยิงจากท่าเรือทางทิศตะวันออก ซึ่งแม้จะประสบความล้มเหลวแต่ก็พอที่ทำให้บรรยากาศบนคาบสมุทรเกาหลีร้อนระอุมากขึ้น และหากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่ใช้ความอดกลั้นก็อาจส่งผลให้เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่
ทัศนะที่แข็งกร้าวของทุกฝ่าย
ส่วนสาธารณรัฐเกาหลีได้ออกมาตอบโต้ทันทีโดยประกาศว่า การยิงขีปนาวุธดังกล่าวได้มีขึ้นหลังจากที่เปียงยางจัดการเดินสวนสนามสำแดงกำลังครั้งใหญ่พร้อมโชว์อาวุธต่างๆในโอกาสรำลึกครบรอบ105ปีวันคล้ายวันเกิดของผู้นำ คิมอิลซุงนั้นเป็นการแสดงความแข็งแกร่งเพื่อข่มขู่ประชาคมโลก พร้อมทั้งเตือนว่า จะทำการตอบโต้ถ้าหากเปียงยางยังคงมีปฏิบัติการที่ยั่วยุต่อไป
ในขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 17 เมษายน ในระหว่างการเยือนประเทศสาธารณรัฐเกาหลี นาย ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐได้ประกาศว่า “ยุคแห่งความอดทนยุทธศาสตร์” ในกว่า 2 ทศวรรษกับเปียงยางได้ยุติลงและเผยว่า สหรัฐกำลังพิจารณามาตรการควบคุมโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเปียงยาง พร้อมทั้งเตือนว่า เปียงยางไม่ควรทดสอบความตั้งใจและความแข็งแกร่งของกองทัพสหรัฐเพราะโลกได้มีโอกาสเห็นความมุ่งมั่นของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แล้วผ่านปฏิบัติการของสหรัฐในซีเรียและอัฟกานิสถานในหลายวันที่ผ่านมา ส่วนประเทศรัสเซียได้แสดงความวิตกกังวลต่อคำประกาศของสหรัฐโดยเตือนว่า การโจมตีของสหรัฐใส่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีเพียงฝ่ายเดียวเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากและหวังว่า สหรัฐจะไม่มีปฏิบัติการเพียงฝ่ายเดียวเหมือนที่เกิดขึ้นในซีเรียอีก
บรรยากาศบนคาบสมุทรเกาหลีร้อนแรงขึ้นทุกๆชั่วโมง
นี่ไม่ใช้ครั้งแรกที่เปียงยางทดลองยิงขีปนาวุธจนทำให้คาบสมุทรเกาหลีเกิดความตึงเครียดมากขึ้น แต่ในครั้งนี้ ได้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการปะทะทางทหารเพราะดูเหมือนว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์นับวันยิ่งมีปฏิบัติการที่แข็งกร้าวมากกว่ารัฐบาลของนายบารัค โอบามา โดยเมื่อวันที่ 7 เมษายน สหรัฐได้ยิงจรวดโทมาฮอว์ก 59 ลูกใส่ฐานทัพอากาศซีเรียโดยไม่แจ้งล่วงหน้าและถึงวันที่ 13 เมษายน ได้ทิ้งระเบิด MOAB ราคาลูกละ 16 ล้านดอลลาร์สหรัฐใส่เขตที่มีระบบอุโมงของกลุ่มไอเอสในอัฟกานิสถาน ซึ่งเป็นอาวุธที่มีอนุภาพทำลายล้างเป็นรองเพียงแค่ระเบิดปรมาณูเท่านั้น นอกจากนั้น ควบคู่กับคำประกาศว่า สามารถแก้ไขปัญหาเปียงยางได้เองโดยไม่ต้องการความช่วยเหลือจากจีน สหรัฐก็ได้ส่งเครื่องบินลาดตระเวนและเรือบรรทุกเครื่องบินประชิดใกล้สาธารรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ส่วนเปียงยางได้ตอบโต้ด้วยการแสดงความแข็งแกร่งและขู่ว่าจะทำการโจมตีสหรัฐก่อน แม้กระทั่งยังมีข่าวว่า เปียงยางได้อพยพพลเมืองจำนวนมากออกจากเมืองหลวงเพื่อเตรียมพร้อมการทำสงครามกับสหรัฐ
ผู้นำสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี คิม จ็อง-อึน
(PhotoEPA/ TTXVN)
|
บรรยากาศบนคาบสมุทรเกาหลีก็ร้อนระอุมากขึ้นเมื่อจีนตรึงกำลังทหาร 150,000 นายในเขตชายแดนที่ติดกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีเพื่อเตรียมรับมือกรณีที่เปียงยางถูกสหรัฐโจมตี ส่วนประเทศญี่ปุ่นได้วางแผนอพยพพลเมืองกว่า 57,000 คนในสาธารณรัฐเกาหลีและเตรียมมาตรการแก้ปัญหาผู้อพยพชาวสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีที่อาจเข้ามายังญี่ปุ่นในกรณีเกิดการปะทะในขณะที่รัสเซียและจีนได้ส่งกองเรือไปยังทะเลฮัวตุ้งเพื่อเฝ้าติดตามการเคลื่อนไหวของเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ของสหรัฐ
นักวิเคราะห์ระหว่างประเทศแสดงความคิดเห็นว่า ปฏิบัติการต่างๆดังกล่าวของสหรัฐเป็นเพียงแค่การลองเชิงเปียงยางเพื่อกำหนดแนวทางรับมือในเวลาข้างหน้า ซึ่งการที่เปียงยางได้ทดลองยิงขีปนาวุธข้ามทวีปหลายครั้งในเวลาที่ผ่านมา โดยไม่สนใจต่อคำสั่งคว่ำบาตรเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่า โครงการพัฒนานิวเคลียร์ของประเทศนี้นับวันมีความก้าวหน้า และยังมีข่าวว่า เปียงยางกำลังมีอาวุธเคมีจำนวนมาก ซึ่งทำให้ทุกฝ่ายต้องระมัดระวังในการใช้มาตรการต่างๆต่อเปียงยาง ปัจจุบันยากที่จะสามารถประเมินสถานการณ์ความมั่นคงบนคาบสมุทรเกาหลีได้อย่างถูกต้อง ดังนั้นทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรมีความอดกลั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะทางทหารที่ไม่จำเป็น.
Anh Huyen - VOV5