( VOVworld )- วันที่ ๒๘ กันยายน ท่านเจือง เติ้น ซางประธานประเทศเวียดนามจะเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐคิวบาอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของท่านราอุล คัสโตร ประธานสภาแห่งรัฐและประธานสภารัฐมนตรีคิวบา  การเยือนนี้ดำเนินไปจนถึงวันที่ ๓๐ กันยายนด้วยวัตถุประสงค์คือ พัฒนาความสัมพันธ์สามัคคีพิเศษ ความร่วมมืออย่างรอบด้านและความไว้วางใจระหว่างพรรค รัฐและประชาชนทั้งสองประเทศให้มีความลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ประธานประเทศเวียดนามพบปะกับประธานประเทศคิวบา
 ณ เวียดนามเมื่อปี ๒๐๑๒ ( ภาพจากสำนักข่าวเวียดนาม )

วันที่ ๒ ธันวาคมปีค.ศ.๑๙๖๐ หรือก่อนหน้านี้ ๕๕ ปี คิวบาซึ่งเป็นประเทศแรกในซีกโลกตะวันตกได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับเวียดนาม  นับแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับคิวบาได้รับการทำนุบำรุงและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง

ความสัมพันธ์พิเศษ

ความสัมพันธ์ระหว่างสองพรรค สองรัฐบาลและประชาชนทั้งสองประเทศเวียดนามและคิวบาถือเป็นความสัมพันธ์พิเศษ ซึ่งมีน้อยนักในประวัติศาสตร์โลกปัจจุบัน  บรรดาผู้นำและประชาชนเวียดนามกับคิวบาตระหนักอยู่เสมอถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ซึ่งถือเป็นมรดกที่หาค่ามิได้ของทั้งสองประชาชาติที่ได้รับการทำนุบำรุงจากประธานโฮจิมินห์และประธานฟีเดล คัสโตร  ทั้งนี้ได้ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เป็นความสัมพันธ์ที่บริสุทธิ์ ซื่อสัตย์และเป็นตัวอย่างของความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติที่มีอุดมการณ์ปฏิวัติเดียวกัน

แม้สองประเทศอยู่ห่างไกลกันทางภูมิศาสตร์ก็ตาม  แต่สิ่งนี้ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการก่อเกิดและพัฒนาความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นและซื่อสัตย์ระหว่างเวียดนามกับคิวบาแต่อย่างใด โดยในกว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศได้เคียงบ่าเคียงไหล่กันในการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประชาชาติ ในช่วงเวลาทำการต่อสู้ที่แสนยากลำบากเพื่อปลดปล่อยชาติของเวียดนาม พรรค รัฐและประชาชนคิวบาได้เดินพร้อมกับเวียดนามและให้การสนับสนุนเวียดนามทั้งด้านวัตถุและจิตใจอย่างเต็มที่  คิวบาได้เดินหน้าในขบวนการของประชาชนชาวโลกที่ให้การสนับสนุวเวียดนามในการต่อสู้ การปกป้องเอกราชและเสรีภาพตลอดจการสร้างสรรค์ประเทศ   คิวบายังให้ความสนใจผลักดันความสัมพันธ์ในทุกด้านที่เป็นจุดแข็งกับเวียดนามเช่น การก่อสร้าง การคมนาคม การศึกษาและฝึกอบรม

ประธานฟีเดล คัสโตรเคยกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างคิวบากับเวียดนามว่า เป็นความสัมพันธ์พิเศษที่ไม่เคยมีมาก่อนและเป็นตัวอย่างของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ   ประชาชนเวียดนามจดจำน้ำใจอันลึกซึ้งของประชาชนคิวบาในสงครามต่อต้านผู้รุกรานเช่นเดียวกัยในยามที่ประเทศมีสันติภาพและสร้างสรรค์ประเทศ

ส่วนพรรค รัฐและประชาชนเวียดนามได้สนับสนุนและช่วยเหลือคิวบาอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาที่คิวบาถูกปิดล้อมจากสหรัฐอเมริกา หรือได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติและความลำบากยากเข็ญอื่นๆอีกมากมาย  เวียดนามให้ความสนใจเฝ้าติดตามและแสดงความยินดีต่อผลสำเร็จของประชาชนคิวบาในการปฏิบัติภารกิจการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมซึ่งที่ประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์คิวบาได้กำหนดไว้  อีกทั้งแสดงความเชื่อมั่นว่า ภายใต้การนำที่ปรีชาสามารถของพรรคคอมมิวนิสต์คิวบา ประมุขประเทศฟีเดล คัสโตรและประธานประเทศ ราอุล คัสโตร ประชาชนคิวบาจะฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆเพื่อพัฒนาประเทศต่อไป

ส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ทวิภาคี

ความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ดีงาม พิเศษและไว้วางใจกันระหว่างเวียดนามกับคิวบาได้ส่งผลดีต่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศ โดยมูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งเห็นได้จากตัวเลขปี ๒๐๑๒ ซึ่งมูลค่าการค้าทวิภาคีอยู่ที่ ๑๗๕ ล้านเหรียญสหรัฐมาปี ๒๐๑๔ ได้เพิ่มขึ้นเป็นกว่า ๒๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ  เวียดนามส่งออกสินค้าไปยังคิวบาส่วนใหญ่เป็นข้าวและสินค้าบริโภค และนำเข้าผลิตภัณฑ์ชีวภาพและยารักษาโรคจากคิวบา  ทั้งสองฝ่ายยังให้ความสนใจต่อการพัฒนาความร่วมมือในการสำรวจและขุดเจาะน้ำมันในคิวบา การผลักดันความร่วมมือระหว่างเครือบริษัทโทรคมนาคมเวียตเทลของกองทัพเวียดนามกับบริษัทโทรคมนาคมแห่งรัฐของคิวบาหรือเอแตกซา( ETECSA )

การลงนามเอกสารและข้อตกลงความร่วมมือหลายฉบับระหว่างสองประเทศได้สร้างพื้นฐานและกรอบทางนิตินัยให้แก่ความร่วมมือและการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการในระยะสั้นและระยะยาว  เวียดนามและคิวบาได้ผลักดันความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าอย่างเป็นฝ่ายรุก ตลอดจนมีการแก้ไขเนื้อหา กลไกและรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศให้สอดคล้องกับการปฏิรูปเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ  อีกทั้งการขยายความสามัคคีและสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานพร้อมๆกับการยกระดับการปฏิบัติโครงการร่วมมือต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม ศักยภาพและจุดแข็งในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศยังมีอยู่มากมาย โดยเฉพาะในขณะที่คิวบากำลังผลักดันการปฏิรูป การปฏิบัติรูปแบบการพัฒนาและสามารถทำลายการปิดล้อมในหลายสิบปีที่ผ่านมา ดังนั้น การพบปะระดับสูงและการขยายการไปมาเยี่ยมเยือนซึ่งกันและกันเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบัน

ทั้งนี้และทั้งนั้น  การเยือนคิวบาอย่างเป็นทางการของท่านเจือง เติ้น ซางประธานประเทศเวียดนามไม่เพียงแต่กระชับความสัมพันธ์พิเศษระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นเท่านั้น หากยังเป็นการเปิดกระบวนการร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองประเทศในระยะใหม่   ปัจจุบัน เวียดนามกำลังเตรียมให้แก่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ ๑๒ ส่วนคิวบากำลังปฏิรูปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการเยือนคิวบาอย่างเป็นทางการของท่านเจือง เติ้น ซางจะเป็นโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายผลักดันการปฏิบัติมาตรการร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับเงื่อนไขใหม่และผลประโยชน์ของแต่ละประเทศ  อีกทั้งยังเป็นโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกันเส้นทางพัฒนาของประเทศตน อันเป็นการมีส่วนร่วมเพื่อให้ภารกิจการปฏิวัติของแต่ละประเทศประสบความสำเร็จ .