นางเหงียนถิกิมเงินเป็นประธานรัฐสภาหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์รัฐสภาเวียดนาม ซึ่งก็เป็นหนึ่งใน 4 ตำแหน่งสำคัญที่สุดในกลไกการบริหารประเทศ ดังนั้นในนาทีรับตำแหน่งใหม่ ประธานรัฐสภาเหงียนถิกิมเงินก็ได้ให้คำปฏิญาณตนว่า จะจงรักภักดีต่อปิตุภูมิ ต่อประชาชนและรัฐธรรมนูญของประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

การที่รัฐสภาเวียดนามมีประธานรัฐสภาคนใหม่เป็นผู้หญิงนั้นได้รับคำชื่นชมจากสมาชิกรัฐสภา นางกาวถิซวน สมาชิกสภาชาติพันธุ์แห่งรัฐสภาได้กล่าวแสดงความยินดีว่า นี่คือการเปลี่ยนแปลงใหม่ของพรรคและรัฐในงานด้านบุคลากร ซึ่งหวังว่า ประธานรัฐสภาคนใหม่จะมีความคิดสร้างสรรค์ต่างๆเพื่อช่วยให้รัฐสภาเปลี่ยนแปลงใหม่และประสบก้าวกระโดดในการปฏิบัติงานและตอบสนองความปรารถนาของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง นายเยืองจุงก๊วก สมาชิกรัฐสภาจังหวัดด่งนายได้ยืนยันว่า ในประวัติศาสตร์ เวียดนามก็มีสตรีที่เป็นผู้บริหารอย่างสองวีรกษัตรีตระกูลตรึง ซึ่งตัวเขาเองหวังว่า นอกจากจะนำรัฐสภาฟันฝ่าอุปสรรคและความท้าทายด้านเศรษฐกิจและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก นางเหงียนถิกิมเงินจะแสดงทัศนะที่เข้มแข็งและยืนหยัดการปกป้องอธิปไตยของประเทศ ส่วนนายโด๋วันเดือง สมาชิกรัฐสภานครโฮจิมินห์แสดงความหวังว่า “คำสาบานตนของประธานรัฐสภามีความหมายอย่างลึกซึ้ง ซึ่งหวังว่าท่านจะมีส่วนร่วมที่ใหญ่หลวงเพื่อให้รัฐสภาสมกับเป็นองค์การตัวแทนสูงสุดของประชาชนและองค์การที่มีอำนาจสูงสุดของรัฐอย่างจริงจัง”

การที่เวียดนามมีประธานรัฐสภาหญิงคนแรกได้สร้างความสนใจให้สื่อต่างชาติรายงานข่าวชื่นชมประธานรัฐสภาเหงียนถิกิมเงิน สำนักข่าวเอเอฟพีของฝรั่งเศสรายงานว่า นับเป็นครั้งแรกที่เวียดนามสามารถเลือกสตรีคนหนึ่งมาดำรงตำแหน่งที่มีอิทธิพลอย่างประธานรัฐสภา ซึ่งเป็น1 ใน 4 ผู้นำสูงสุดของประเทศ พร้อมทั้งเรียกนางกิมเงินว่า “นักนิติบัญญัติที่มากด้วยประสบการณ์” ส่วนสำนักข่าว Channel News Asia ของสิงคโปร์ได้ลงข่าวว่า นางเหงียนถิกิมเงินสมกับการเป็นผู้บริหารที่มีชื่อเสียง ส่วนผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำฝรั่งเศสได้อ้างการรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ Liberation ว่า อัตราเสียงสนับสนุนร้อยละ 95.5 ได้แสดงให้เห็นว่า แม้สมาชิกรัฐสภาเวียดนามส่วนใหญ่เป็นผู้ชายแต่นางเหงียนถิกิมเงินก็สามารถได้รับเสียงสนับสนุน 472 เสียงในจำนวนทั้งหมด 481 เสียงในการประชุมรัฐสภาเวียดนามครั้งที่ 11 สมัยที่ 13 พร้อมทั้งยืนยันถึงการที่รัฐสภาเวียดนามมีผู้แทนหญิงร้อยละ 25 ซึ่งเป็นอัตราค่อนข้างสูงและมีหลายคนได้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ สถานี RTBF และหนังสือพิมพ์ 7/7ของเบลเยี่ยมก็ออกข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้และย้ำว่า คำสาบานตนของประธานรัฐสภาหญิงคนใหม่คือ “จงรักภักดีต่อปิตุภูมิ ประชาชนและรัฐธรรมนูญประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม” หนังสือพิมพ์ New York Times ของสหรัฐได้ยืนยันว่า การที่นางเหงียนถิกิมเงินได้รับเลือกเป็นประธานรัฐสภาเนื่องจากมีทักษะความสามารถในด้านวิชาการและในการบริหาร รวมทั้งมีบุคลิกภาพที่สง่างาม ส่วนเว็บไซต์ NDTV ของอินเดียได้ชื่นชมการที่รัฐสภาเวียดนามได้ลงคะแนนคัดเลือกนางเหงียนถิกิมเงินเป็นประธานรัฐสภา โดยถือว่านี่เป็น “การเลือกเฟ้นแห่งยุทธศาสตร์”

การที่นางเหงียนถิกิมเงินได้รับเลือกเป็นประธานรัฐสภาเป็นก้าวเดินที่สำคัญในภารกิจด้านความเสมอภาคทางเพศ ซึ่งได้เริ่มขึ้นตั้งแต่การปฏิวัติเดือนสิงหาคมปี 1945 เมื่อประธานโฮจิมินห์ได้ยืนยันถึงการสร้างสรรค์สังคมที่ชายหญิงมีสิทธิ์ที่เท่าเทียมกัน นายเลญือเตี๊ยน สมาชิกรัฐสภาจังหวัดกว๋างจิได้ชื่นชมว่า นับเป็นครั้งแรกที่รัฐสภาเวียดนามมีประธานรัฐสภาเป็นผู้หญิง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวทางการยกย่องบทบาทของสตรีในการชี้นำและบริหารประเทศ ส่วนแนวทางการเพิ่มจำนวนสมาชิกรัฐสภาที่เป็นผู้หญิงขึ้นถึงร้อยละ 30 ยังสอดคล้องกับกระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกด้วย ส่วนนางบุ่ยถิอาน สมาชิกรัฐสภากรุงฮานอยกล่าวว่า “นี่แสดงให้เห็นถึงก้าวเดินที่ยาวไกลด้านความเสมอภาคทางเพศในเวียดนาม สำหรับสตรีเวียดนามและสตรีของภูมิภาค นี่ก็เป็นความภาคภูมิใจเมื่อนางเหงียนถิกิมเงินได้รับเลือกเป็นประธานรัฐสภา”

การที่นางเหงียนถิกิมเงินได้กลายเป็นประธานรัฐสภาหญิงคนแรกยังแสดงเจตนารมณ์แห่งการเป็นประชาธิปไตย โดยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายต่างมีโอกาสได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุด พร้อมทั้งเป็นการยืนยันถึงสติปัญญา ความสามารถและความมุ่งมั่นของสตรีเวียดนามที่พร้อมจะได้รับทุกหน้าที่แม้จะยากลำบากแค่ไหน ตำแหน่งยิ่งสูง หน้าที่ก็ยิ่งหนักหน่วง นางเหงียนถิกิมเงินก็ตระหนักได้ดีถึงหน้าที่ของตนโดยยืนยันอีกครั้งต่อรัฐสภาหลังพิธีสาบานตนว่า “ดิฉันขอจดจำคำสาบานตนนี้เพื่อปฏิบัติหน้าที่และอำนาจของประธานรัฐสภาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย สานต่อเกียรติประวัติอันล้ำค่าของผู้นำรัฐสภารุ่นก่อนๆ ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมาธิการสามัญแห่งรัฐสภาเพื่อปฏิบัติหน้าที่ขององค์การที่เป็นตัวแทนสูงสุดของประชาชนและองค์การที่มีอำนาจสูงสุดของประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างดีที่สุด”

นับเป็นครั้งแรกที่รัฐสภาได้มีประธานรัฐสภาหญิง ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายทางประวัติศาสตร์ในตลอด 70 ปีแห่งการพัฒนาของรัฐสภาเวียดนาม ในฐานะหัวหน้าสำนักงานที่มีอำนาจสูงสุดของรัฐ หวังว่า ประธานรัฐสภาเหงียนถิกิมเงินจะชี้นำและบริหารรัฐสภาให้ปฏิบัติ 3 หน้าที่หลักคือ นิติบัญญัติ การตรวจสอบและตัดสินใจปัญหาสำคัญของประเทศได้ดีที่สุด สมกับความไว้วางใจจากพรรค รัฐและประชาชนเวียดนาม.