ท่่าน เหงียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคฯ ประธานประเทศ

ในฐานะผู้นำประเทศ ในวาระปี 2016-2021 ประธานประเทศได้เสร็จสิ้นหน้าที่ในภารกิจภายในประเทศและด้านการต่างประเทศอย่างลุล่วง

ระดมความสามัคคีของประชาชาติและรักษาอธิปไตยของประเทศ

จากการเชิดชูแนวคิดมหาสามัคคีชนในชาติของประธานโฮจิมินห์ ในวาระปี 2016-2021 ประธานประเทศให้ความสนใจ ดูแลงานด้านการเสริมสร้างและส่งเสริมพลังที่เข้มแข็งของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติต่อภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ การพัฒนาและพิทักษ์รักษาปิตุภูมิอย่างต่อเนื่อง ในการลงพื้นที่ตรวจราชการในท้องถิ่นต่างๆและพบปะกับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง เลขาธิการใหญ่พรรคฯ ประธานประเทศ เหงียนฟู้จ่อง ก็ใช้ช่วงเวลานี้เพื่อศึกษาสถานการณ์การใช้ชีวิต การผลิตของประชาชน รับฟังความคิดเห็น ความปรารถนาและข้อเสนอของประชาชนทุกชั้นชนต่อพรรคและรัฐ จากนั้นได้ทำการพิจารณา แสดงความเห็นและมีข้อเสนอต่อสำนักงานที่เกี่ยวข้องของพรรค รัฐและแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามเพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการปฏิบัตินโยบายมหาสามัคคีชนในชาติ

ในปี 2020 เมื่อโรคโควิด-19 ได้แพร่ระบาดอย่างซับซ้อน ประธานประเทศได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษต่องานด้านการดูแลสุขภาพและสวัสดิการสังคมผ่านการเรียกร้องให้ประชาชนสามัคคีเพื่อต่อสู้การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นี่คือหนึ่งในงานที่มีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่งเพราะได้สร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ให้ความร่วมมือกับสำนักงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับมือการแพร่ระบาด ในฐานะประธานกิตติมศักดิ์ของสภากาชาดเวียดนาม ประธานประเทศได้สั่งให้สภากาชาดเปลี่ยนแปลงใหม่งานด้านมนุษยธรรมเพื่อเป็นสะพานเชื่อมและผู้ประสานงานที่แท้จริงในงานด้านมนุษยธรรม มีส่วนร่วมต่อการปฏิบัตินโยบายสวัสดิการสังคมของพรรคและรัฐ นาย เหงาะยวีเหียว คณะผู้แทนสภาแห่งชาติของกรุงฮานอยได้แสดงความเห็นว่า

“ประธานประเทศได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทการเป็นผู้นำประเทศได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งในนามของรัฐ การปฏิบัติภารกิจในประเทศและต่างประเทศ เป็นสัญลักษณ์แห่งความไว้วางใจและกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ ประธานประเทศมีพลังแห่งการสร้างแรงบันดาลใจที่เข้มแข็ง เป็นปัจจัยที่สำคัญในการสร้างสรรค์จิตใจแห่งการปฏิวัติ ความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ ความสามัคคีภายในองค์กรพรรค ประชาชนและสังคมเพื่อให้ทั่วประเทศร่วมกันฟันฝ่าความยากลำบากของวาระที่เต็มไปด้วยอุปสรรค”

ในฐานะประธานสภากลาโหมและความมั่นคงและผู้นำแห่งเหล่าทัพ ประธานประเทศได้ชี้นำการปฏิบัติมติของคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่ 8 สมัยที่ 11 เกี่ยวกับยุทธศาสตร์พิทักษ์รักษาปิตุภูมิในสถานการณ์ใหม่ มติและคำสั่งของพรรคเกี่ยวกับการค้ำประกันด้านกลาโหม ความมั่นคง การสร้างสรรค์กระบวนการปวงชนร่วมป้องกันประเทศ ตลอดจนการเข้าร่วมชี้นำจัดทำ ปรับปรุงโครงการเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญๆอย่างมีประสิทธิภาพ เช่นยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศ ยุทธศาสตร์การทหารเวียดนามและยุทธศาสตร์การป้องกันชายแดนแห่งชาติ ซึ่งการปฏิบัติภารกิจเหล่านี้ได้มีส่วนช่วยในการรักษาอธิปไตย ความสามัคคี บูรณภาพแห่งดินแดนและอธิปไตยเหนือทะเลและหมู่เกาะอันศักดิ์สิทธิ์ของปิตุภูมิ นาย เหงียนท้ายหอก จากคณะผู้แทนสภาแห่งชาติจังหวัดฟู้เอียนได้ประเมินว่า

“นี่เป็นวาระที่ประเทศต้องเผชิญกับอุปสรรคใหญ่ๆ ซับซ้อนและคาดเดาไม่ได้มากมาย ผู้นำของพรรค รัฐและรัฐบาลต้องเน้นชี้นำอย่างเคร่งครัดด้วยก้าวเดินและวิธีการปฏิบัติที่เหมาะสมเพื่อผลงานในระดับสูงสุดและมั่นคงที่สุด นอกจากนี้ นี่ยังเป็นความพยายามและความมุ่งมั่นเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อรักษาความมั่นคงทางการเมืองและความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคม ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการนำของพรรคและรัฐนับวันได้รับการเสริมสร้างมากขึ้น”

นาย เหงาะยวีเหียว คณะผู้แทนสภาแห่งชาติของกรุงฮานอย

ยกระดับสถานะด้านการต่างประเทศและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก

ในช่วงปี 2016-2021 ในนามของรัฐ ประธานประเทศได้ตัดสินใจเจรจาและลงนามสนธิสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ ยื่นเสนอให้สภาแห่งชาติพิจารณา ให้สัตยาบันการเข้าร่วมสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่สำคัญหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับพรมแดน ความร่วมมือทางการค้าและการลงทุน ซึ่งผู้แทนสภาแห่งชาติส่วนใหญ่เห็นพ้องอนุมัติ

ประธานประเทศยังเข้าร่วมกิจกรรมด้านการต่างประเทศที่สำคัญอีกมากมายซึ่งมีส่วนร่วมต่อการปฏิบัติแนวทางด้านการต่างประเทศของพรรคและรัฐ ยกระดับสถานะและชื่อเสียงของเวียดนามในภูมิภาคและโลก ในฐานะประเทศเจ้าภาพปีเอเปก 2017 ประธานประเทศได้เป็นประธานการประชุมผู้นำเอเปก 2017 ในสภาวการณ์ที่โรคโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดอย่างซับซ้อน ประธานประเทศได้มีกิจกรรมด้านการต่างประเทศในเชิงรุกและเหมาะสม มีส่วนร่วมผลักดันและทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับประเทศต่างๆมีความลึกซึ้งมากขึ้น อีกทั้งยืนยันว่า เวียดนามมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งเป็นฝ่ายรุกและมีความรับผิดชอบต่อส่วนงานของประชาคมโลก

อาจกล่าวได้ว่า ปี 2016-2021 เป็นวาระที่ประสบความสำเร็จด้วยนิมิตหมายในการชี้นำของประธานประเทศ ซึ่งได้มีส่วนร่วมส่งเสริมพลังที่เข้มแข็งของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ ปลุกเร้าจิตใจแห่งความรักชาติ การพึ่งพาตนเองและความมุ่งมั่นพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองและมีความสุข./.