ในตลอด 25 ปีแห่งการจัดตั้งและพัฒนา ฟอรั่มเอเปกได้กลายเป็นกลไกความร่วมมือด้านเศรษฐกิจชั้นนำในภูมิภาคและโลกที่เดินหน้ากระบวนการลงทุนและการค้าเสรีและผลักดันความร่วมมือระหว่างภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่โลกมีการผันผวนอย่างซับซ้อนและแนวโน้มการเชื่อมโยงในภูมิภาคที่นับวันเพิ่มมากขึ้น บทบาทของเอเปกจึงมีความสำคัญมากขึ้นและต้องได้รับการขยายเพื่อผลประโยชน์ของประเทศต่างๆ รวมทั้งการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนและความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งในฐานะประเทศเจ้าภาพจัดปีเอเปก 2017 หน้าที่ของเวียดนามคือพยายามแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ยุทธศาสตร์เกี่ยวกับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่กำลังพัฒนาอย่างเข้มแข็ง

หัวข้อของปีเอเปก 2017 คือ “สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่เพื่อร่วมกันสร้างอนาคตที่งดงาม” ได้แสดงให้เห็นถึงแนวทางการพัฒนาของเอเปกในระยะใหม่และความปรารถนาของประเทศสมาชิกเอเปกในการสร้างพลับขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การขยายตัวด้านเศรษฐกิจ การค้า ตลอดจนการขยายความร่วมมือในด้านใหม่ๆและกระชับความเชื่อมโยงในภูมิภาคในเชิงลึก ควบคู่กันนั้นคือการวางวิสัยทัศน์ของเอเปกหลังปี 2020 เพื่อยกระดับสถานะของเอเปกและมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ประชาคมเอเชีย-แปซิฟิกที่สันติภาพ เสถียรภาพ พัฒนาและเจริญรุ่งเรือง นาย Alain Bollard ผู้อำนวยการคณะเลขาธิการเอเปกได้เผยว่า“ปีเอเปก 2017 จะสร้างความท้าทายไม่น้อยต่อเวียดนามโดยในที่ประชุมผู้นำเอเปกปี 2016 ณ ประเทศเปรูได้วางแนวทางผลักดันการผสมผสานด้านเศรษฐกิจและต่อต้านการคุ้มครองการค้าต่อไป ดังนั้นเราหวังว่า ปีเอเปก 2017 เวียดนามจะสามารถส่งเสริมบทบาทการเป็นผู้นำของตนเพื่อสร้างความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ ผลักดันโครงการส่งเสริมการค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและมีการเสนอข้อคิดริเริ่มใหม่ๆ ผมเชื่อมั่นว่า เวียดนามจะปฏิบัติหน้าที่ประธานเอเปก 2017 เป็นอย่างดี”

ความเชื่อมั่นของเพื่อนมิตรชาวต่างชาติที่มีต่อเวียดนามนั้นมาจากผลสำเร็จของเวียดนามในการปฏิบัติภารกิจ Đổi mới หรือ เปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศในตลอด 30ปีและส่วนร่วมที่เข้มแข็งของเวียดนามในกรอบเอเปกและกลไกความร่วมมือพหุภาคีอื่นๆในเวลาที่ผ่านมา  ดังนั้น ในฐานะเป็นเจ้าภาพปีเอเปก 2017 เวียดนามจะเน้นเสนอข้อคิดริเริ่มต่างๆบนเจตนารมณ์แห่งการเข้าร่วมในเชิงรุกและเป็นผู้ริเริ่มกิจกรรมต่างๆเพื่อตอบสนองความต้องการของเอเปก เอกอัครราชทูต เหงวียนเหงียดงา ที่ปรึกษาระดับสูงของคณะเลขาธิการเอเปกเวียดนาม 2017 ได้ยืนยันว่า“ข้อคิดริเริ่มต่างๆต้องเน้นในประเด็นสำคัญๆที่เอเปกให้ความสนใจเป็นอันดับแรกและสอดคล้องกับความต้องการขยายตัวและความเชื่อมโยงในภูมิภาค โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการขยายตัวที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น เวียดนามต้องเสนอข้อคิดริเริ่มเกี่ยวกับการขยายตัวที่มีประสิทธิภาพ ความเชื่อมโยงและการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจ ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการพัฒนาของเวียดนามและความต้องการของเอเปกในปัจจุบัน นอกจากนี้ ต้องเสนอข้อคิดริเริ่มที่สนับสนุนสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมและการฝึกอบรมแหล่งบุคลากรในยุคดิจิตอล”

การเป็นเจ้าภาพจัดปีเอเปก 2017 คือหนึ่งในประเด็นที่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆในแนวทางการต่างประเทศของเวียดนามจนถึงปี 2020  ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเวียดนามในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึกและการยกระดับการทูตพหุภาคี จากประสบการจัดการประชุมเอเปกเมื่อปี 2006 บวกกับการยกระดับสถานะของเวียดนามให้นับวันยิ่งสูงเด่นบนเวทีโลก การเป็นเจ้าภาพจัดปีเอเปกเวียดนาม 2017 ถือเป็นส่วนร่วมที่สำคัญของเวียดนามต่อฟอรั่มเอเปกในสภาวการณ์ใหม่และมุ่งสู่การรำลึกครบรอบ 20ปีเวียดนามเข้าเป็นสมาชิกของเอเปก นี่ก็เป็นโอกาสเพื่อให้เวียดนามและประเทศสมาชิกอาเซียนกระชับความสัมพันธ์มิตรภาพ ความร่วมมือและการเชื่อมโยงกับบรรดาประเทศหุ้นส่วน รวมถึงสถานประกอบการและเพื่อนมิตรในภูมิภาค นาย บุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ยืนยันว่า“ปีเอเปก 2017 คือโอกาสให้เวียดนามประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของเศรษฐกิจสมาชิกที่เปลี่ยนแปลงใหม่ มีความคล่องตัว มีศักยภาพและผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกอย่างเข้มแข็ง คนเวียดนามมีอัธยาศัยดีและรักสันติภาพ นี่ก็เป็นโอกาสเพื่อให้สถานประกอบการ ท้องถิ่นต่างๆ รวมถึงประชาชนเวียดนามมีส่วนร่วมต่อความร่วมมือในกรอบของเอเปกและมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับผลประโยชน์จากการเป็นสมาชิกของเอเปก”

ในสภาวการณ์ที่เวียดนามกำลังแสวงหาแหล่งพลังจากต่างประเทศเพื่อปฏิบัติยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมระยะปี 2011-2020 กิจกรรมปีเอเปก 2017 จะสร้างโอกาสให้ท้องถิ่นและชมรมสถานประกอบการเวียดนามได้แลกเปลี่ยนและประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ประเทศเวียดนามที่เปลี่ยนแปลงใหม่ มีศักยภาพการพัฒนาอย่างคล่องตัวและกำลังผสมผสานเข้ากับกระแสโลกในรอบด้านด้วยสถานะใหม่.