(VOVWORLD) - มติของที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 13 ได้กำหนด 1 ใน 3 ก้าวกระโดดเชิงยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศคือ เน้นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลและโทรคมนาคม เพื่อปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลแห่งชาติ พัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมดิจิทัล จากการแปรมติเข้าให้เป็นการปฏิบัติ นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการพัฒนาการประยุกต์ใช้ฐานข้อมูลเกี่ยวกับประชากร การระบุตัวตน การพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อสนับสนุนการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลแห่งชาติในช่วงปี 2022-2025 วิสัยทัศน์ถึงปี 2030 หรือเรียกว่า โครงการ 06
การประชุมทั่วประเทศสรุปผลการปฏิบัติงานใน 6 เดือนแรกของปี 2023 เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลแห่งชาติและโครงการ 06 ของรัฐบาลผ่านรูปแบบออนไลน์ (VGP) |
หลังจากปฏิบัติโครงการมาเป็นเวลากว่า 1 ปี เศรษฐกิจดิจิทัลมีสัดส่วนในระดับสูงในอุตสาหกรรมและท้องถิ่นหลายแห่ง โดยเฉพาะ ฐานข้อมูลแห่งชาติเกี่ยวกับประชากรมีการเชื่อมโยงกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งมีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่ง นำมาซึ่งการปฏิรูปที่เป็นก้าวกระโดดเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
ถือประชาชนและสถานประกอบการเป็นเป้าหมายและเป็นปัจจัยหลักของการพัฒนา
ปัจจุบัน โรงพยาบาลดึ๊กยาง เขตลองเบียนในกรุงฮานอยได้เปิดให้ผู้ป่วยที่มีบัตรประกันสุขภาพเข้าตรวจและรักษาโรคด้วยการแสดงบัตรประจำตัวประชาชนแบบชิปการ์ดหรือแอพพลิเคชัน VneID โดยไม่ต้องพกบัตรประกันสังคม นาย เหงียนแหม่งหุ่ง ที่มาตรวจสุขภาพ ณ โรงพยาบาลดึ๊กยางได้เผยว่า
“เมื่อก่อนไปหาหมอต้องเอาบัตรประกันสุขภาพไปด้วย นับตั้งแต่มีบัตรประจำตัวประชาชนแบบชิปการ์ดไปไหนมาไหน ก็พกแค่บัตรนี้เท่านั้น ซึ่งทำให้สะดวกสบายเมื่อเข้ารับบริการ ”
นาย เหงียนหว่างเฟือง รองผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศของประกันสังคมเวียดนามเผยว่า โครงการ 06 เป็นโครงการสำคัญในการปรับเปลี่ยนเข้ายุคดิจิทัล อำนวยความสะดวก ให้บริการที่เป็นประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมแก่ประชาชนและสถานประกอบการอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จนถึงขณะนี้ สำนักงานประกันสังคมเวียดนามได้ระบุข้อมูลประชากรกว่า 83 ล้านคนในฐานข้อมูลประกันสังคมเวียดนามที่เชื่อมกับฐานข้อมูลประชากรแห่งชาติ อีกทั้ง แลกเปลี่ยนและให้ข้อมูลการประกันสุขภาพกว่า 107 ล้านรายการกับฐานข้อมูลประชากรแห่งชาติ นาย เหงียนหว่างเฟือง เผยว่า
“ประกันสังคมมีการใช้บริการสาธารณะทางอิเล็กทรอนิกส์เฉลี่ย 300 ล้านครั้งต่อปี ซึ่งเกือบ 200 ล้านครั้งเป็นการตรวจสุขภาพและการรักษาโรค ถ้าหากครึ่งหนึ่งใช้ข้อมูลบัญชีระบุตัวตน หรือใช้ทางอิเล็กทรอนิกส์ จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าธรรมเนียมในการทำระเบียบราชการให้แก่ประชาชน ลดค่าใช้จ่ายของสำนักงานภาครัฐ อำนวยความสะดวก สร้างความโปร่งใสและค้ำประกันระยะเวลาในการดำเนินการ”
การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในบริการสาธารณะของประเทศได้สร้างก้าวกระโดดที่เข้มแข็งในการให้บริการต่าง ๆ เช่น การทำหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ใบอนุญาตการขับรถ การแจ้งภาษีและการจดทะเบียนขอไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ทำให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม เช่น ช่วยให้ประชาชนและลูกค้าได้รับความสะดวก ประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาเดินทาง ไม่ต้องพิมพ์ หรือจัดเก็บเอกสารที่เป็นกระดาษ นาย หวอกวางเลิม รองผู้อำนวยการใหญ่กลุ่มบริษัทไฟฟ้าเวียดนาม เผยว่า
“นี่เป็นก้าวกระโดดในกระบวนการให้บริการไฟฟ้า อำนวยความสะดวกและสร้างความโปร่งใส โดยเฉพาะ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาให้แก่ประชาชนและสถานประกอบการเพื่อให้มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าให้เร็วที่สุด นอกจากเชื่อมโยงกับท้องถิ่นต่างๆเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้แก่ประชาชนในการใช้บริการสาธารณะระดับประเทศผ่านเว็บไซต์แล้ว เรายังเชื่อมโยงกับหุ้นส่วนซึ่งเป็นธนาคาร องค์กรที่เป็นตัวกลาง และหน่วยงานอื่นๆ เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มเหล่านี้และสร้างความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า”
นาย หวอกวางเลิม รองผู้อำนวยการใหญ่กลุ่มบริษัทไฟฟ้าเวียดนาม (dangcongsan.vn) |
สร้างพื้นฐานเพื่อปรับเปลี่ยนเข้ายุคดิจิทัลให้ประสบความสำเร็จ
ปัจจุบัน ฐานข้อมูลประชากรของเวียดนามได้เชื่อมต่อกับกระทรวงและหน่วยงาน 13 แห่ง สถานประกอบการภาครัฐ 1 แห่ง สถานประกอบการด้านโทรคมนาคม 3 แห่งและท้องถิ่น 63 แห่งเพื่อยืนยันความถูกต้อง และเพิ่มฐานข้อมูลประชากรที่มีการใช้บริการกว่า 1 พันล้านครั้งเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม จนถึงเดือนมิถุนายนปีนี้ มีเอกสารกว่า 212 ล้านรายการถูกระบุเข้าระบบเว็บไซต์ให้บริการสาธารณะแห่งชาติ ซึ่งในนั้น มีเอกสารกรอกออนไลน์กว่า 18 ล้านรายการ สำหรับบริการสาธารณะ 25 รายการที่ดำเนินการในสภาพแวดล้อมอิเล็กทรอนิกส์ มีบริการสาธารณะจำนวนมากที่มีอัตราให้บริการออนไลน์ที่อยู่ในระดับสูง เช่น การแจ้งการเข้าพักบรรลุร้อยละ 99.9 และการลงทะเบียนผู้พำนักถาวรบรรลุเกือบร้อยละ 90
มติของที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯ สมัยที่ 13 ได้ระบุว่า การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลเป็นหนึ่งใน 3 เสาหลักและเป็นก้าวกระโดดเพื่อให้เวียดนามพัฒนาอย่างรวดเร็วและยั่งยืน ในการประชุมทั่วประเทศสรุปผลการปฏิบัติงานใน 6 เดือนแรกของปี 2023 เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลแห่งชาติและโครงการ 06 ของรัฐบาลผ่านรูปแบบออนไลน์ นาย ฝ่ามมิงชิ้ง นายกรัฐมนตรี ได้ชี้ชัดว่า
“โครงการ 06 เป็นหน้าที่สำคัญมาก ดังนั้น ต้องระดมพลังทุกแหล่งและการเข้าร่วมของทั้งระบบการเมือง ประชาชนและชุมชนสถานประกอบการ ถือประชาชนและสถานประกอบการเป็นศูนย์กลางและเจ้าของ เร่งปฏิบัติกลไกเป็นการนำร่องเพื่อขยายผลในเวลาที่จะถึง บนเจตนารมณ์แห่งการชี้นำและบริหารอย่างเคร่งครัด สร้างก้าวกระโดดที่เข้มแข็งในการปฏิบัติการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและการปฏิบัติโครงการ 06”
ครึ่งวาระของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯ สมัยที่ 13 ได้ผ่านพ้นไป การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลแห่งชาติได้สร้างก้าวกระโดดที่เข้มแข็งใน 3 ด้านหลักคือ รัฐบาลดิจิทัล - เศรษฐกิจดิจิทัล - สังคมดิจิทัล ซึ่งในนั้น การจัดทำและปฏิบัติโครงการ 06 ให้ประสบความสำเร็จเป็นพื้นฐานที่สำคัญเพื่อปฏิบัติมติของที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯสมัยที่ 13 ให้ประสบความสำเร็จ ครึ่งวาระได้ผ่านพ้นไปถึงแม้จะยังคงประสบอุปสรรคและความท้าทายมากมาย เมื่อปฏิบัติโครงการ 06 แต่การเข้าร่วมอย่างเข้มแข็งของทั้งระบบการเมืองและความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ของประชาชนและสถานประกอบการ การปฏิบัติโครงการ 06 จะยังคงเป็นแรงผลักดันที่สำคัญต่อไป มีส่วนร่วมยกระดับความมีประสิทธิภาพในการบริหารภาครัฐ อำนวยความสะดวกให้ดีที่สุดแก่ประชาชนและสถานประกอบการในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม.