พินัยกรรมของประธานโฮจิมินห์-แสงสว่างของสติปัญญาและความเชื่อมั่น
Le Hang/VOV -  
(VOVworld)-ประธานโฮจิมินห์ ผู้นำที่ยอดเยี่ยมของประชาชาติเวียดนามก่อนที่ท่านจากไปอย่างไม่วันกลับเมื่อ๔๕ปีก่อนท่านได้ทิ้งมรดกแห่งแนวคิดที่ล้ำค่าให้แก่ประชาชาติเวียดนามหลายอย่างซึ่งในนั้นมีพินัยกรรมที่ไม่เพียงแต่เป็นเอกสารที่มีคุณค่าแห่งประวัติศาสตร์เท่านั้นหากยังเปี่ยมด้วยความหมายแห่งยุคสมัยที่ลึกซึ้งในภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์ปิตุภูมิในปัจจุบันอีกด้วย
(VOVworld)-ประธานโฮจิมินห์ ผู้นำที่ยอดเยี่ยมของประชาชาติเวียดนามก่อนที่ท่านจากไปอย่างไม่วันกลับเมื่อ๔๕ปีก่อนท่านได้ทิ้งมรดกแห่งแนวคิดที่ล้ำค่าให้แก่ประชาชาติเวียดนามหลายอย่างซึ่งในนั้นมีพินัยกรรมที่ไม่เพียงแต่เป็นเอกสารที่มีคุณค่าแห่งประวัติศาสตร์เท่านั้นหากยังเปี่ยมด้วยความหมายแห่งยุคสมัยที่ลึกซึ้งในภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์ปิตุภูมิในปัจจุบันอีกด้วย
ประธานโฮจิมินห์ ผู้นำที่ยอดเยี่ยมของประชาชาติเวียดนาม
|
ในพินัยกรรมนั้น ประธานโฮจิมินห์ได้เขียนไว้ว่า การต่อสู้กับสหรัฐอเมริกาเพื่อกู้ชาติของประชาชนเวียดนามนั้นแม้จะต้องสูญเสียและประสบกับความลำบากยากเข็ญมามากแต่ในที่สุดก็จะประสบชัยชนะอย่างแน่นอน พร้อมทั้งได้ยืนยันว่าความสามัคคีคือเกียรติประวัติอันล้ำค่าของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและกำชับให้สมาชิกพรรคทุกคนต้องรักษาความสามัคคี ความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ภายในพรรคเสมือนการรักษาดวงตาของตนเอง ซึ่งตามความเห็นของประธานโฮจิมินห์ พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามต้องพยายามส่งเสริมประชาธิปไตย ทำการวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นอย่างจริงจังและสม่ำเสมอ สมาชิกพรรคแต่ละคนต้องตระหนักถึงคุณธรรมแห่งการปฏิวัติอย่างลึกซึ้ง รักษาองค์กรพรรคที่บริสุทธิ์เข้มแข็งสมกับการเป็นทั้งผู้นำและเป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของประชาชน นอกจากนี้ในพินัยกรรม ประธานโฮจิมินห์ยังมีคำสั่งสอนที่มีค่าสำหรับชาวเวียดนามทุกชั้นชน ทุกหมู่เหล่า
ปัญหาการสร้างสรรค์พรรคมีความหมายทางทฤษฏีอย่างลึกซึ้ง
พินัยกรรมของประธานโฮจิมินห์มิใช่เป็นพินัยกรรมฉบับธรรมดาทั่วไปเท่านั้นหากเนื้อหาต่างๆที่ท่านได้บันทึกไว้ได้กลายเป็นประทีบนำทางเพื่อให้พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามนำพาประชาชนเวียดนามก้าวเดินต่อไปจนถึงจุดมุ่งหมายนั่นคือชัยชนะเหนือจักรวรรดินิยมอเมริกาและเป็นการนำทางในเชิงวิชาการให้แก่กระบวนการสร้างสรรค์และปรับปรุงองค์กรพรรค ท่านได้พยากรณ์ไว้ล่วงหน้าถึงอุปสรรคความท้าทายที่ต้องรับมือเมื่อประเทศรวมเป็นหนึ่งเดียว ท่านเชิดชูคุณค่าที่พรรคต้องให้ความสนใจในการปฏิบัติหน้าที่วิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่น ซึ่งคำแนะนำเหล่านี้ถือว่าเปี่ยมด้วยความหมายและคุณค่าที่เป็นรูปธรรมในกระบวนการสร้างสรรค์พรรคในหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อเวียดนามกำลังปฏิบัติมติการประชุมครั้งที่๔คณะกรรมการกลางพรรคเกี่ยวกับปัญหาที่เร่งด่วนในกระบวนการสร้างสรรค์องค์กรพรรคปัจจุบัน ศ.ดร. หว่างชี้บ๋าว สมาชิกสภาทฤษฏีส่วนกลางได้เผยว่า“พรรคต้องเน้นหน้าที่การวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นเป็นหลักเพื่อช่วยกันพัฒนาก้าวหน้า ซึ่งนี่คือวิธีการที่ประธานโฮจิมินห์เห็นว่ามีประโยชน์อย่างจริงจังต่อการพัฒนาองค์กรพรรค โดยแต่ละคนต้องตระหนักถึงการปฏิบัติการวิจารณ์ตนเองก่อนและงานนี้ต้องอาศัยพื้นฐานจิตใจแห่งมิตรสหายที่รักใคร่กลมเกลียวกัน ซึ่งผมเห็นว่านี่คือสิ่งที่เราควรประยุกต์ใช้”
ลายมือของประธานโฮจิมินห์ในพินัยกรรม
|
เพียงในประโยคสั้นๆไม่กี่บรรทัดของพินัยกรรม ประธานโฮจิมินห์ได้ย้ำถึงคำว่า “จริง” ถึง๔ครั้งเมื่อพูดถึงงานด้านการสร้างสรรค์และปรับปรุงพรรค สิ่งนี้ได้แฝงไว้ซึ่งควาหมายที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการต่อต้านลัทธิบุคคลนิยมเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว โดยท่านได้ยืนยันว่าหากพรรคที่กุมอำนาจอยากทำหน้าที่ให้สมกับความไว้วางใจของทั้งประชาชาตินั้น สมาชิกแต่ละคนต้องทำตัวเป็นแบบอย่างทั้งด้านคุณธรรมการปฏิวัติและความสามัคคี ในส่วนเกี่ยวกับความสามัคคีและความเป็นเอกฉันท์ในพรรค ประธานโฮจิมินห์ได้เขียนว่า “สามัคคีคือเกียรติประวัติอันดีงามของพรรคและประชาชนเวียดนาม สหายทุกคนตั้งแต่ระดับส่วนกลางจนถึงระดับท้องถิ่นต้องรักษาความสามัคคี ความเห็นพ้องต้องกันภายในพรรคเสมือนการรักษาดวงตาของตน” ความสามัคคีความเห็นพ้องในพรรคมีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่งในทุกระยะแห่งการพัฒนาของประเทศ ดร.เหงวียนแบ๊กควา เลขาธิการพรรคอ.ลองโห่ จ.หวิงลองมีความเห็นว่า“โอวาทของประธานโฮจิมินห์นับวันยิ่งมีความหมายโดยเฉพาะในปัญหาทะเลตะวันออกที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งเราต้องทำอย่างไรเพื่อเสริมสร้างความสามัคคี ความเห็นพ้องกันในองค์กรพรรคและในหมู่ประชาชน และความสามัคคีนั้นจะต้องเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณตามแนวคิดโฮจิมินห์ในยุคใหม่”
ความหมายในเชิงวิทยาศาสตร์ มนุษยศาสตร์และการแนะแนวปฏิบัติ
พินัยกรรมของประธานโฮจิมินห์สามารถเปรียบได้กับหลักนโยบายทางการเมืองแต่ท่านแค่เรียกว่านี่คือจดหมายที่ท่านอยากฝากถึงประชาชนและมิตรสหายเท่านั้น ซึ่งการแสดงออกอย่างถ่อมตัวของท่านยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงบุคลิกภาพที่สูงส่งของผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่ได้สละทั้งชีวิตเพื่อชาติเพื่อประชาชน โดยเฉพาะในเนื้อหาสำคัญของพินัยกรรมประธานโฮจิมินห์ได้ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกต่อผลประโยชน์ของประชาชน สิทธิผลประโยชน์ของประชาชาติอยู่ในอันดับสูงสุดและปิตุภูมิจะอยู่เหนือกว่าสิ่งอื่นใด ในท้ายสุดท่านได้แสดงความปรารถนาว่าทั้งพรรคและมวลประชาชนจงส่งเสริมความสามัคคีเพื่อสร้างสรรค์ประเทศเวียดนามที่สันติภาพ เอกภาพ เอกราชและเจริญรุ่งเรือง
โอวาทของประธานโฮจิมินห์ที่ระบุในพินัยกรรมคือหลักนโยบายอันล้ำค่า เป็นการสร้างพลังแห่งจิตใจเพื่อช่วยให้ประชาชนเวียดนามฝ่าฟันอุปสรรค ใช้โอกาสได้อย่างเต็มที่เพื่อพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนตามแนวทางที่ทันสมัย ประเทศเจริญเข้มแข็ง มีเอกราช เป็นตัวของตัวเองและประชาชนมีความมั่งคั่งคือสิ่งที่ประธานโฮจิมินห์ได้ทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อปฏิบัติให้แก่ประชาชาติเวียดนาม./.
Le Hang/VOV