(VOVWORLD) -ตามคำเชิญของประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม เวืองดิ่งเหวะ ประธานรัฐสภาสิงคโปร์ Tan Chuan-Jin พร้อมภริยาและคณะผู้แทนรัฐสภาสิงคโปร์จะเดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 18 -20 พฤษภาคมนี้ นี่เป็นการเยือนเวียดนามหลังการเยือนสิงคโปร์ของประธานประเทศ เหงวียนซวนฟุกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา การเยือนครั้งนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงคำมั่นที่เข้มแข็งของทั้งสองฝ่ายในการผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-สิงคโปร์และความร่วมมืออย่างใกล้ชิดเพื่อมุ่งสู่การฟื้นฟูหลังวิกฤตโควิด -19
ประธานรัฐสภาสิงคโปร์ Tan Chuan-Jin (Photo: edwiretimes.com) |
การเยือนเวียดนามของประธานรัฐสภาสิงคโปร์มีขึ้นในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานและหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-สิงคโปร์กำลังพัฒนาอย่างดีงามในทุกด้าน รวมทั้ง ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างรัฐสภาทั้งสองประเทศในเวลาที่ผ่านมา
การส่งเสริมบทบาทของสำนักงานนิติบัญญัติในการผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคี
การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของประธานรัฐสภาสิงคโปร์ Tan Chuan-Jin เป็นกิจกรรมทางการเมืองและการต่างประเทศที่สำคัญระหว่างสภาแห่งชาติเวียดนามกับรัฐสภาสิงคโปร์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสำนักงานนิติบัญญัติของทั้งสองประเทศ
ในเวลาที่ผ่านมา ความร่วมมือระหว่างรัฐสภาทั้งสองประเทศได้รับการผลักดัน ซึ่งในนั้น มีผลการเจรจาผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ระหว่างประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะกับประธานรัฐสภาสิงคโปร์ Tan Chuan-Jin เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2021 สภาแห่งชาติสมัยที่ 15 ของเวียดนามได้จัดตั้งกลุ่มส.ส.มิตรภาพเวียดนาม-อาเซียน ซึ่งเป็นสะพานเชื่อมเพื่อผลักดันการพบปะสังสรรค์ระหว่างผู้แทนสภาแห่งชาติเวียดนามกับส.ส.ประเทศอาเซียน รวมทั้ง สิงคโปร์ และมีส่วนร่วมผลักดันการพบปะสังสรรค์ระดับประชาชนทั้งสองประเทศ
ความร่วมมือระหว่างรัฐสภาทั้งสองประเทศได้มีส่วนร่วมผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคี โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการจัดทำกลไก การปรับปรุงระบบกฎหมายให้สมบูรณ์ มีส่วนร่วมต่อการผลักดันการเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจ การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมดิจิทัล
การที่ทั้งสองประเทศผลักดันการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการประกาศใช้นโยบายและกฎหมายอย่างทันการณ์เพื่อสนับสนุนรัฐบาลทั้งสองประเทศในการปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนและการประกอบธุรกิจเพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ-สังคมหลังวิกฤตโควิด -19 ทำการหารือเพื่อมุ่งสู่การลงนามข้อตกลงความร่วมมือระหว่างรัฐสภาทั้งสองประเทศเป็นพื้นฐานเพื่อปฏิบัติกิจกรรมความร่วมมือให้สมกับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ รัฐสภาทั้งสองประเทศสนับสนุนรัฐบาลปฏิบัติข้อตกลงความร่วมมือทวิภาคีต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพสูงที่สุด
ในด้านพหุภาคี รัฐสภาทั้งสองประเทศธำรงการพบปะสังสรรค์ในกรอบของฟอรั่มต่างๆ เช่น สหภาพรัฐสภาอาเซียนหรือ AIPA สหภาพรัฐสภาโลกหรือ IPU ทาบทามความคิดเห็นระหว่างกัน สนับสนุนจุดยืนร่วมของอาเซียนเกี่ยวกับการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออก การแก้ไขปัญหาการพิพาทผ่านมาตรการที่สันติบนพื้นฐานของกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982
ร่วมกันพัฒนา
ความสัมพันธ์ระหว่างสิงคโปร์กับเวียดนามนับวันได้รับการพัฒนาอย่างเข้มแข็งนับตั้งแต่ที่ทั้งสองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี 1973 สิงคโปร์เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนที่สำคัญต่อการพัฒนาของเวียดนาม ภายหลังเกือบ 9 ปีที่สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศกำลังพัฒนาในทุกด้าน ซึ่งก้าวพัฒนาอย่างรวดเร็วและเข้มแข็งของความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะ ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจยังคงเป็นจุดเด่นของความสัมพันธ์ร่วมมือและการเชื่อมโยงในภูมิภาค ปัจจุบัน สิงคโปร์เป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับ 2 ของเวียดนาม รวมยอดเงินลงทุนจดทะเบียนอยู่ที่กว่า 6 หมื่น 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา เขตนิคมอุตสาหกรรมเวียดนาม-สิงคโปร์ดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีส่วนร่วมต่อความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศ
ทั้งสองประเทศมีความประสงค์ที่จะธำรงความสัมพันธ์หุ้นส่วนในอนาคตผ่านการขยายความร่วมมือในด้านใหม่ เช่น ผลักดันความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ความมั่นคงทางอินเตอร์เน็ต ตัวเมืองอัจฉริยะและการชำระเงินดิจิทัล สิงคโปร์มีความประสงค์ที่จะร่วมมือกับเวียดนามในการพัฒนาอย่างยั่งยืนเมื่อเวียดนามผลักดันการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานอย่างยั่งยืนและพลังงานหมุนเวียน มุ่งสู่เป้าหมายการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ให้อยู่ที่ 0% ภายในปี 2050 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ เหงวียนห่งเยียนได้ประเมินแนวโน้มการลงทุนของสถานประกอบการสิงคโปร์ว่า
“บรรดานักลงทุนให้ความสนใจต่อการผลิตไฮโดรเจนจากพลังงานสะอาดและเวียดนามกำลังอยากพัฒนาตามแนวทางนี้เพราะพวกเราอยากใช้ศักยภาพและจุดแข็งของเขตต่างๆในการพัฒนาพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ พัฒนาพลังงานใหม่คือการผลิตไฮโดรเจน”
บรรดาผู้นำสิงคโปร์ได้ยืนยันหลายครั้งว่า ให้ความสำคัญและมีความประสงค์ที่จะพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับเวียดนามในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี ซึ่งผลงานนี้มาจากความไว้วางใจอย่างสูงในระดับการเมือง ความสัมพันธ์หุ้นส่วนที่มีมาช้านานและความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ ซึ่งการเยือนเวียดนามครั้งนี้ของประธานรัฐสภาสิงคโปร์ Tan Chuan-Jin จะสานต่อเกียรติประวัตินี้ สร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาความร่วมมือทวิภาคีในเวลาที่จะถึง.