ระยะพัฒนาใหม่ในความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรป
(VOVworld) – เวียดนาม-สหภาพยุโรปได้ลงนามในข้อตกลงหุ้นส่วนและความร่วมมือในทุกด้านหรือPCAระหว่างเวียดนามกับEUและเริ่มทำการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคีหรือ FTA ซึ่งได้เปิดระยะใหม่ในความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างเวียดนามกับEUและเป็นเงื่อนไขล่วงหน้าที่สำคัญเพื่อให้เวียดนามและEUวางระเบียบการร่วมมือที่เป็นรูปธรรมมีส่วนร่วมขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนและความร่วมมือทวิภาคีในอนาคต
(VOVworld) – วันที่๒๗เดือนนี้ ณ กรุงบรัสเซล ประเทศเบลเยี่ยม นายPhạm Bình Minhรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามและนาง Catherine Ashton สมาชิกระดับสูงดูแลนโยบายความมั่นคงและการต่างประเทศของสหภาพยุโรปหรือEUได้ลงนามในข้อตกลงหุ้นส่วนและความร่วมมือในทุกด้านหรือPCAระหว่างเวียดนามกับEUและเริ่มทำการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคีหรือ FTAซึ่งได้เปิดระยะใหม่ในความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างเวียดนามกับEUและเป็นเงื่อนไขล่วงหน้าที่สำคัญเพื่อให้เวียดนามและEUวางระเบียบการร่วมมือที่เป็นรูปธรรมมีส่วนร่วมขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนและความร่วมมือทวิภาคีในอนาคต
|
ธงชาติของเวียดนามและธงEU ( Photo:Internet) |
(VOVworld) – ข้อตกลงหุ้นส่วนและความร่วมมือในทุกด้านหรือPCAมี๘บรรพ๖๕มาตราโดยยืนยันหลักการขั้นพื้นฐานในความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่าย กำหนดกรอบของความร่วมมือในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือเพื่อการพัฒนา การค้า การลงทุน ความร่วมมือด้านตุลาการ การผดุงรักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ นายFranz Jessen เอกอัครราชทูต หัวหน้าสำนักงานคณะผู้แทนคณะกรรมการยุโรปหรือECประจำเวียดนามกล่าวว่า เมื่อเทียบกับข้อตกลงโครงเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับEC ที่ได้รับการลงนามเมื่อปี๑๙๙๕แล้ว ข้อตกลงPCAที่เวียดนามและEUลงนามกันครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างเข้มแข็งของความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายในตลอดกว่า๒๐ปีที่ผ่านมาและช่วยส่งเสริมให้ความสัมพันธ์ย่างเข้าสู่ระยะใหม่โดยมีกรอบความร่วมมือที่กว้างขวางและลึกซึ้งยิ่งขึ้นสอดคล้องกับสถานะบทบาทใหม่ของ EUและสถานะ บทบาทของเวียดนามที่นับวันยิ่งสูงเด่นบนเวทีโลก เนื้อหาในPCAมีความสมบูรณ์รอบด้าน สะท้อนให้เห็นถึงการประสานผลประโยชน์และปัญหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆของทั้งสองฝ่าย เอกอัครราชทูต Franz Jessenกล่าวว่า “ความสัมพันธ์ของพวกเราได้มีการพัฒนาพอสมควร เมื่อ๒๐ปีก่อน ทั้งสองฝ่ายได้เริ่มสถาปนาความสัมพันธ์ซึ่งเป็นเพียงด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนา เศรษฐกิจและการลงทุนเท่านั้น แต่จนถึงปัจจุบันความสัมพันธ์ร่วมมือได้รับการขยายให้ครอบคลุมด้านการเมือง ส่วนการลงนามข้อตกลงPCA จะช่วยให้ความร่วมมือได้รับการขยายทั้งในด้านสิทธิมนุษยชนและความมั่นคงเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายร่วมกันแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น การต่อต้านโจรสลัด การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และอาชญากรรมข้ามชาติ เป็นต้น” สำหรับเวียดนาม โอกาสขยายตลาดEUหลังจากที่ข้อตกลงPCAได้รับการลงนามก็มีมากขึ้นเพราะปัจจุบัน มูลค่าการค้าระหว่างเวียดนามกับ EUคิดเป็นร้อยละ๐.๓ของยอดมูลค่าการค้าของEU การลงนามข้อตกลงPCA จะสร้างเงื่อนไขล่วงหน้าเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายทำการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคี วางระเบียบการช่วยเหลือให้หน่วยงานและสถานประกอบการสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ความได้เปรียบจากตลาด เงินทุน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และทักษะการบริหารที่ทันสมัยของEU อีกทั้งสร้างเงื่อนไขล่วงหน้าที่สำคัญเพื่อนำไปสู่การเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคีหรือFTAซึ่งจะเปิดโอกาสใหม่ๆ ยกเลิกมาตรการกีดกันการค้าและปลอดภาษี อำนวยความสะดวกให้แก่การขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะการส่งออก ปัจจุบัน มีสินค้าที่เวียดนามส่งออกไปยังEUร้อยละ๔๒ไม่ต้องเสียภาษี ถ้าหากFTAได้รับการปฏิบัติ จำนวนสินค้าส่งออกของเวียดนามที่ได้รับสิทธิพิเศษนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ๙๐ ควบคู่กับการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงFTA EUจะผลักดันการรับรองเศรษฐกิจเชิงตลาดของเวียดนามโดยเร็วซึ่งจะอำนวยความสะดวกเพื่อให้เวียดนามต่อต้านการคุ้มครองทางการค้า เช่น ภาษีต่อต้านการขายทุ่มตลาด เป็นต้น เกี่ยวกับความร่วมมือเพื่อการพัฒนา EUให้คำมั่นเกี่ยวกับหลักการที่ระบุใน PCAคือจะให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาแก่เวียดนามในระยะใหม่ภายหลังปี๒๐๑๓ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์และโครงการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมของเวียดนาม จะให้ความช่วยเหลือเวียดนามปฏิบัติเป้าหมายพัฒนาให้ลุล่วงไปด้วยดีและได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ รวมทั้งเป้าหมายแห่งสหัสวรรษของสหประชาชาติหรือMDGsซึ่งเป็นพื้นฐานเพื่อให้เวียดนามแสวงหาการสนับสนุนที่จำเป็นจากEUเพื่อปฏิบัติเป้าหมายพัฒนาแห่งชาติให้เป็นผลสำเร็จ สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของPCAคือ ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันเกี่ยวกับเนื้อหาของความร่วมมือในด้านใหม่ๆ เช่น การศึกษาฝึกอบรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ป่าไม้ การประมง การป้องกันและลดภัยธรรมชาติ วัฒนธรรม การท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข พลังงาน การคมนาคมและยังช่วยขยายความร่วมมือทางวิชาชีพที่เป็นจุดแข็งและเป็นความต้องการของทั้งEUและเวียดนามโดยมีพันธกรณีที่เป็นรูปธรรมของ EUเกี่ยวกับความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยี และยกระดับทักษะในแต่ละด้าน สร้างพื้นฐานให้เวียดนามใช้ประโยชน์จากจุดแข็งด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีและความช่วยเหลือของ EU เพื่อปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจและผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ในด้านการเมือง PCAจะมีส่วนร่วมทำให้ความสัมพันธ์ทางการเมืองอันดีงามระหว่างเวียดนามกับEUมีความลึกซึ้งยิ่งขึ้น ข้อตกลงที่ได้บรรลุในPCAเกี่ยวกับการเมือง ความมั่นคงและสันติภาพจะเป็นพื้นฐานเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายขยายการสนทนา และร่วมมือกันในการแก้ปัญหาต่างๆที่ให้ความสนใจร่วมกันทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี เช่น สหประชาชาติ การประชุมเอเชียยุโรปหรือASEM โดยเฉพาะ อาเซียน EU เมื่อเวียดนามจะปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประสานความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับEUในเดือนกรกฎาคมปี๒๐๑๒ เอกอัครราชทูตFranz Jessen ยืนยันว่า “แน่นอนว่า การลงนามPCAระหว่างเวียดนามกับEUจะเปิดหน้าใหม่ในความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่าย พวกเราได้ทำให้ความสัมพันธ์นี้กลายเป็นความสัมพันธ์ที่ขยายกว้างและหลากหลายรูปแบบ ผมชอบเปรียบเทียบว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับEUในปัจจุบันเป็นความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยสีสันและมีชีวิตชีวา” จากการพัฒนาอย่างเข้มแข็งของความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับEUในตลอดกว่า๒๐ปีที่ผ่านมา การลงนามข้อตกลงPCA และเริ่มเจรจาข้อตกลงFTA จะเปิดหน้าใหม่ในความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับEU ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายกำลังพัฒนาอย่างดีงามโดยมีกรอบความร่วมมือที่กว้างขวางและลึกซึ้งซึ่งมีส่วนร่วมสนับสนุนภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ การพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกของเวียดนามในอนาคต./.
Ánh Huyền VOV5