การสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง กับเกษตรกรทั่วประเทศ

ในการนี้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ชื่นชมความมุ่งมั่นทุ่มเท ความรับผิดชอบ จิตใจที่ตรงไปตรงมาและเปิดเผยของผู้แทนที่เป็นเกษตรกร ผู้เชี่ยวชาญและผู้ประกอบการ โดยเฉพาะปัญหาที่ได้หารือในการสนทนาครั้งนี้ล้วนเป็นปัญหาที่เร่งด่วนและจำเป็นสำหรับการพัฒนาการเกษตร ชนบทและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดีขึ้น พร้อมทั้งยืนยันว่า พรรคฯและรัฐได้ยืนหยัดทัศนะเกี่ยวในกระบวนการพัฒนานี้โดยให้ความสนใจต่อการบริหารที่เป็นเอกภาพโดยได้ประกาศนโยบายและยุทธศาสตร์สำคัญๆ ที่ยืนยันถึงบทบาทและสถานะของการเกษตร ชนบทและเกษตรกรในกระบวนการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะมติการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคฯ ครั้งที่ 7 สมัยที่ 10 เกี่ยวกับการเกษตร เกษตรกรและชนบท นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ชี้ชัดว่า

“เมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลได้เสนอและปฏิบัติโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจสังคม ในช่วงที่ปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ภายใต้การชี้นำของพรรคฯ และการเดินพร้อมของสภาแห่งชาติ รัฐบาลได้ปฏิบัตินโยบายการเงินต่างๆ เช่น ลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อช่วยเหลือประชาชนและสถานประกอบการ รวมทั้งนโยบายอื่นๆ เช่น การชะลอการเก็บหรือลดภาษี ค่าธรรมเนียม ค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา เป็นต้น”

ในหลายปีที่ผ่านมา ระบบการเกษตรของเวียดนามได้รับการปฏิรูปตามแนวทางที่ทันสมัย พัฒนาทั้งในขอบเขตและทักษะความสามารถในการผลิตและคุณภาพ รวมทั้งขยายตลาดจำหน่ายและมีมูลค่าการส่งออกเพิ่มสูงขึ้น โครงสร้างด้านเศรษฐกิจ แรงงานในเขตชนบทกำลังมีการเปลี่ยนแปลงตามแนวทางที่น่ายินดี การสร้างสรรค์ชนบทใหม่ได้เสร็จสิ้นก่อนเวลาที่กำหนด โครงสร้างพื้นฐานได้รับการยกระดับให้พร้อมเพรียงและทันสมัยมากขึ้น ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น อัตราครอบครัวที่ยากจนลดลงเป็นอย่างมาก เกษตรกรกล้าคิดกล้าทำและมีหลายคนเป็นตัวอย่างแห่งความสำเร็จ การเกษตร ชนบทและเกษตรกรมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาของประเทศ มีส่วนร่วมสร้างความมีเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ค้ำประกันความสมดุลในด้านต่างๆ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เผยว่า การมีส่วนร่วมของการเกษตร ชนบทและเกษตรกรต่อผลสำเร็จของประเทศเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก อันเป็นการยืนยันถึงบทบาทและสถานะที่สำคัญ พร้อมทั้งมีส่วมร่วมสร้างพื้นฐานที่มั่นคงให้แก่ประเทศในการพัฒนาอย่างรวดเร็วและยั่งยืน

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง กำชับว่า ในระยะต่อไป การเกษตรจะเป็นหนึ่งในความได้เปรียบของเวียดนามและมีศักยภาพสูง ดังนั้น ต้องตระหนักได้ดีว่า การเกษตร ชนบทและเกษตรกรคือพื้นฐานและกองกำลังที่สำคัญเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจสังคมอย่างรวดเร็วและยั่งยืนมากขึ้น การยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรคือหน้าที่หลักของทั้งระบบการเมือง พัฒนาระบบการเกษตรและเขตชนบทให้ทันสมัยมากขึ้นคือหน้าที่ที่สำคัญที่สุดในกระบวนการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัย โดยถือเกษตรเป็นฝ่ายรุกและศูนย์กลางในกระบวนการพัฒนา โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ ผลประโยชน์ของประชาชนและการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ทั้งทางวัตถุและจิตใจของเกษตรกรและประชาชนในเขตชนบทบให้ดีขึ้น สร้างสรรค์เขตชนบทที่ทันสมัย เจริญรุ่งเรือง มีอารยธรรมและมีโครงสร้างพื้นฐานด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างพร้อมเพรียงที่สามารถเชื่อมโยงกับเขตตัวเมืองและมีสิ่งแวดล้อมที่สะอาดและสวยงาม

พบปะกับเกษรกรในอำเภอมายเซิน จังหวัดเซินลา

บนพื้นฐานดังกล่าว นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ระบุถึงหน้าที่และมาตรการที่เป็นรูปธรรม 8 ข้อ โดยกำชับให้หน่วยงานทุกระดับต้องยกระดับบทบาท สถานะและทักษะความสามารถในการเป็นฝ่ายรุกของเกษตรกร พร้อมทั้งกำชับว่า

“พัฒนาการเกษตรตามแนวทางที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพและยั่งยืนตามแนวทางการเกษตรเชิงนิเวศ การเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการเกษตรหมุนเวียน ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ยกระดับคุณภาพและมูลค่า สร้างสรรค์เครื่องหมายการค้าที่เชื่อมโยงกับห่วงโซ่การผลิต ห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่มูลค่าภายในและระหว่างประเทศ”